จีนยกระดับการศึกษา เดินหน้าสู่ประเทศชั้นนำการศึกษาโลก

จีนยกระดับการศึกษา

เดินหน้าสู่ประเทศชั้นนำการศึกษาโลก

Rongchun ครูระดับชั้นประถมศึกษาในเมือง Taishitun กรุงปักกิ่ง คือครูผู้ที่อุทิศตนเพื่อมอบการศึกษาแก่โรงเรียนในพื้นที่เขตภูเขา

Diao ยึดมั่นในแนวคิด “ความอดทน ความอ่อนโยน การฝึกฝน และการศึกษา” โดยใช้แนวทางการสอนที่เน้นปฏิสัมพันธ์ การชื่นชมซึ่งกันและกัน และการส่งเสริมซึ่งกันและกัน พร้อมเอาใจใส่ในพัฒนาการของนักเรียนทุกคนอย่างใกล้ชิด

เธอได้เดินทางไปทั่วเมืองเพื่อเยี่ยมเด็กที่ถูกทอดทิ้งและนักเรียนที่มีผู้ปกครองเพียงคนเดียวในพื้นที่เขตภูเขา พร้อมจัดทำแผนการศึกษาพิเศษให้แก่เด็กเหล่านั้น ทำให้ได้รับความไว้วางใจและคำขอบคุณจากผู้ปกครองอย่างล้นหลาม

Diao เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับรางวัลครูต้นแบบแห่งชาติจากทั้งหมด 716 คน ในพิธีมอบรางวัลซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ผ่านมาล่วงหน้าก่อนถึงวันครูครั้งที่ 40 ซึ่งตรงกับวันอังคารนี้ เพื่อยกย่องครูต้นแบบ กลุ่มและสถาบันที่โดดเด่นในภาคการศึกษาของจีน

ด้านประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนได้ส่งคำทักทายไปยังครูและบุคลากรอื่น ๆ ที่ทำงานในภาคการศึกษาทั่วประเทศในระหว่างการประชุมระดับชาติว่าด้วยการศึกษาในกรุงปักกิ่งซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันจันทร์และวันอังคารที่ผ่านมา พร้อมเรียกร้องความพยายามในการสร้างความก้าวหน้าที่มั่นคงเพื่อบรรลุเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ในการทำให้ประเทศจีนเป็นประเทศชั้นนำด้านการศึกษา

การสร้างระบบการศึกษาที่มีคุณภาพสูง

ปัจจุบันจีนได้พัฒนาระบบการศึกษาที่มีคุณภาพสูงสุดและใหญ่ที่สุดของโลก โดยประสบความสำเร็จแบบก้าวกระโดดครั้งประวัติศาสตร์ในการเผยแพร่การศึกษา

จากข้อมูลอย่างเป็นทางการในปี 2566 พบว่ามีโรงเรียนทุกประเภทและทุกระดับชั้นรวมจำนวน 498,300 แห่งทั่วประเทศ โดยมีนักเรียน 291 ล้านคนถูกบรรจุอยู่ในระบบการศึกษาวิชาการ และมีครูประจำอยู่ที่ 18.918 ล้านคน

ขณะเดียวกัน คุณสมบัติด้านวิชาการของครูยังดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยในปี 2566 ครูประถมศึกษาร้อยละ 78 และครูมัธยมศึกษาตอนต้นร้อยละ 93 จบการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือสูงกว่า ขณะที่สัดส่วนของครูที่มีตำแหน่งวิชาชีพชั้นสูงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ครอบคลุมการแต่งตั้งตำแหน่งครูอาวุโสในโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษา

ด้านอัตราการลงทะเบียนเรียนในระดับอุดมศึกษาเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 30 ในปี 2555 เป็นร้อยละ 57.8 ในปี 2564 ซึ่งถือเป็นก้าวกระโดดครั้งประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เห็นว่าการศึกษาระดับอุดมศึกษาในจีนได้เข้าสู่ระยะที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ขณะที่มหาวิทยาลัยและสาขาวิชาต่าง ๆ ของจีนหลายแห่งต่างประสบความสำเร็จในระดับที่สูงมากทั่วโลก

นอกจากนี้ จีนยังเน้นย้ำถึงความสำคัญและการพัฒนาที่ควบคู่กันด้านอาชีวศึกษาและการศึกษาทั่วไป เร่งสร้างระบบอาชีวศึกษาที่ทันสมัยเพื่อช่วยให้นักเรียนที่มีความสามารถและความสนใจหลากหลายสามารถบรรลุศักยภาพของตนเองได้

ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวถึงความพยายามในการสร้างระบบการศึกษาชั้นนำว่ามีความซับซ้อนและเป็นระบบ โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการมุ่งเน้นไปที่ภารกิจพื้นฐานของการศึกษาในการส่งเสริมคุณธรรม พร้อมเรียกร้องความพยายามในการสร้างบุคลากรด้านการสอนที่มีคุณภาพสูง และเน้นย้ำถึงความสำคัญของการยกระดับสถานะ เงินเดือน และสวัสดิการของครู เพื่อให้การสอนเป็นหนึ่งในอาชีพที่ได้รับการเคารพนับถือมากที่สุด

พร้อมเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการพัฒนาการศึกษาภาคบังคับที่มีคุณภาพสูงและสมดุล รวมถึงการลดความเหลื่อมล้ำระหว่างเขตเมืองและชนบท ภูมิภาค โรงเรียน และกลุ่มสังคม

การเปิดภาคส่วนการศึกษาของจีนสู่เวทีโลก

โครงการระดับชาติที่สำคัญจำนวนมากในจีนต่างต้องพึ่งพาเทคโนโลยีหลักที่ส่งมอบโดยมหาวิทยาลัยเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีบทบาทสำคัญในการวิจัยขั้นพื้นฐานและเป็นแหล่งที่มาของความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่สำคัญ

ในการประชุมรางวัลวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติปี 2566 มหาวิทยาลัยและวิทยาลัยได้รับรางวัลด้านวิทยาศาสตร์ธรรมชาติจากรัฐร้อยละ 75.5 รางวัลสิ่งประดิษฐ์ทางเทคโนโลยีจากรัฐร้อยละ 75.6 และรางวัลความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจากรัฐร้อยละ 56.5 ตามลำดับ

นอกจากนี้ จีนยังร่วมมือในโครงการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สำคัญร่วมกับประเทศที่เกี่ยวข้องผ่านการจัดตั้งศูนย์ความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และการศึกษาในต่างประเทศเพื่อรับมือกับความท้าทายระดับโลก

ตัวอย่างเช่น ศูนย์วิจัยร่วมจีน-แอฟริกาซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2556 โดยเป็นสถาบันวิทยาศาสตร์และการศึกษาครบวงจรแห่งแรกที่จีนก่อตั้งขึ้นในต่างประเทศ ศูนย์แห่งนี้รวบรวมสถาบันวิจัยและการสอนทางวิทยาศาสตร์จาก 16 ประเทศในแอฟริกาและจีนเพื่อร่วมมือกันในสาขาต่าง ๆ เช่น การสำรวจและประเมินความหลากหลายทางชีวภาพ ทรัพยากรน้ำ และการติดตามสภาพแวดล้อมทางนิเวศวิทยา เกิดเป็นเครือข่ายการบูรณาการงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์และการฝึกอบรมบุคลากร

ในปัจจุบัน นักวิจัยที่ศูนย์ได้ร่วมกันตีพิมพ์บทความมาแล้วมากกว่า 600 ฉบับ จัดทำหลักสูตรฝึกอบรมและการประชุมทางเทคนิคระหว่างประเทศมากกว่า 30 ครั้ง และมอบการฝึกอบรมแก่นักศึกษากว่า 300 คนจาก 14 ประเทศในแอฟริกา

นอกจากนี้ จีนยังเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมนานาชาติต่าง ๆ เช่น การประชุมการศึกษาดิจิทัลโลก จัดทำเวิร์กช็อป Luban ในหลายประเทศ และขยายการแลกเปลี่ยนระหว่างเยาวชนจีนและต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างศูนย์กลางการศึกษาระดับโลกที่สำคัญ

ในระหว่างการประชุมระดับชาติว่าด้วยการศึกษา ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ยังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเปิดภาคการศึกษาของจีนให้กว้างขึ้นสู่เวทีระดับโลก ครอบคลุมการเพิ่มการแลกเปลี่ยนทางวิชาการระหว่างประเทศและการขยายความร่วมมือด้านการศึกษาและการวิจัยทางวิทยาศาสตร์