การเมืองกับ ลางร้าย ลางดี และอาถรรพณ์
ไม่ว่าจะยุคสมัยอนาล็อกมาจนถึงสมัยดิจิทัลในปัจจุบันนี้ ประชาชนมักจะสนใจข่าวลางร้ายจนไปถึงเรื่องอาถรรพณ์ทางการเมืองเป็นปกติวิสัยธรรมดาของมนุษย์
เนื่องจาก “ลางร้าย” ทำให้ผู้คนมีจินตนการต่อเรื่องร้ายต่างๆ ที่จะมีเรื่องอุบัติทางการเมืองว่าจะอะไรเกิดขึ้นอย่างโน้นอย่างนี้หรือไม่เช่นเดียวกับ “อาถรรพณ์” ให้คิดได้สารพัดอาถรรพณ์
สำหรับ “ลางดี” นั้นก็คือดี เมื่อคิดว่า “ดี” ก็จบไม่รู้จะพูดอะไรต่อไปอีก!!
รัฐบาล คสช.ของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอเวลาไม่นานมาเกือบ 4 ปีเต็ม
จึงเป็นเรื่องปกติที่รัฐบาลของท่านผู้นำ “บิ๊กตู่” ย่อมมี “ขาลง”??
เมื่อรัฐบาล คสช.ซึ่งมาจากการรัฐประหารอยู่นานเกินกว่าการปฏิวัติหลัง 14 ตุลาคม 2519 ที่เกิดขึ้นหลายครั้งที่คณะปฏิวัติทุกชุดขอเวลาแค่ปีเศษๆ เท่านั้น ดังนั้น รัฐบาล คสช.ที่อยู่มาตั้งแต่เดือน พ.ค.2557 จนถึง ณ เวลานี้เดือน ก.พ.2561 ย่อมเกิดอาการ “ขาลง” ตามความรู้สึกของคนทั้งประเทศ
ดังนั้น ในช่วงเวลาใกล้ตรุษจีนที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ทั้งแตก แก้เคล็ด แตกร้าว เกิดขึ้นติดต่อกันโดยมิได้นัดหมาย เช่น กระถางอ่างบัวหลากสีในทำเนียบรัฐบาลแตก ก็วิเคราะห์กันไปตามความคิดว่าจะมีเหตุ “ลางร้าย” ต่อรัฐบาล จนกระทั้งมีการประดับโคมแดงที่หน้าประตูทำเนียบรัฐบาลเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนของโลก แต่ก็มีเสียงลือว่าเป็นการ“แก้เคล็ด” และวันต่อมาเกิดไฟไหม้กองลังกระดาษธนาคารกรุงไทยในทำเนียบ โดยไม่ให้ “ลางร้าย” หยุดพักบ้าง!!
หลังตรุษจีน ก็มีกระถางต้นข่อยที่ปลูกประดับไว้หน้าตึกนารีสโมสร ในทำเนียบรัฐบาลแตกร้าวไม่ถึงกับหักออกมาเป็นหลายท่อน และมีเจอธูปที่จุดแล้ว 36 ดอกที่ปักอยู่ข้างพุ่มไม้สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล จึงเป็นธรรมดาที่มีการลือว่าความแตกร้าวเป็นอาถรรพณ์ ก็เลยต้องจุดธูปแก้เคล็ด!!
“ลางร้าย” ที่ทำให้คิดได้อีกล่าสุดก็คือ อีกา 2 ตัวไล่จิกนกพิราบตายที่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล และช่วยกันจิกช่วยกันลากซากนกพิราบจนไส้ทะลัก!?!
เรื่องลางร้าย และอาถรรพณ์ จะส่งผลให้รัฐบาล “บิ๊กตู่” แตกและร้าวเหมือนอย่างอ่างบัวและกระถางต้นข่อยหรือไม่แต่ “บิ๊กตู่” ของคนที่รักที่ชอบไม่ค่อยเชื่อ แต่ไม่ลบหลู่!!
ปรากฏการณ์ที่คิดไปได้ว่าเป็น “ลางร้าย” และ “อาถรรพณ์” มีหรือที่ “โหร” คนดังทางการเมืองจะไม่ดูดวงเมืองดูดวงท่านผู้นำจะมีอะไรบังเกิดขึ้นหรือไม่ในช่วงนี้และวันข้างหน้า
“โหร” คนแรกที่แหงนดูดวงดาวบนฟากฟ้าสุราลัยเพื่อพยากรณ์คำทำนาย คือบุญเลิศ ไพรินทร์ ซึ่งเป็นอดีต ส.ว. มีฉายาประจำตัวว่า “โหร ส.ว.” ได้ทำนายว่า เหตุการณ์ที่ตำรวจถอยรถชนอ่างบัวในทำเนียบแตกหักออกมา อาจเกิดขึ้นโดยบังเอิญ ไม่ใช่ลางร้าย หรือว่าเทวดาจงใจให้เกิดขึ้น
เพราะดวงชะตาของ “บิ๊กตู่” มีดาวประจำตัวคือ ดาวเสาร์ตกเรือนวินาศ ทำให้หน้าที่การงานผิดพลาดไปหมด พร้อมจะล้มลงตลอดเวลา ที่อยู่ได้เพราะดาวดีคือดาวพฤหัสบดีทับราศีตุลย์ หรือราศีการงานอยู่ทำให้อยู่ได้ ถ้าวันใดดาวพฤหัสบดีตกวินาศ โดยเฉพาะปี 2562 จะเป็นอันตรายกับรัฐบาล คสช.
อ่านคำทำนายของ โหร ส.ว.แล้ว วิเคราะห์ตามดวงได้ว่า “บิ๊กตู่” จะอยู่ในเก้าอี้จนถึงต้นๆ ปี 2562 ซึ่งแสดงว่าเลือกตั้งจะเกิดขี้นในเดือน ก.พ. 2562 แน่ตามแผนที่ สนช.ได้ปรับแก้ไขกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ให้ยืดเวลาเลือกตั้งจากเดือน พ.ย. 2561 ไปเป็น ก.พ. 2562 เพื่อให้สืบทอดอำนาจออกมาอีกนิดหนึ่งที่อาจส่งผลให้สืบทอดอำนาจไปอีกยาวไกล??
ทว่าคำนายของ โหร ส.ว. ที่ได้ย้ำว่า ขณะนี้ดาวเสาร์ถูกมฤตยูเล่นงานบริวารอยู่ หลังเดือน เม.ย.- พ.ค.2561 อาจมีการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาล!?!
ส่วน “โหร” อีกท่าน คือวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ ที่ได้รับฉายาว่า “โหร คมช.” เพราะเคยเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติสมัยที่ “บิ๊กบัง” พล.อ.สนธิ บุณยรัตนกลิน อดีต ผบ.ทบ. ยกทัพปฏิวัติยึดอำนาจจาก “เสี่ยแม้ว” เมื่อ 19 ก.ย. 2549 ได้มองด้วยสายตาของโหรอีกตำราว่า เหตุต่างๆ ที่เกิดขึ้นในทำเนียบรัฐบาลเป็นเรื่องอุบัติเหตุ ไม่ใช่ “ลางร้าย” อะไร ไม่เกี่ยวกับเรื่องอาถรรพณ์ ไม่ต้องไปแก้อะไรทั้งสิ้น
เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาจากคนรอบข้าง หรือบริวารของนายกรัฐมนตรี ไม่ส่งผลให้รัฐบาลแตกแยกร้าวฉาวอะไร??
โหร คมช.จับยามสามตาอีกว่า ตนเห็นว่ารัฐบาลชุดนี้ยังทำหน้าที่ต่อไป เมื่อหน้าที่มีอยู่ก็ต้องทำไป แต่จะราบรื่นหรือไม่อยู่ที่เหตุการณ์ต่างๆ ในการทำงาน ไม่เกี่ยวกับอาถรรพณ์ลางร้ายทั้งสิ้น แต่ถ้าหมดหน้าที่เมื่อไหร่ ไม่ว่าใครก็ต้องหมดเวลาตรงนั้นและตอนนี้ยังไม่มีการปรับเปลี่ยน แต่ถ้าช่วงเดือน เม.ย.2561 นี้เป็นต้นไป ค่อยมาว่ากันอีกที ขอยืนยันว่าไม่มีอะไรเป็นปัญหาเกิดเรื่องลุกลามใหญ่โต
คำทำนายของ โหร ส.ว. กับ โหร คมช. มีตรงกันว่าหลังเดือน เม.ย.นี้จะมีการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาล “บิ๊กตู่” เพราะฉะนั้น เราๆ ท่านๆ ต้องติดตามอย่าได้กะพริบตา อะไรจะเกิดมันก็เกิด!
เหตุการณ์อีกา 2 ตัวไล่จิกนกพิราบที่จะเป็น “ลางร้าย” หรือ “อาถรรพณ์” หรือไม่อย่างไร โหรทั้ง 2 ท่านมิได้เปิดตำราของตนทำนายว่าจะมีเหตุอะไร
โดยเฉพาะ “โหร คมช.” ได้รับการร้องขอจากผู้ใหญ่ในรัฐบาลอย่าได้ทำนายเหตุประหลาดที่อีกาไล่จิกนกพิราบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในทำเนียบรัฐบาล ทำนายไปแล้วประชาชนจะสงสัยสับสนได้!?!
น่าเสียดายจริงๆ ที่ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ของ “บิ๊กตู่” ยุคนี้ ไม่ได้แต่งตั้ง “โหร” เข้าไปเป็น สนช. มิฉะนั้นแล้วจะมี “โหร คสช.” ก็คงจะได้แข่งดูดวงทำนาย “บิ๊กตู่” ให้มีรสชาติคำทำนายที่แตกต่างกันว่า โหรคนไหนจะแม่นกว่ากัน??
คำพยากรณ์ของแต่ละ “โหร” มีความแตกต่างกันเป็นธรรมดา เหมือนกับความคิดเห็นของคนที่แตกต่างกัน จะให้มีความคิดเห็นตรงกันทุกอย่างย่อมเป็นการฝืนธรรมชาติ
ดังเช่นกลุ่มนักศึกษาจำนวนหนึ่งเรียกร้อง “อยากเลือกตั้ง” ตามที่ “บิ๊กตู่” ได้สัญญากับประชาคมโลกว่าไทยจะมีเลือกตั้งในเดือน พ.ย. 2561 นี้ ไม่ต้องการเลื่อนไปอีก 90 วัน
ซึ่ง “บิ๊กตู่” กลับมองว่ากลุ่มนักศึกษาและอาจารย์นักวิชาการกลุ่มหนึ่งทำให้บ้านเมืองเกิดความขัดแย้งวุ่นวาย ถ้ามองมุมกลับอีกด้าน กลุ่มนักศึกษาและอาจารย์นักวิชาการต้องการรักษาเกียรติภูมิของประเทศไทย ไม่ให้ผู้นำของไทยเสียวาจาสัตย์ต่อนานาชาติเปรียบเสมือน “ลางดี” ต่อประเทศก็ได้??
สำหรับเรื่องที่ สนช.ใช้อภินิหารทางกฎหมายปรับเปลี่ยนแก้ไขให้เลือกตั้งเลื่อนออกไป 90 วัน “บิ๊กตู่” บอกแต่เพียงว่ารัฐบาลไม่เกี่ยวไม่สามารถเข้าไปยุ่งกับ สนช.ได้ แต่ผู้คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่?
ทั้งๆ ที่ปัญหาเลื่อนเลือกตั้งเป็นการจุดไฟขัดแย้งขึ้นมาในบ้านเมืองในขณะนี้ อาจเปรียบเทียบกับ “ลางร้าย” ที่อะไรจะเกิดมันก็เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา !?!
ขอให้ประเทศไทยจงเป็นสุขเป็นสุขจากลางร้าย ลางดีและอาถรรพณ์เถิดอมิตตาพุทธ!!
นายจักรยาน
Social Links