การเมืองที่ร้อนระอุ ไม่ใช่มาจากพายุฤดูร้อน แต่มาจาก "คน"!!
การเมืองของที่นี่ประเทศไทยช่วงร้อนสุด ๆ หลายจังหวัดทางภาคเหนือติดอันดับร้อนสุดของประเทศทั่วโลก ก็มีความร้อนระอุสุด ๆ เช่นกัน
นับตั้งแต่เรื่องที่ "คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่โดนคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.)ชี้มูลว่าอาจเข้าข่ายลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญที่มีการถือครองหุ้นสื่อ อาจต้องหลุดจาก ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของพรรค
(หมาเหตุ..ที่เขียนเรียก "ธนาธร" ว่า "คุณ" ไม่เรียกว่า "พี่" หรือ "น้อง" หรือ "หลาน" หรือ "น้า-อา" ก็เป็นไปตามความประสงค์ของ "คุณธนาธร"ที่อยากปฏิรูปคำเรียกขานใหม่เป็น ผม คุณ ฉัน เธอ เพราะถ้าเรียกลำดับญาติแบบไทย ๆ จะกลายป็นเรื่องอำนาจนิยม บ้านเมืองไม่พัฒนา)
ดังนั้นเรา ๆ ท่าน ๆ ก็ต้องรอวันเวลา กกต.ได้พิจารณาการแก้ข้อกล่าวหาว่า "คุณธนาธร" ว่าฟังขึ้้นหรือไม่ขึ้น
ทั้งนี้และทั้งนั้นอยู่ที่ "กรรม" ประการเดียว จะเป็น "กรงกรรม"หรือเปล่า ทุกคนสามารถใช้วิจารณญาน "กฎแห่งกรรม" ได้ตามสบายใจของแต่ละคน
ถ้าชี้ว่ามีความผิดขัดรัฐธรรมนูญ "คุณธนาธร" ของบรรดาแฟนครับทั้งหลายก็ขาดคุณสมบัติ เพราะเป็นการปกปิดหรือไม่แจ้งข้อเท็จจริงเรื่องคุณสมบัติต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98
ซึ่งก็เทียบเคียงได้กับกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 54 วรรคสองที่ได้บัญญัติว่า
"หากผู้สมัครรู้อยู่ว่าตนเป็นผู้ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งแล้วปกปิด หรือไม่แจ้งข้อเท็จจริงนั้น ให้ถือว่าการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้นมิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม"
นอกจากนี้ กกต. ยังมีอำนาจในการยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของนักการเมืองสั่งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้้งของผู้นั้นตามมาตรา 138 ของกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง
ไม่ว่า "คุณธนาธร"จะโดนหรือไม่โดนกฎกติทางการเมืองเล่นงาน คำวินิจฉัยสุดท้ายของ กกต.ที่ออกมาจะเป็นข่าวร้อนข่าวใหญ่แน่นอน
อีกเรื่องร้อน ๆ ตามสภาพอากาศก็คือ กกต. ต้องคิดหาสูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์ตามที่ได้บัญญัติไว้รัฐธรรมนูญ และกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งเอาเองว่าจะใช้สูตรไหนดี
เหตุที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องของ กกต.ที่ให้วินิจฉัยปัญหาการคิดสูตรปาร์ตี้ลิสต์ เนื่องจาก กกต.ยังมิได้ดำเนินการคิดคำนวณ จึงยังไม่มีปัญหาว่าอะไรจะเกิดขึ้น
แต่ช้าแต่…ผู้ตรวจการแผ่นดินยังสงสัยวิธีคำนวณสูตรปาร์ตี้ลิสต์ ที่ประชุมจึงมีมติเอกฉันท์ให้ส่งเรื่องข้อกังขาไปให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ
เนื่องจากกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 128 ซึ่งกำหนดวิธีการคำนวณหา ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญมาตรา 91 หรือไม่
เพราะในรัฐธรมนูญมาตรา 91 มีการกำหนดวิธีการคำนวณไว้ 5 อนุมาตรา แต่เมื่อมาบัญญัติเป็นกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.กลับมีการขยายเพิ่มเป็น 8 อนุมาตรา
โดยอนุ 4 อนุ 6 และอนุ 7 ขยายข้อความนอกเหนือมาตรา 91 ที่ระบุ ส.ส.พึงมีเบื้องต้น ทำให้การคำนวณ ส.ส.ไม่เป็นไปตามเจตจำนงของรัฐธรรมนูญมาตรา 91
ณ วันนี้ ไม่มีใครรู้ว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะรับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินไว้วินิจฉัยหรือไม่ หรือยกคำร้องเหมือนเช่น กกต.ที่ได้ยื่นเรื่องมาให้ตีความ
ด้วยเหตุฉะนี้ สูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสตก็ยังมีองศาร้อน พอ ๆ กับอากาศของประเทศไทยที่ร้อนทะลักจุดเดือดระดับโลก
ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะรับไว้ตีความ เพื่อหาทางออกวิธีคำนวณปาร์ตี้ลิสต์ที่ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ หรือไม่รับวินิจฉัยให้ กกต.คำคำนวณตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.เอาเอง
แม้จะมีสูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์ที่จะดำเนินการาจัดสรรปันส่วนออกมาในที่สุด เขื่อเต็มร้อยว่า ย่อมมีทั้งถูกใจและไม่ถูกใจเป็นธรรมดาของเกมการเมือง
พร้อมทั้งมีเสียงขู่ล่วงหน้าจากพรรคการเมืองใหญ่ออกมาว่าถ้าคิดสูตรผิดจะต้องมีผู้ที่รับผิดชอบ!!
ปิดท้ายเรื่องร้อน ๆ สุดของการเมืองอีกปัญหาหนึ่งก็คือ ผู้ตรวจการแผ่นดินจะวินิฉัยว่าการเลือกต้้งที่ผ่านมาเป็น "โมฆะ" หรือไม่ตามที่สมาชิกพรรคเพื่อไทยส่งเรื่องร้อน ๆ มาให้คิดพิจารณาเพื่อส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตัดสิน
แต่ทว่าในที่สุด ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาความร้อนในเรื่อง "โมฆะ" แล้ว มีมติยุติเรื่องไม่ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เนื่องจากเห็นว่าไม่อยู่ในอำนาจและหน้าที่จะเสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญ
ถึงแม้เรื่อง "โมฆะ" จะได้หายร้อนไปได้บ้าง แต่สำหรับการเมืองที่ร้อน ๆ ทั้งเรื่อง "คุณธนาธร" และ "สูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์" ยังร้อนระอุคุกรุ่นตลอดเวลา
ดังนั้น พายุฤดูร้อนทางการเมืองจะลดลงไปได้ ก็อยู่ที่ "คนการเมือง" ซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องเคารพกฎกติกาของกฎหมายที่บัญญัติไว้
ถ้าไม่ให้ความเคารพ เรื่องก็ยุ่งไม่จบ สวัสดี!!
นายจักรยาน
Social Links