การแก้ไขรัฐธรรมนูญยังไม่จบ  “โควิดล้างโลก” ก็ไม่จบง่าย ๆ ??

การแก้ไขรัฐธรรมนูญยังไม่จบ  “โควิดล้างโลก” ก็ไม่จบง่าย ๆ ??

การแก้ไขรัฐธรรมนูญยังไม่จบ  "โควิดล้างโลก" ก็ไม่จบง่าย ๆ ??

นายจักรยาน

                 สถานการณ์โควิดไวรัสนรก และการเมืองเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ  ยังเป็นเรื้องเป็นราวของสนุกตืนเต้น  ชวนระทึก เร้าใจ อกสั่นขวัญแขวน วิตกจริง ของประชาชนคนไทยทั้้งประเทศ

               จบไปเรียบร้อยโรงเรียน ส.ว.แล้วในการพิจารณาญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ ส.ว.เห็นชอบให้ผ่านญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญของ พรรค ปชป.ฉบับสุดท้ายที่ 13 ที่ภูมิใจนำเสนอการแก้ไขบัตรเลือกตั้งจากใบเดียวเป็น 2 ใบ

                เพราะเป็นร่างญัตติฉบับที่มีจำนวน ส.ว.เกิน 84 คนที่เป็นจำนวน 1 ใน 3 ของจำนวน ส.ว.ทั้งหมดตามกติการัฐธรรมนูญปี 60 เห็นชอบให้ผ่าน

                ส่วนอีก 12 ญัตติที่เป็นของพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคฝ่ายค้านนั้นตกสวรรรคฺ์ไปตามกลเกมของการเมือง

                ไม่ว่าจะเป็นประเด็นเรื่องแก้ไขให้ ส.ส.และ ส.ว.มีสิทธิล้วงลูกงบประมาณแผ่นดิน และเข้าไปแทรกแซงการทำงานของข้าราชการได้ โดยให้ยกเลิกบทลงโทษตามรัฐธรรมนูญปี 60

                ที่สำคัญคือบรรดา ส.ส.ของพรรคการเมืองต้องการปิดสวิตซ์ ส.ว.ห้ามยกมือหนุนใครนั่งเก้าอี้ "นายกรัฐมนตรี" ก็โดน ส.ว.ปิดสวิตซ์ความปรารถนาของนักการเมืองอย่างฉันไม่แคร์

แม้ว่าที่ประชุมรัฐสภาจะผ่านญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องให้ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบของพรรค ปชป.  ก็ย่อมส่งผลให้พรรค ปชป.อดภูมิใจญัตตติของตนเองไม่ได้ที่เข้าตาท่าน ส.ว.ผู้ทรงเกึยรติเกิน 84 คนที่โอเค

            นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฐ์  หัวหน้าพรรค ปชป. ปลื้มใจว่าอย่างน้อยเป็นการนับหนึ่งของการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อไป ถือว่าเป็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ที่อาจนำไปสู่การแก้ไขประเด็นสำคัญอื่นที่ควรแก้ไขให้มากขึ้น

                สำหรับญัตติร่างแก้ไขของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)แกนนำรัฐบาล ที่ใครต่อใครคาดกันไว้ว่า  ส.ว.กับพรรคแกนนำรัฐบาลของ "บิ๊กป้อม" และ น้อง ป.คนเล็ก "บิ๊กตู่ ประยุทธ" เป็นคนกันเอง  ยังไง ๆ ก็ยกมือให้ผ่านแน่

                แต่ทว่ามีเสียงส่วนใหญ่ของ ส.ว.ได้ออกมาโวยเสียงดังก่อนหน้านั้นว่าการแก้ไขให้ ส.ส.และ ส.ว.เข้าไปจุ้นจ้านงบประมาณแผ่นดิน และยุ่มย่ามกับข้าราชการนั้น มันไม่ใช่เป็นเรื่องปราบโกงตามนโยบายของรัฐบาล  แต่เป็นเรื่องที่หาช่องให้โกงมากกว่า??

                ด้วยเหตุฉะนี้  ส.ว.เสียงส่วนใหญ่ก็ออกเสียงปิดสวิตซ์ในประเด็นดังกล่าวอย่างไม่ไว้หน้ารัฐบาล "ลุงตู้" และพรรคของ "ลุงป้อม"

                อย่างไรก็ตามนายไพบูลย์  นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค พปชร.จะออกมาอ้อน ส.ว.ว่า ขอให้ ส.ว.ให้ผ่านไปวาระแรกไปก่อนเถอะ  ในขั้นแปรญํตติของกรรมาธิการ ฯ จะแก้ไขเรื่องดังกล่าวให้เป็นไปตามความเห็นของ ส.ว.ทีต้องการปราบโกง

                ปรากฏว่า บรรดา ส.ว.ไม่เชื่อน้ำคำของรองหัวหน้าพรรค พปชร. เพราะรู้เซ่นเห็นขาติว่าคำพูดของนักการเมืองที่เป็นท่านผู้ทรงกียรติไว้ใจไม่ได้  ก็เลยต้องหักดิบให้รู้ว่าไผเป็นไผ!?!

                อย่าว่าแต่ ส.ว.ไม่ไว้วางใจน้ำลายของ ส.ส. ที่ดีแต่พูดให้ดูดี  แม้แต่ประชาชนส่วนใหญ่ก็ไม่เชื่อวาจาที่พ่นออกมาจากปาก ส.ส.บางจำพวกเช่นกัน!!

                เพราะฉะนั้น เรา ๆ ท่าน ๆ จะต้องเวทแอนด์ซีว่า  การรับญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรค ปชป. จะมีอะไรแก้ไขติดตามมาในประเด็นที่เชื่อมโยงกันอะไรบ้าง

                เนื่องจากสามารถหาเหตุหาเรื่องมาเกี่ยวข้องโยงระยางให้แก้ไขได้แบบนึกไม่ถึง??

                อ๊ะ อ๊ะ พรรคเพื่อไทย แกนนำพรรคฝ่ายค้าน ออกมาวิเคราะห์ด้วยความสงสัยว่าทำไม ส.ว.ที่รับร่างญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญเพียงฉบับเดียว

                หรือเป็นสัญญาณบอกว่า การแกไขรัฐธรรมนูญจะถูก ส.ว.คว่่ำในวาระ 3  เพื่อให้คณะ 3 ป.สืบทอดอำนาจต่อไปอีก??

                คำพูดเรื่องล้มกระดานการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 ที่จะถูก ส.ว.ผลักตกให้หกคะเมนตีลังกานั้น  วันนี้ยังไม่มีใครเดาล่วงหน้าได้ว่าจริงหรือไม่จริง!?!

                ถ้าไม่จริง  ฝ่ายค้านก็หน้าแหกจริง??

                และก็ยังไม่มีใครคาดการณ์ได้ว่าการแกัไขรัฐธรรมนูญจากร่างญํตติของ พรรค ปชป.จะจบง่ายหรือจบยาก!?!

                ทางด้านสถานการณ์โควิดไวรัสยมทูตนั้นดู ๆ แล้วทำท่่าจะจบยากทีเดียว  ณ วันเวลานี้รัฐบาล "ลุงตู่" ต้อง "หน้าแหก" เพราะมาตรการที่ออกมาใช้นั้น ไม่ได้ทำให้ผู้ติดเชื้อเบาบางลงไป แต่ยอดผู้ติดเชื้อกลับพุ่งทะยาน 3 – 4 พันคนเป็นเวลาเดือนกว่าแล้ว และมีบางวันที่ผู้สังเวยชีวิตก็ครึ่งร้อยไปแล้ว

                เนื่องจากไม่สามารถควบคุมกดจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อได้ลดลงได้แต่ประการใด โดยเฉพาะพื้นที่ กทม.ไข่แดงของประเทศไทย รวมทั้งปริมณฑลที่โควิด-19 ยังขวิดอาลาะวาดอย่างรุนแรง

                มีเสียงเรียกร้องให้ล็อดดาวน์ กทม.และปริมณฑล เพื่อเจ็บแต่จบ  ทว่ารัฐบาล "ลุงตู่" เลือกที่จะปิดแคมปฺ์คนงานก่อสร้างที่มีอยู่แทบทุกเขตของ กทม. รวมถึงปืดจุดเสียงย่านชุมชนต่าง ๆ ที่้เสียงต่อการระบาดเถิดเทิงตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.64 เป็นต้นไปเป็นเวลา 1 เดือน

                ก็ต้องคอยติดตามดูจนครบเดือนว่า การล็อกดาวน์แคมป์คนงาน จะส่งผลบวกที่ทำให้การระบาดของโควิดโคบ้าลดจำนวนลงหรือไม่

                แต่ถ้ายังเหมือนเดิม จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสมหาวายร้ายของโลกต้องเจ็บและหายไปจากโลกพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ  แบบไม่จบ

                ถึงแม้ว่าปลายปี 64นี้หรือต้นปีหน้า 65 เจ้าเชื้อไวรัสล้างโลกมนุษย์จะค่อย ๆ สงบลงไปในประเทศไทยก็ตามที

                เชื่อเหอะ  "ลุงตู่" จะถูกด่าโดนไล่่ไม่เลิกตลอดกาลจนกว่าจะหลุดจากท่านผู้นำ!!

            ซึ่งมีสาเหตุเดียว คือนั่งเก้าอี้ "นายกรัฐมนตรี" นานเกินไปเกินหน้าเกินตากว่านักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง!!

            เอวัง  ด้วยประการละเช่นนี้แล!!

You may also like

ราคาคาร์บอนเครดิตกับปัญหา การพัฒนาตลาดคาร์บอนในประเทศไทย

ด้วยรูปแ