คะแนนซักฟอก “รัฐมนตรี” ที่ต่างกัน บทพิสูจน์ เกมแทงข้างหน้าและข้างหลัง!!

คะแนนซักฟอก “รัฐมนตรี” ที่ต่างกัน บทพิสูจน์ เกมแทงข้างหน้าและข้างหลัง!!

คะแนนซักฟอก "รัฐมนตรี" ที่ต่างกัน บทพิสูจน์ เกมแทงข้างหน้าและข้างหลัง!!

นายจักรยาน

                เทศกาลภาพยนต์ประจำปีเรื่องศึกตะลุมบอนซักฟอก "ลุงตู่" นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีอีก 9 คน จบไปเรียบร้อยโรงเรียนสภาผู้แทนราษฎรเมือคืนวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564

                ไม่ได้มีการพ่นน้ำลายใส่กันถึง 7 วัน 7 คืน ดังที่่ "ฝ่ายค้าน" อยากคิดที่จะจ้อขย่มเขย่าขยำขยี้ถึงผู้ที่ถูกไม่ไว้วางใจให้สะใจ  เพียงได้พูดให้สมใจปากเพียง 4 วัน 4 คืนระหว่างวันที่ 16-19 กุมภาพันธ์ 2564 เท่านั้น

                การอภิปรายของผู้แทน ฯ ท่านผู้ทรงเกียรติฝายค้าน จะมีน้ำหนักหนักแน่น มีใบเสร็จหลักฐานแน่ชัดต่อ "ลุงตู่่" และรัฐมนตรีที่โดนกล่าวหาอย่างร้ายแรง หรือไม่อย่างไร ก็อยู่ที่่ท่านผู้ชมผู้ฟังจะคิดพิจารณาอย่างมีสติว่าจริงหรือมั่ว

                และ "ลุงตู่" กับบรรดารัฐมนตรีที่ถูกขึ้นเขียงโดนสับ  จะชี้แจงเคลียร์ชัดแค่ไหนอย่างไร  ก็อยู่ที่ท่านผู้ชมผู้ฟังเป็นผู้ตัดสินใจลงมติกันเองได้??

                แต่ที่แน่ๆ  สภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติให้ "ลุงตู่" และรัฐมนตรีที่โชคดีโดนซักฟอก ได้่รับความไว้วางใจจาก ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎร ด้วยเสียงข้างมากทีเป็นเสียงของฝ่ายรัฐบาล เป็นปกติธรรมดาสามัญของประชาธิปไตย

                "ฝ่ายค้าน" ที่่มีเสียงน้อยกว่า "รัฐบาล" ก็ไม่สามารถล้ม "ลุงตู่" และรัฐมนตรีเป้าหมายได้ตามกติกาเช่นกัน  แต่ก็ต้องยื่นซักฟอกให้เกิดกระแสขึ้นมาตามประเพณีปีละครั้งของระบบรัฐสภา เพื่อให้ประชาชนได้รู้ว่า ระบอบประชาธิปไตยนี้ต้องมี "ฝ่ายค้าน" กับ "รัฐบาล" ที่ต้องประหัดประหารกันทางการเมืองให้เสียภาพลักษณ์

                ในมหกรรมซักฟอก "รัฐมนตรี" ทุกครั้งที่ผ่านมา  คะแนนไว้วางใจของรัฐมนตรีที่ถูกไม่ไว้วางใจมักจะไม่เท่ากันทุกคน  รัฐมนตรีบางท่านได้รับเกียรติจากเพื่อนสมาชิกรัฐบาลให้มีคะแนนสูงสุด และรัฐมนตรีบางท่านก็ได้รับเกียรติได้คะแนนบ๊วยสุด

                แม้แต่คะแนนไม่ไว้วางใจของ "ฝ่ายค้าน" ก็ไม่เท่ากันทุกคนเช่นกัน ก็เป็นเรื่องการเมืองภายในของซีกค้าน ซึ่งมีให้เห็นกันมาแล้วในอดีต!?!

                ศึกอภิปรายถล่ม "ลุงตู่" และ 9 รัฐมนตรีครั้งนี้  "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร  วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี  หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ทุบโต๊ะสั่งให้ ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐมนตรี โหวตไว้วางใจรัฐมนตรีที่โดนยำให้มีคะแนนเท่ากันทุกคน

                ทว่าไม่สามารถสั่งข้ามไปยังพรรคร่วมรัฐบาลได้ ไม่ว่าจะเป็น พรรค ปชป. พรรคภูมิใจไทย  พรรครวมพลังประชาชาติไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา และพรรคเล็กอีก 10 กว่าได้

                ด้วยเหตุฉะนี้ ผลคะแนนโหวตที่ออกมาอย่างที่ได้รับทราบกันไปทั่วประเทศแล้วว่า  คะแนนไว้วางใจและไม่ไว้วางใจไม่เท่่ากันทุกคน  มีทั้งคะแนนที่ไว้วางใจเท่ากันบางคน และไม่ไว้วางใจเท่ากันบางคน

                ที่สำคัญที่สุด ก็จะมีรัฐมนตรีที่ได้รับคะแนนไว้วางใจสูงสุด  และรัฐมนตรีที่ได้คะแนนไม่ไว้วางใจสุงสุด  นอกจากนี้ก็มีคะแนนของรัฐมนตรีที่โดนซักฟอกไว้วางใจต่ำสุด และไม่ไว้วางใจน้อยสุด!!

                อันเป็นปรากฏการณ์เดิม ๆ เหมือนอดีตทุกครั้งที่ผ่านมาของรายการขย่มเขย่าเก้าอี้นายกรัฐมนตรี  และรัฐมนตรีที่ได้รับเชิญถูกซักฟอก ซึ่งชี้ให้เห็นว่ามีทั้ง ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้านเล่นเกมกันเองแบบมีเบื้องหน้่าเบื้องหลังบอกความนัยให้รู้กันไว้ว่าทำไมถึงมีคะแนนที่ต่างกัน??

                ขอนำผลมติออกมาย้ำให้รู้กันว่ารัฐมนตรีคนใดได้คะแนนมากน้อยกันเท่าไหร่  ลำดับแรกก็ต้องโพกัสไปที่ "ลุงตู่" นายกรัฐมนตรี   ได้คะแนนไม่ไว้วางใจ 206 เสียง ไว้วางใจ 272 เสียง งดออกเสียง 3 ไม่ลงคะแนน 0

                รัฐมนตรีคนที่สองพี่ใหญ่ 3 ป. "บิ๊๋กป้อม" พล.อ.ประวิตร  วงษ์สุวรรณ  รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ  มีคะแนนไม่ไว้วางใจ 204 เสียง ไว้วางใจ 274 เสียง งดออกเสียง 4 ไม่ลงคะแนน 0

                รัฐมนตรีคนที่สาม  นายอนุทิน  ชาญวีรกุล  รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุขได้คะแนนไม่ไว้วางใจ 201 เสียง  คะแนนไว้วางใจ 275 เสียง  งดออกเสียง 6 ไม่ลงคะแนน 0

                รัฐมนตรีคนที่สี่  นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ มีคะแนนไม่ไว้วางใจ 207 คะแนนไว้วางใจ 268 เสียง  งดออกเสียง 7 ไม่ลงคะแนน 0

                รัฐมนตรีคนที่ห้า  ป.คนเล็ก "บิ๊กป๊อก" พล.อ.อนุพงษ์  เผ่าจินดา  รมว.มหาดไทย ได้รับคะแนนไว้วางใจ 272 ไม่ไว้วางใจ 205 งดออกเสียง 3 ไม่ลงคะแนน 0

                รัฐมนตรีคนที่หก  นายณัฎฐพล  ทีปสุวรรณ  รมว.ศึกษาธิการ  มีคะแนนไว้วางใจ 258  ไม่ไว้่วางใจ 215 งดออกเสียง 8 ไม่ลงคะแนน 0

                รัฐมนตรีคนที่เจ็ด นายสุชาติ  ชมกลิ่น  รมว.แรงงาน ได้คะแนนไว้วางใจ 263 ไม่ไว้วางใจ 212 งดออกเสียง 5 ไม่ลงคะแนน 1 เสียง

                รัฐมนตรีคนที่แปด  นายศักดิ์สยาม  ชิดชอบ  รมว.คมนาคม ได้่รับคะแนนไว้วางใจ 268  ไม่ไว้วางใจ 201 งดออกเสียง 12  ไม่ลงคะแนน 1 เสียง

                รัฐมนตรีคนที่เก้า  นายนิพนธ์  บุญญามณี  รมช.มหาดไทย ได้คะแนนไว้วางใจ 272 ไม่ไว้วางใจ 206 งดออกเสียง 4 เสียง ไม่ลงคะแนน 0

                รัฐมนตรีสุดท้ายคนที่สิบ  ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้รับคะแนนไว้วางใจ 274 ไม่ไว้วางใจ 199 งดออกเสียง 5 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง

                ดูคะแนนไว้วางใจและไม่ไว้วางใจของนายก ฯ "ลุงตู่่" และรัฐมนตรีแต่ละคนแล้ว สามารถวิเคราะห์เจาะลึกแบบธรรมดาว่า  มี ส.ส.ร่วมรัฐบาลไม่ชอบรัฐมนตรีบางคนก็เลยไม่ลงคะแนนให้ หรือ ส.ส.ฝายค้านแหกด่านมางดออกเสียงแทน หรือไม่ลงคะแนน??

                สำหรับคะแนนของ "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคาพลังประชารัฐ ได้ปรากฏเป็นสายตาของประชาชนแล้วจากศึกซักฟอกปีที่ผ่านมาและปีนี้ คะแนนของ "บิ๊๋กป้อม" มีจำนวน ส.ส.ไว้วางใจมากกว่า "ลุงตู่" และไม่ไว้วางใจน้อยกว่า "ลุงตู่"

                ซ.ต.พ.ได้ว่า ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และ พรรคร่วมรัฐบาลรัก "บิกป้อม" มากกว่า "ลุงตู่"??

                ส่วน "นายอนุทิน  ชาญวีรกุล" รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ได้คะแนนไว้วางใจสูงสุด 275 เสียงแซงหน้า "บิ๊กป้อม"  โดยมีข่าวเปิดเผยว่ามาจากคะแนนของ ส.ส.พรรคก้าวไกล 4 คนและรองประธานสภาผู้แทน ฯ ที่สังกัดพรรคภูมิใจไทย  ส่งผลให้คะแนนไม่ไว้วางใจมีเพียง 201 เสียง

                และเป็นที่น่าสังเกตุผิดปกติก็คือ หัวหน้าพรรค ปชป. "นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฎ์" รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ มีคะแนนไว้วางใจเพียง 268 เสียง เสียงที่หายไปไปโผลที่งดเสียงซึ่งมีคะแนนถึง 7 เสียง

                ซึ่งน่าจะรู้แล้วว่าคะแนนที่หดหายไปที่่ไปอยู่คะแนนงดเสียงมาจาก ส.ส.พรรค ปชป.เองที่งดออกเสียงให้หัวหน้าพรรคตัวเอง เปรียบเสมือนไม่ไว้วางใจหัวหน้าพรรคยังไงยังงั้น??

                อีกรัฐมนตรีที่มีกระแสลือมาตั่้งแต่แรกแล้วว่าจะได้รับคะแนนโหวตไว้วางใจน้อยสุดคือ "นายณัฎฐวุมิ  ทีปสุวรรณ" รมว.ศึกษาธิการ  ก็กลายเป็นข่าวจริง เพราะเป็นรัฐมนตรีที่ได้รับคะแนนไว้วางใจน้อยทื่้สุดกว่าใครคือได้คะแนน 258 เสียง  ซึ่งคะแนนที่หดไปโผลเพิ่มคะแนนงดออกเสียง  8 เสียง

                รัฐมนตรีอีกท่านที่มีข่าวปล่อยว่าจะได้คะแนนไว้วางใจน้อยกว่าใคร  แต่ก็ยังมากกว่า "รัฐมนตรีณัฎฐพล" ที่รั้งท้ายโหล่สุด  แต่คะแนนไม่ไว้วางใจ 212 น้อยกว่า "รัฐมนตรีศึกษาธิการ" ที่้มีคะแนนไม่ไว้วางใจสูงสุด  215 เสียง และที่แปลกกว่ารัฐมนตรีผู้ใดคือมีคะแนนไม่ลงคะแนน 1 เสียง

                รัฐมนตรีอีกท่านจากพรรคภูมิใจไทย คือ "นายศ้กดิ์สยาม ชิดชอบ" รมว.คมนาคม ได้คะแนนไว้วางใจ 268 เสียง ไม่ไว้วางใจ 201 เสียง มีผู้ไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง  แต่มี ส.ส.ที่งดออกเสียงมากถึง 12 คน

                ตอนนี้ก็มีการเปิดเผยกันให้แซ่ดแล้วว่า ส.ส.พรรคไหนทั้่งรัฐบาลและฝ่ายค้านจงใจงดออกเสียง และ ส.ส.ฝ่ายค้านพรรคไหนไปให้ความไว้วางใจรัฐมนตรึคนใด

                สำหรับรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐที่พลิกความคาดหมายก็คือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้คะแนน  ไม่ไว้วางจน้อยที่สุดเพียง 199 เสียง ส่วนคะแนนไว้วางใจก็สูงเทียบเท่า "บิ๊กป้อม" 274 เสียง  งดออกเสียง 5 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง

                ทำให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ที่โดนซักฟอกเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันที่ปีนี้ใข้ความสามารถพิเศษเฉพาะตัวหนีคะแนนบ๊วยได้สำเร็จสมอารมณ์หมาย!!

                ทำให้ "ลุงตู" ต้องแซว  ร.อ.ธรรมนัส ว่า คะแนนไว้วางใจมากกว่าตนเอง มาเป็นนายกฯ ดีไหม (ฮา)!!

                คำพูดของ "ลุงตู่" ในความเป็นจริงแล้ว "ลุงตู่" คงไม่ยกเก้าอี้นายกรัฐมนตรีให้ ร.อ.ธรรมนัส  และ ร.อ.ธรรมนัส ก็คงไม่อยากนั่งเป็นนายก ฯ แน่??

                ด้วยเหตุฉะนี้ ถ้า "ลุงตู่" และรัฐมนตรีคนไหนพรรคใดอยากลอกเลียนแบบความสามารถพิเศษต้องกระซิบสอบถาม "รัฐมนตรีธรรมนัส" ได้เป็นการส่วนตัว ถ้าไม่สงวนลิขสิทธิวิธีลับของตนเอง??

                ทุกครั้งของแทบทุกรัฐบาลในอดีต  หลังจากเปิดแผลซักฟอกรัฐมนตรีให้ประชาชนที่รับชมรับฟังเกิดความสงสัยในความโปร่งใส  มักจะมีปรับ ครม.เขี่ย รัฐมนตรีที่ได้คะแนนต่ำสุดออกไปพันวงโคจร

                ทว่าเทศกาลประจำปี "ซีกฟอกรัฐบาล" ของ "ฝ่ายค้าน" ที่ขย่มรัฐบาล "ลุงตู่" เมื่อปีที่แล้ว ไม่ทำให้ "ลุงตู่" สะเทือนก้น  และรัฐมนตรีที่โดนขยำขยี้ในสภา ฯ ก็ไม่ได้โดนปรับออกประการใด

                แต่การปรับ ครม.ที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วมาจากสาเหตุอื่นจากการกระหายเก้่าอี้รัฐมนตรีของลูกพรรคพลังประชารัฐ  ทำให้หัวหน้าพรรคและทีมผู้ก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐต้องบ๊ายบายจากพรรคไปด้วยครวมระทมข่มขื่น

                ส่วนลูกพรรคพลังประชารัฐที่เป็น ส.ส.ได้เสียบเข้ามาเป็นรัฐมนตรีแทนด้วยความชื่นมื่นระรื่นสำเริงบานใจ!!

                ณ วันนี้หรือในเร็ว ๆ นี้ "ลุงตู่" คงไม่ปรับ ครม. ให้ "ฝ่ายค้าน" ยิ้มเยาะเย้ยรัฐบาล   เพราะ "ลุงตู่" ได้เปรย ๆ กับรัฐมนตรีที่โดนซักฟอกว่า คะแนนใครจะมากจะน้อย อย่าไปอะไรมาก เดินหน้าทำงานต่อไป

                แต่ในอนาคตวันข้างหน้าการ ปรับ ครม.อาจเกิดขึ้นมาอย่างปุ๊บปั๊บด้วยเหตุการเมืองบางอย่างที่อุบัติขึ้นมาอย่างไม่คาดฝัน ฉะนั้นนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เรา ๆ ท่าน ๆ โปรดอย่ากะพริบตา??

            สำหรับ "ม็อบ" ที่เป็นคู่บุญคูกรรมของ "ลุงตู่" ก็คงหาเหตุจัด "เทศกาลม็อบ" ไปเรื่อย ๆ เพื่อกวนใจรัฐบาล "ลุงตู๋" ให้อยู่ไม่เป็นสุขตลอดไปจนกว่า "ลุงตู่" จะไปจากเก้าอี้!!

            จบข่าว  ก่ารเมืองเรื่องซักฟอก สวัสดี!!

 

 

You may also like

ราคาคาร์บอนเครดิตกับปัญหา การพัฒนาตลาดคาร์บอนในประเทศไทย

ด้วยรูปแ