การเมืองจ้องจับผิด ทุกคนต้องตื่นรู้สู้โกง สารพัดเรื่อง?

การเมืองจ้องจับผิด ทุกคนต้องตื่นรู้สู้โกง สารพัดเรื่อง?

          วันเวลากำลังเดินหน้าไปสู่โรดแม็พวันเลือกตั้งตามที่รู้กันทั้งโลกว่าคือวันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์  2562

            แต่ละพรรคการเมืองต่างจ้องจับผิดพรรคคู่ต่อสู้กันแทบทุกเรื่อง  ไม่ว่าจะมีการออกมากล่าวหาอีกพรรคว่า “ตกเขียว” หาเสียงล่วงหน้ากับชาวบ้าน จนเป็นเรื่องมีการฟ้องร้องต่อศาลตามกระบวนการกฎหมายเรื่องการหมิ่นประมาท ใส่ร้ายป้ายสีทำให้เกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียง

ที่หนีไม่พ้นในช่วงสถานการณ์การเมืองในเวลานี้ ก็คือ คสช.โดนจับผิดในทุกความเคลื่อนไหว  เพราะพรรคการเมืองเก่าขนาดใหญ่ถือว่า คสช.เป็น “คู่แข่ง” ทางการเมืองเช่นกัน

ไม่ว่า “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะนำ ครม.ไปสัญจรที่จังหวัดใด หรือ “บิ๊กตู่” ไปตรวจราชการดูงานความคืบหน้าจังหวัดไหน ก็มักจะตอกย้ำผ่านสื่อทั้งหลายว่า มาทำงานการบ้านเพื่อประชาชน  ไม่ใช่มาเสียงทางการเมือง

แต่พรรคการเมืองเก่าที่เป็นคู่ปรปักษ์ไม่ยักกะเชื่อว่ามาเรื่อง “การบ้าน” โจมตีทุกครั้งว่ามาเรื่อง “การเมือง” เนื่องจากมีการเดินสายพบประชาชนถี่ยิบในช่วงใกล้ ๆ วันเลือกตั้ง

นอกจากนี้พรรคการเมืองเก่ายังจ้องจับผิด คสช.ที่ปล่อยให้กลุ่มการเมืองที่สนับสนุนเชียร์ “บิ๊กตู่”ให้สู้ ๆ ต่อไปอีก  โดยเฉพาะ “กลุ่มสามมิตร” ที่ได้เดินสายทางการเมืองด้วยการ “ดูด” ไปทั่วประเทศอย่างอิสระเสรี โดยไม่มีเสียงขู่ คสช.ออกมาห้าม หรือมีคำสั่งห้าม “ดูด” ใด ๆ ทั้งสิ้น

พร้อมทั้งจับผิดพรรครวมพลังประชาชาติไทยที่ “ท่านเทพเทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ยิ่งใหญ่ของพรรคเปิด “โรงเรียนการเมือง”   เป็นเหตุให้พรรคการเมืองเก่ามองว่าอาจขัดคำสั่งล็อกของ คสช.ที่ยังไม่ได้เปิดคลายให้ทำกิจกรรมการเมืองได้

แต่ คสช.ดูเหมือนไม่รู้ไม่ซี้  ทำเป็นงงว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวผิดหรือไม่ที่มีคำสั่งล็อกอยู่?

            สถานการณ์การเมืองที่เริ่มมีรสมีชาติในเวลานี้  สาธุชนที่เฝ้าติดขอบสนามการเมืองที่บรรดาพรรคการเมืองและ คสช.กำลังเล่นกันอยู่นั้น ย่อมใช้วิจารณญาณเองได้ว่าพวกเขาเล่นอะไรกัน??

            ความภาคภูมิใจของรัฐบาล คสช.ที่มีต่างประเทศมารับรองไม่ว่าจะเรื่องความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย  การท่องเที่ยวของไทยที่เป็นประเทศนักท่องเที่ยวอยากเข้ามาเที่ยวมากที่สุด  .ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลเอามาคุยเป็นผลงานเครดิตของตนเองตลอดเวลา

            แต่พรรคการเมืองคู่ปรปักษ์ออกมาดิสเครดิตในผลงานต่าง ๆ ของรัฐบาล “บิ๊กตู่”ไม่ขาดปากเป็นระยะ ๆ

            สำหรับองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นแห่งประเทศไทย ได้ประกาศให้เครดิตคะแนนเต็มร้อยแก่ “บิ๊กตู่”ในการสนับสนุนการปราบการทุจริต

            แต่ฝ่ายการเมืองไม่รู้สึกยินดียินร้ายร้อยคะแนนของ “บิ๊กตู่”  พร้อมทั้งยังโจมตีการปราบปรามป้องกันคอร์รัปชั่นในเรื่องอื่น ๆ อย่างเหลวเป๋ว  ชักช้ายื้อเวลาเกินรอ   อันดับการปราบทุจริตของประเทศทั่วโลกก็ไม่ขยับดีขึ้นแต่ประการใด

            แว่ว ๆ มาเข้ารูหูในเวลานี้ว่า หลาย ๆ ฝ่ายทั้งฝ่ายการเมืองกำลังจ้องจับผิดเรื่องประมูลซื้อเครื่องตรวจจับความเร็วแบบพกพา 849 เครื่องของ กรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย  กระทรวงมหาดไทยว่าจะมีการ “ล็อกสเปก” ตามคุณขอมาของใครก็ไม่รู้  รู้เพียงว่าเป็นคนใหญ่มี “สี” ??

          ถ้าเปิดซองประมูลออกมาไม่มีปัญหาร้องเรียน แสดงว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมตามกฎกติกา

            ทว่าเปิดซองออกมาโปะเชะเป็นไปตามข่าวแว่ว ๆ รับรองว่าปัญหานี้จะขยายความให้ใหญ่โตตามสื่อต่าง ๆ ในเรื่องการไม่ชอบพามากลแน่นอน!!

          เมื่อผ่านมาไม่กี่วันของเดือนกันยายน 2561 ทั้งองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) และรัฐบาลได้รณรงค์ทั่วประเทศให้ “คนไทย ตื่นรู้  สู้โกง”!!

            ดังนั้นปัญหา “ล็อกสเปก” ดังกล่าว  “บิ๊กตู่” ไม่ตื่นรู้  สู้โกง   จนเป็นเหตุให้เกิดเรื่องอื้อฉาวขายหน้าแล้วล่ะก็

            อาจส่งกระทบให้คะแนนเต็ม 100 ของ “บิ๊กตู่” หดหายลงไปกว่าครึ่งก็ได้??

          เราเตือนลุงแล้วนะจะบอกให้!!

                                    นายจักรยาน