ข่าวยุบก็ยุบไป เลือกตั้งยังเดินหน้าต่อสู่ฝันของทุกพรรค??
การเมืองในสถานการณ์ปัจจุบันนี้ ประช่าชนคนไทยทั้งประเทศต่างอยากรู้ว่า "พรรคไทยรักษาชาติ" จะถูกยุบออกจากสาระบบพรรคการเมืองในประเทศไทยหรือไม่
คำตอบนี้ ก็อยู่ที่ "ศาลรัฐธรรมนูญ" จะวินิจฉัยตัดสินออกมาว่าจะจู๋หรืออยู่รอด??
โดยดีเดย์วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นวันพิจารณาคดี "ยุบพรรค" ซึ่งจะมีการลงมติตัดสินในวันนั้นหรือไม่ ก็ไม่มีใครคาดเดาใจศาลรัฐธรรมนูญได้
แต่หลาย ๆ ฝ่ายเชื่อว่าจะมีคำวินิจฉัยชี้ชาดก่อนวันเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562!!
หลังคดียุบขบ จะเกมโอเวอร์หรือไม่ หรือเกมมัสโกออนอีก ก็ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าได้ว่า เหตุการณ์ของประเทศชาติจะปั่นป่วนหรือเรียบร้อย ก็ต้องเวทแอนด์ซีกันอย่าได้กะพริบทั้งสองตา
ที่แน่ ๆ ก็คือไม่สะเทือนไปถึงพรรคการเมืองอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวเรื่องยุบ ดังนั้นการปราศรัยหาเสียงของแต่ละพรรคการเมืองก็เดินหน้าไปตามแผนที่ได้วางไว้ในการแย่งชิงเก้าอี้ ส.ส.เขต เพื่อให้มีผลต่อ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรตตนเอง
ไม่มีพรรคการเมืองไหนเป็นห่วงพรรคไทยรักษาชาติ เพราะพรรคที่ไม่เกี่ยวข้องไม่ยุ่งให้เกิดการอีรุงตุงนัง พร้อมเต็มร้อยในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ไม่มีถอยหลัง หลังจากที่คนไทยว่างเว้นหย่อนบัตรลงคะแนนเลือกต้้ง ส.ส.มานานตั้งแต่ปี พ.ศ.2544
แม้ "พรรคเพื่อไทย" ที่ใคร ๆ รู้กันทั้งบางว่าเป็นสายเลือดเดียวกับ "พรรคไทยรักษาชาติ" ก็ให้นโยบายสมาชิกพรรครูดซิปปากไม่แสดงความเห็นใด ๆ ให้สะเทือนมาถึงพรรคตนเอง
แต่กลับปล่อยให้ทีมกฎหมายของพรรคตัวเอง ที่เป็นเลขาธิการสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิและเสรีภาพ ยื่นเรื่องร้อง กกต.ให้ยุบ "พรรคพลังประชารัฐ" เพื่อให้ยุ่งกันเข้าไว้
โดยสาธยายเหตุผลว่า พรรคพลังประชารัฐ เชื่อมโยงกับคนในรัฐบาลที่มาครอบงำพรรค และให้ปลดชื่อแคนดิเดท "บิ๊กตู่" ออกจากการชิงเก้าอี้นัมเบอร์วันของรัฐบาลหน้า เนื่องจากเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ได้รับเงินเดือนจากงบประมาณแผ่นดิน อันเป็นขัดต่อรัฐธรรมนูญ
ถ้า กกต.ไม่เร่งพิจารณาอย่างรวดเร็ว หรือถ่วงเวลาชักช้า ก็จะมีความผิดตามกฎหมาย!!
ประชาชนที่สนใจติดตามข้อมูลข่าวสารเรื่องการเมือง คงจำกันได้ว่าก่อนหน้านั้นโพลของสำนักต่าง ๆ ที่ได้สำรวจออกมาก็ระบุตรงกันว่า ประชาชนคนไทยที่มีสิทธิเลือกตั้งอยากเลือกตั้งโดยเร็ววัน!!
ด้วยเหตุฉะนี้ ข่าวปล่อยข่าวลวงการเลื่อนเลือกตั้ง หรือปฏิวัติยึดอำนาจซ้ำอีก จึงจุดไม่ติดที่จะทำให้ประชาชนสับสนในหัว
สมอง
อ๊ะ อ๊ะ ถ้าติดตามนโยบายของทุกพรรคการเมืองแล้ว แทบทุกพรรคชูนโยบายช่วย "คนจน" ทั้งนั้น ไม่มีพรรคไหนเน้นช่วย "คนรวย" ให้รวยได้รวยดีอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งทุกพรรคจะไม่พูดเรื่อง "คนรวย"
นโยบายต่าง ๆ ของพรรคการเมืองนั้นเปรียบเสมือนเป็นการ "สร้างภาพ" เพื่อให้ประชาชนคนธรรมดา "ฝันหวาน" ที่จะได้รับการช่วยเหลือให้หายจน
ส่วนจะทำให้ฝันเป็นจริง หรือมีแต่โม้ ก็ควรใช้สติคิดพิจารณานโยบายของแต่ละพรรคให้ทะลุปรุโปร่ง เพราะเงินที่จะนำมาแแถมให้ประชาชนมาจากภาษีของประชาชนทั้้งสิ้น ไม่ใช่เงินของพรรคการเมืองที่ได้เป็นรัฐบาล
รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ปี 2560 นี้ คณะผู้ร่างสร้างสรรค์อย่างบรรจงแบบตั้งใจที่จองเก้าอี้นายกรัฐมนตรี หลังจากการเลือกตั้งเป็นของ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาโดยเฉพาะมาสืบทอดอำนาจต่อไป
สถานการณ์การเมืองในปัจจุบันนี้ได้พลิกมาถึงจุดที่ "บิ๊๋กตู่" เป็นต่อในการชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี!!
แต่การเมืองบางครั้งก็เป็นเรื่องแปลกเหมือนกัน เนื่องจากซูเปอร์โพลได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนพบว่า ยังไม่มีผู้ใดเป็นนายกรัฐมนตรีในใจ??
ล่าสุด "นิด้าโพล" ได้สำรวจความเห็นของประชาชนว่าใครเหมาะสมเป็น"นายกรัฐมนตรี" หลังจากการเลือกตั้้ง ผลปรากฏว่า"บิ๊กตู่" มาเป็นอันดับ 1 ร้อยละ 26.6
ส่วนอันดับ 2 ได้แก่ "คุณหญิงหน่อย" สุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ร้อยละ 24.1
สำหรับอันดับ 3 แปลกที่สุด คือมีผู้ให้ความเห็นว่า ยังไม่ได้ตัดสินใจเลือกใครร้อยละ 11.91
ซึ่งมากกว่าอันดับ 4 คือ "เดอะมาร์ค" อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เพียงร้อยละ 11.46
และมีประชาชนที่ "โนโหวต" มากถึงร้อยละ 6.26
รายชื่อผู้ท้าชิง "นายกรัฐมนตรี" คนอื่น ได้เพียงร้อยละ 5 และก็ต่ำกว่า 5!!
การสำรวจครั้งนี้มีความแปลกที่ทำให้งงได้ก็คือ ประชาชนจะเลือก "พรรคเพื่อไทย" มาอันดับ 1 ร้อยละ 36.49
อันดับ 2 ได้แก่ "พรรคพลังประชารัฐ" ร้อยละ 22.57
อันดัน 3 คือ "พรรคประชาธิปัตย์" ร้อยละ 15.21
ทว่าการเมืองไม่มีอะไรแน่นอนในเรื่องงง ๆ เพราะช่วงโค้งสุดท้ายการตะลุมบอนลุยศึกเลือกตั้งอาจมีพลิกได้หลายตลบที่ไม่มีใครคาดคิดได้??
แต่ "บิ๊กตู่" ไม่ทำให้งงแน่ในการสืบทอดกอดเก้าอี้นายกรัฐมนตรีต่อไปกฎกติกาของรัฐธรรมนูญที่เขียนอุ้มสมเอาไว้
ขออนุญาตตบท้าย ห้า ห้า ฮ่า นะท่านที่เคารพ!!
นายจักรยาน
Social Links