จับตา!จีนฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจ ประชุมเศรษฐกิจส่วนกลางประจำปีชี้นำ มุ่ง”คุณภาพ”มากกว่า”ปริมาณ”

จับตา!จีนฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจ ประชุมเศรษฐกิจส่วนกลางประจำปีชี้นำ มุ่ง”คุณภาพ”มากกว่า”ปริมาณ”

จับตา!จีนฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจ

ประชุมเศรษฐกิจส่วนกลางประจำปีชี้นำ

มุ่ง”คุณภาพ”มากกว่า”ปริมาณ”

แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากความท้าทายในประเทศและแรงต้านจากภายนอก แต่เศรษฐกิจจีนก็ยังสามารถรับมือกับความยากลำบากในปี 2565 ด้วยอัตราการเติบโตของจีดีพีที่ระดับ 3% ในช่วงสามไตรมาสแรก

การประชุมงานด้านเศรษฐกิจส่วนกลางประจำปี (Annual Central Economic Work Conference) จัดขึ้นที่กรุงปักกิ่งระหว่างวันที่ 15-16 ธันวาคม โดยบรรดาผู้นำของจีนได้มาร่วมกันจัดลำดับความสำคัญของงานด้านเศรษฐกิจในปี 2566

นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้กล่าวสุนทรพจน์สำคัญในการประชุม โดยได้ทบทวนงานด้านเศรษฐกิจของจีนในปี 2565 รวมถึงวิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน และจัดการงานด้านเศรษฐกิจในปีหน้า

ที่ประชุมระบุในแถลงการณ์ว่า ปัจจุบัน รากฐานของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังไม่มั่นคง และจีนยังคงเผชิญกับแรงกดดันสามเท่าจากอุปสงค์ที่หดตัว อุปทานที่ชะงักงัน และการคาดการณ์ที่อ่อนแอ

       อย่างไรก็ตาม เราเห็นว่าเศรษฐกิจจีนมีความยืดหยุ่นสูง มีศักยภาพสูง และมีพลังที่แข็งแกร่ง” ที่ประชุมระบุ พร้อมกับเรียกร้องให้มีความเชื่อมั่นในงานด้านเศรษฐกิจ และให้คำมั่นว่าจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรับประกันการเติบโตอย่างมีคุณภาพสูงและสมเหตุสมผล

ให้ความสำคัญกับเสถียรภาพเป็นอันดับแรก

ที่ประชุมเรียกร้องให้การรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจมีความสำคัญสูงสุด รวมถึงสร้างความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจอย่างมั่นคง พร้อมกับรับประกันเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในปีหน้า

สำหรับเศรษฐกิจจีน สิ่งสำคัญคือต้องรักษาประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจให้มีเสถียรภาพ โดยที่ประชุมเน้นย้ำว่าจะพยายามสร้างเสถียรภาพด้านการเติบโต การจ้างงาน และราคา เพื่อให้ปัจจัยชี้วัดเศรษฐกิจสำคัญ ๆ อยู่ในระดับที่เหมาะสม

ที่ประชุมยังกล่าวถึงการยกระดับการประสานการป้องกันและควบคุมโรคระบาดกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงเรียกร้องให้มีความพยายามในการเพิ่มประสิทธิภาพการตอบสนองต่อโรคระบาดตามเวลาและสถานการณ์ ตลอดจนให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัว

จาง จวินเว่ย (Zhang Junwei) นักวิจัยจากศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาของคณะมุขมนตรีจีน (Development Research Center of the State Council) กล่าวถึงการที่จีนดำเนินนโยบายแบบผสมผสานเพื่อรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจเมื่อช่วงต้นปีนี้ โดยแสดงความเชื่อมั่นว่าจีนจะทุ่มเทความพยายามมากขึ้นเพื่อรักษาเสถียรภาพด้านการเติบโต การจ้างงาน และราคาต่อไป

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของบรรดาผู้นำจีนในการชูประเด็นการคืนความสมดุลโดยรวมทางเศรษฐกิจเป็นภารกิจหลักของการดำเนินการทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน

การขยายอุปสงค์ในประเทศ

จีนจะมุ่งเน้นไปที่การกระตุ้นอุปสงค์ในประเทศในปีหน้า โดยให้ความสำคัญกับการฟื้นตัวและการขยายตัวของการบริโภค การเพิ่มรายได้ส่วนบุคคลในเมืองและชนบทผ่านช่องทางต่าง ๆ และการกระตุ้นให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการก่อสร้างโครงการระดับชาติที่มีความสำคัญ ที่ประชุมระบุ

ที่ประชุมระบุด้วยว่า ศักยภาพของตลาดในประเทศจะถูกดึงออกมาอย่างเต็มที่เพื่อให้อุปสงค์ในประเทศมีบทบาทมากขึ้นในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ พร้อมกับให้คำมั่นว่าจะส่งเสริมอุปสงค์ในประเทศและความต้องการที่อยู่อาศัย ตลอดจนสนับสนุนภาคเอกชนและแพลตฟอร์มเศรษฐกิจดิจิทัล

จีนได้ประกาศแนวทางในการขยายอุปสงค์ในประเทศและสนับสนุนระบบอุปสงค์ในประเทศที่มั่นคง เพื่อส่งเสริมการพัฒนาในระยะยาว

แนวทางดังกล่าวระบุว่า จีนจะพยายามส่งเสริมการบริโภคในทุกด้าน เร่งยกระดับคุณภาพการบริโภค ปรับโครงสร้างการลงทุนให้เหมาะสม และขยายขอบเขตการลงทุน พร้อมกับส่งเสริมการพัฒนาเมืองและชนบทร่วมกันเพื่อปลดปล่อยศักยภาพของอุปสงค์ในประเทศอย่างเต็มที่

สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนระบุว่า ยอดค้าปลีกของจีนลดลง 5.9% ในเดือนพฤศจิกายน เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มอุปสงค์ในประเทศที่ลดลง

ไช่ ถงเจวียน (Cai Tongjuan) นักวิจัยจากสถาบันการเงินศึกษาฉงหยาง (Chongyang Institute for Financial Studies) สังกัดมหาวิทยาลัยเหรินหมินแห่งประเทศจีน (Renmin University of China) เน้นย้ำว่า การสร้างตลาดในประเทศที่มีความยืดหยุ่นนั้นสำคัญมาก “หากปราศจากอุปสงค์ ตลาดในประเทศก็เปรียบเสมือนน้ำที่ไร้แหล่งน้ำ”

        ในแง่ของการเพิ่มรายได้ส่วนบุคคล คุณไช่เน้นย้ำว่าสิ่งสำคัญคือต้องไม่แยกการบริโภคออกจากรายได้ พร้อมกับเสริมว่ารายได้ของประชากรลดลงตามอุปสงค์การบริโภคหลังจากต่อสู้กับโรคระบาดมานานสามปี และมีเพียงการเพิ่มรายได้ที่ใช้จ่ายได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้นจึงจะสามารถส่งเสริมการบริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การพัฒนาคุณภาพสูง

การประชุมที่จัดขึ้นสองวันได้เน้นย้ำถึงการแสวงหาการพัฒนาคุณภาพสูง นอกจากการยกระดับการประสานการป้องกันและควบคุมโรคระบาดกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแล้ว ที่ประชุมยังระบุว่าควรบรรลุการประสานงานที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วย สิ่งนี้ควรเกิดขึ้นระหว่างการเติบโตเชิงคุณภาพกับเชิงปริมาณ ระหว่างการปฏิรูปโครงสร้างอุปทานกับการขยายอุปสงค์ในประเทศ และระหว่างนโยบายเศรษฐกิจกับนโยบายอื่น ๆ

เพื่อส่งเสริมกระบวนทัศน์การพัฒนาใหม่ พลวัตในประเทศและความน่าเชื่อถือของการหมุนเวียนในประเทศควรได้รับการเสริมสร้างให้แข็งแกร่งขึ้น ขณะที่คุณภาพของการหมุนเวียนระหว่างประเทศควรได้รับการยกระดับเช่นกัน

ที่ประชุมยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการจัดการงานด้านเศรษฐกิจในปัจจุบันให้ดี ขณะเดียวกันก็ต้องคำนึงถึงการพัฒนาในอนาคตด้วย

เฉิน เหวินหลิง (Chen Wenling) หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของศูนย์แลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศของจีน (China Center for International Economic Exchanges) ระบุว่า กุญแจสำคัญในการวัดการพัฒนาเศรษฐกิจคือ การเติบโตทางเศรษฐกิจนำมาซึ่งการพัฒนาคุณภาพสูงขึ้นและสมบูรณ์มากขึ้นหรือไม่

หวัง จวิน (Wang Jun) ผู้อำนวยการของไชน่า ชีฟ อีโคโนมิสต์ ฟอรัม (China Chief Economists Forum) กล่าวว่า การประชุมงานด้านเศรษฐกิจส่วนกลางประจำปียังคงให้ความสำคัญกับ “คุณภาพ” มากกว่า “ปริมาณ” ซึ่งหมายความว่าการยึดมั่นในคุณภาพของเศรษฐกิจคือทิศทางหลักของอนาคต

You may also like

TQM ร่วมกับ MSIG ส่งความสุขท้ายปี มอบฟรี “ประกันภัยรถยนต์ตามคน” ขับคันไหนก็คุ้มครอง

TQM ร่วม