การเมือง”เซอร์ไพร้ส์” อาจเป็นไปได้  แต่ก็จบข่าวด้วยความเป็นไปไม่ได้!?!

การเมือง”เซอร์ไพร้ส์” อาจเป็นไปได้  แต่ก็จบข่าวด้วยความเป็นไปไม่ได้!?!

การเมือง"เซอร์ไพร้ส์" อาจเป็นไปได้  แต่ก็จบข่าวด้วยความเป็นไปไม่ได้!?!

                มีคำกล่าวที่เป็นอมตะว่า "ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้"  โดยเฉพาะการเมืองเรื่องยุ่ง ๆ ที่คิดกันว่าเป็นไปไม่ได้ก็ "เป็นไปได้" ให้เกิดความ "เซอร์ไพร้ส์"

                แต่การเมืองนั้นเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน  ความความเซอร์ไพร้ส์ที่เกิดขึ้นมานั้น  ก็แปรเปลี่ยนด้วยความไม่เซอร์ไพร้ส์ได้อย่างรวดเร็ว!!

                ดังเช่นกรณีที่ พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เสนอขื่อ "ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เป็นแคนดิเดต "นายกรัฐมนตรี"

                ซึ่งความเซอร์ไพร้นส์เกิดขึ้นในช่วงเช้า และมายุติเรื่องเซอร์ไพร้ส์ลงในตอนดึกของวันเดียวกัน เมื่อมีประกาศพระราชโองการของในหลวงรัชกาลที่ 10 ซึ่งพอสรุปได้ว่า การเสนอชื่อทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน ฯ ขัดต่อโบราณราชประเพณี และขัดต่อรัฐธรรมนูญ

                แม้ว่าทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน ฯ ได้ลาออกจากฐานันดรศักดิ์แล้วก็ตาม  แต่ยังทรงเป็นพระราชธิดาองค์ใหญ่ของในหลวงรัชการที่ 9 และเป็นสมาชิกในพระราชวงศ์  ไม่สามารถเกี่ยวข้องกับการเมือง ต้องเป็นกลาง และอยู่เหนือการเมืองตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญปี 2560 ฉบับปัจจุบันนี้

                ดังนั้น  การเสนอชื่อ "ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน ฯ " เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคไทยรักษาชาติ ก็จบข่าว!!

                แต่ข่าวของพรรคไทยรักษาชาติยังไม่จบ  ก็มีกระแสออกมาจะมีบางฝ่ายให้ กกต.หาช่องทางกฎหมายยุบพรรคไทยรีกษาชาติ  ซึ่งก็ต้องรอและคอยดูกันต่อไปว่าข่าวจะจบลงอย่างไร??

                ส่วนเรื่องที่ไม่ได้สร้างความเซอร์ไพร้ส์ทางการเมือง ก็คือ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอขา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. ตอบรับคำเขิญของ "พรรคพลังประชารัฐ" ให้เสนอชื่อเข้าชิงเก้าอี้ "นายกรัฐมนตรี " เพียงหนึ่งเดียว

                ผู้สันทัดกรณีการเมืองเรื่องยุ่ง ๆ วิเคราะห์ถึงสาเหตุที่มีเรื่องมีราวการเซอร์ไพร้ส์ให้ประชาชนงงกันสับสน อาจมาจากรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ปี 2560 ที่มีการร่างให้พิศดารพันลึกฉีกแนว "ครึ่งใบ" ให้มีความแตกต่างจากในอดีต

                ด้วยเหตุฉะนี้  สาธุท้ังหลายกรุณาเฝ้าจับตาดูสีสันช่วงหาเสียงของพรรคการเมืองต่าง ๆ ไปจนถึงวันเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 นี้

                เพราะจะต้องมีอะไร ๆ "เซอร์ไพร้ส" ออกมาให้ตะลึงตึงตังอีกเยอะแยะ!!

                สำหรับการเมืองที่เซอร์ไพร้ส์ของไทยแลนด์โอนลี่ที่สนองต่อรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จนนานาชาติต้องอุทานออกมาคิดได้ไงวะ  เมื่อผู้สมัคร ส.ส.ชายของพรรคเพื่อชาติ  ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "ทักษิณ"  และผู้สมัคร ส.ส.หญิงเปลี่ยนชื่อเป็น "ยิ่้งลักษณ์"  รวมแล้วประมาณ 15 คนในหลาย ๆ จังหวัด

                ผู้สม้ครที่เต็มใจเปลี่ยนชื่อได้อ้างว่า  เพื่อประชาชนจำได้ง่าย  เพราะทั้ง 2 ชื่อเป็นชื่อที่ประชาชนยังรักชื่นชอบ??

                ก็ขออวยให้ผู้มีชื่อใหม่ว่า "ทักษิณ" และ "ยิ่งลักษณ์" ได้รับเลือกเข้ามาเป็น ส.ส.ทุกคน  แต่ถ้าไม่ได้ก็ต้องโทษชื่อ "ทักษิณ" และ "ยิ่งลักษณ์" ก็แล้วกันนะ??

                พรรคเพื่อชาติ  ตระกูล"เพื่อ" ประชาชนคนทั้งประเทศรู้กันด้วยความฉลาดว่าเป็นพรรคที่แตกกิ่งสาขาออกมาจาก "เพื่อไทย" ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่บอนไซไมให้พรรคการเมืองมีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร

                การเปลี่ยนชื่อของผู้สมัครพรรคเพื่อชาติก็เลยปิดไม่มิดว่า "พรรคเพื่อชาติ"  เป็นอีกพรรคที่ "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" เป็นเจ้าของตัวจริงเสียงจริงไม่ต้องอิงนิยายแต่ประการใด!?!

                ดีไม่ดี  อาจมีผู้หวังดีประสงค์ร้ายยื่นเรื่องร้อง กกต.ว่า "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" ครอบงำพรรค  เรื่องก็จะบานปลายกันสนุกสนานระทึกใจแน่นอน!!

                โชคดีของ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ที่ไม่มีผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคการเมืองที่เชียร์ "บิ๊กตู่" เปลี่ยนชื่อเป็น "ประยุทธ์" !!

                มิฉะนั้น  ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎรอาจจะมีชื่อ "ประยุทธ"  "ทักษิณ" และ "ยิ่งลักษณ์" กันหลายสิบคนให้ประธานที่เคารพในสภาฯ เรียกด้วยความสับสน!?!

                ความเซอร์ไพร้ส์ทางการเมืองที่อุบัติขึ้นเป็นระยะ ๆ ในเวลานี้ ถือได้ว่าเป็นประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่ต้องจดบันทึกไว้ให้ลูกหลานได้จดจำทั้งเรื่องดีและไม่ดี

                แม้ว่าประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งประมาณ 52 ล้านคนจะเป็นผู้สร้างความเซอร์ไพร้ส์หรือไม่เซอร์ไพร้ส์ในวันเลือกตั้งที่ 24 มีนาคมนี้ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาอย่างไร

                โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่มีอายุครบ 18 ปีตั้งแต่ พ.ศ.2555 จนถึงปัจจุบันนี้ที่ไม่เคยไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งมีอยู่ประมาณ 5.6 ล้านคน ก็มีสิทธิสร้างความเซอร์ไพร้ส์ได้??

                แต่จำนวนเสียงทั้งหมดเพียงแค่สร้างความพลิกล็อกว่า พรรคการเมืองไหนจะเซอร์ไพร้ส์เป็นแชมป์ที่นั่ง ส.ส. ก็มิใช่หมายความว่าเป็นผู้ตัดสินว่าใครจะได้เป็น "นายกรัฐมนตรี"

                เนื่องจากบทเฉพาะกาลในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้ให้อำนาจมือของจำนวน ส.ว. 250 คนมีสิทธิลงคะแนนเสียงว่าใครสมควรได้เป็นนายกรัฐมนตรี

                ดังนั้นความเซอร์ไพร้ส์หรือไม่เซอร์ไพร้ส์อยู่ในกำมือของ ส.ว.ทั้ง 250 คนนี่แหละ!!

                สวัสดี การเมืองประเทศไทย!!

                                                นายจักรยาน

               

You may also like

“ทิพยฯ”สานต่อแนวคิดจิตอาสา นำวิถีพอเพียง ร่วมดำนาในผืนนาประวัติศาสตร์ ณ ศูนย์ต้นแบบเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) จ.อ่างทอง

“ทิพยฯ”ส