จี้ทบทวนรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน
แผนการสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินหลักของประเทศไทย ได้แก่ สนามบินดอนเมือง-สนามบินสุวรรณภูมิ-สนามบินอู่ตะเภา คืออีกปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันให้โครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC เข้าใกล้ความสำเร็จ จนทำให้ภาคตะวันออกแห่งนี้…กลายเป็นแหล่งอุตสาหกรรมเก่า-ใหม่ แหล่งท่องเที่ยว และศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งทางทะเล ฯลฯ ที่สำคัญของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ล่าสุด เจ้าของโครงการฯ อย่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เตรียมแผนการเดินเครื่องโครงการฯอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น กระนั้นพวกเขาก็จะต้องตอบคำถามของบอร์ด ร.ฟ.ท. ที่มี นายวรวิทย์ จำปีรัตน์ เป็นประธานฯ ให้ได้เสียก่อนว่า…จะเกิดปัญหาอะไร? ตามมาหรือไม่? กับโครงการมูลค่ามากกว่า 2 แสนล้านบาทนี้ โดยเฉพาะทีโออาร์ที่เตรียมจะผลักดันให้แล้วเสร็จในช่วงต้นปีหน้า
“จำเป็นหรือไม่ที่ ร.ฟ.ท. ต้องทบทวนและปรับรายละเอียดของโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วง กรุงเทพฯ – ระยอง” นั่นคือคำถามตัวโตจากบอร์ด ร.ฟ.ท. ที่ทำให้นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการ ผู้ว่าฯร.ฟ.ท. จำต้องกลับไปทบทวนแผนงาน ก่อนจะผลักดันทีโออาร์ออกมาในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า เพื่อให้โครงการฯได้ลงมือก่อสร้างช่วงปลายปี 2561 อย่างที่ตั้งใจไว้
ลึกๆ เหตุที่ ร.ฟ.ท.ยุคหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ทำการ “โละทิ้ง” ผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.และบอร์ด ร.ฟ.ท.ชุดเก่าออกทั้งหมด เป็นเพราะ “หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ” ของรัฐบาล คสช. อย่าง…นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกเศรษฐกิจ ซึ่งถือเป็น “ตัวตั้งตัวตี” กับโครงการนี้ ต้องการจะเร่งให้ ร.ฟ.ท. ทำการออกทีโออาร์ให้ได้ในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า เพื่อที่ ร.ฟ.ท.จะได้เปิดประมูล และดำเนินการก่อสร้างได้ในช่วงปลายปี 2561 นั่นเอง
แต่กลายเป็นว่า…บอร์ด ร.ฟ.ท. ที่ถูกแต่งตั้งมาด้วยกฎหมายพิเศษเหมือนกันและคราวเดียว กลับมีความเห็นที่แย้งออกไป อย่างน้อย…การเดินหน้าโครงการสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ก็คงไม่ง่ายอย่างที่นายสมคิดคาดหวังไว้ ยกเว้น! ภาพที่เห็นเป็นเพียงฉากหนึ่งในบทละคร “ฮั้ว” ที่วางพล็อตเรื่องกันไว้แล้วเท่านั้น
“ทีมข่าวเศรษฐกิจ”
สำนักข่าว ThaiBCCnews
Social Links