ตุลา 65 ปีนี้"อาถรรพณ์"…พฤศจิกา ภาวนาอย่าได้อาถรรพณ์!?!
นายจักรยาน
"ตุลาอาถรรพณ์" ได้กล่าวขานกันตืดปากจากสถานการณ์การเมืองที่ทำให้บ้านเมืองเลือดไหลนองแผ่นดินไทย
นับตั้งแต่ 14 ตุลาคม 2516 ที่เป็นวันมหาวิปโยค จากเหตุประชาชนเรียกร้องประชาธิปไตย
อีก 3 ปีต่อมา วันที่ 6 ตุลาคม2519 เกิดเหตุการณ์โหดเหี้ยมสุดอำมหิตในการปราบปรามเข่นฆ่านักศึกษาภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
พอถึงเดือนตุลาคมทุกปีที่ผ่าน ๆ มาจะไม่มีเหตุ "อาถรรพณ์" ที่ช็อกประชาชคนไทย
แต่วันที่ 6 ตุลาคม 2565 ปีนี้ "ตุลาอาถรรพณ์" ได้เกิดเหตุการณ์ "ช็อกโลก" ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กอุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู
เรื่องราวโศกนาฏกรรมกราดยิง 38 ศพจากฝีมือคลั่งยาบ้าของอดีตสิบตำรวจโทที่ถูกไล่ออกจากราชการพัวพันกับยาเสพติด ประชาชนทั้งประเทศและคนทั้งโลกรับทราบข่าวคราวตะลึงโลกกันแล้วอย่างรวดเร็ว เพียงไม่กี่นาทีจากสื่อยุคดิจิทัลไร้พรมแดน
โดยเฉพาะเด็กไร้เรียงสาอายุ 2-5ขวบที่นอนพักกลางวันภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่ถูกเชือดคอทีละคนก่อนจ่อยิงกว่า 20 ศพ เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ชาวโลกช็อกกำลังสอง
ผู้นำของโลกหลายประเทศได้ส่งข้อความทางโซเซียลมีเดียแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์สะเทือนขวัญของโลก!!
สโมสรฟุตบอลระดับโลกก็ส่งสาส์นแสดงความเสียใจเช่นกัน
เหตุการณ์ช็อกโลกที่เกิดขึ้นในประเทศไทยที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นมาแน่ เมื่อมีเหตุแล้วก็ต้องหาเหตุที่แท้จริงแก้ไขป้องกันกันต่อไป
กูรูบางท่านก็ได้แสดงความคืดเห็นที่เป็นประโยชน์ในการป้องกันที่ต้องมองปัญหาให้ทะลุปรุโปร่ง!!
ทว่านักการเมืองขั้วตรงข้ามรัฐบาลฟันเปรี้ยงทันทีว่า รัฐบาล"ลุงตู่" ต้องรับผิดชอบ ปล่อยให้ยาบ้าระบาด ไม่ปราบปรามอย่างจริงจัง
เพราะรัฐบาลทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ให้มี "ตั๋วช้าง" "ตั๋วม้า" ในวงการตำรวจ จึงต้องปฏิรูปตำรวจไม่ให้มีสารพัดตั๋ว!!
และก็มีการโยงทหารคับแค้นใจผู้บังคับบัญชาคลั่งกราดยิงประชาชนเสียชีวิตที่ศูนย์การค้าเทอร์มินัล 21 โคราช เมื่อ2 ปีก่อน ดังนั้นจึงต้องปฏิรูปกองทัพเช่นกัน
นอกจากนี้ก็โยงไปว่าเป็นเพราะรัฐบาลจัดงบซื้ออาวุธให้กองทัพมากไป ไม่สนใจจัดงบในการปราบปรามยาเสพติด!?!
"ฝ้ายค้าน" ดูเหมือนจะคลั่งแค้นพอๆกับอดีตตำรวจที่กราดยิงเด็กเล็กไร้เรียงสาที่หนองบัวลำภู เตรียมยื่นเปิดซักฟอกรัฐบาลโดยไม่มีการลงมติตามกติการัฐธรรมนูญส่งท้ายสภาฯครบเทอมขยี้ขย่มให้ "ลุงตู่" รับผิดชอบ!!
พร้อมทั้งขยายแผลซ้ำเติมดิสเครดิตรัฐบาล ให้คะแนนนิยมเสียในศึกตะลุมบอนเลือกตั้ง 7 พฤษภาคม 2566!!
ก็ว่ากันไปตามประสาการเมืองเรื่องยุ่งๆ ที่ต้องพูดดูดีของพวกตนเอง ส่วนความชั่วต้องกระหน่ำใส่ฝ่ายรัฐบาล!!
ด้วยเหตุฉะนี้ "ลุงตู่" ที่เพิ่งเข้ามารับหน้าที่นายกฯตามปกติได้เพียง 6 วัน ก็ต้องรับเละแต่เพียงผู้เดียว
คาดว่าคนทั้งประเทศสวดมนต์ภาวนาไม่ให้เกิดเหตุการณ์ "ช็อกโลก" ซ้ำสองอีกจนผ่านพ้นเดือน "ตุลาอาถรรพณ์" ไปสู่เดือนพฤศจิกายน!!
ทั้งนี้ เพราะเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่ประเทศมีความภาคภูมิใจในการประชุมสุกยอด เอเปก ที่ผู้นำประเทศในแถบเอเซียและแปซิฟิกเดินทางมาประชุมที่กรุงเทพมหานครระหว่างวันที่ 16-18 พฤศจิกายน 2565 เพื่อให้โลกสงบเย็นไว้โยม จากปัญหาเศรษฐกิจที่ทั่วโลกประสบชะตากรรมเหมือนกัน จากต้นเหตุสงครามรัสเซียกับยูเครน
แม้ว่าการประชุมจะเน้นเรื่องความร่วมมือทางเศรษฐกิจให้เติบโตไปด้วยกัน ไม่ให้เศรษฐกิจของประเทศสมาชิกเอเปกตกสะเก็ด แต่เชื่อว่าจะลากเรื่องสงครามรัสเซียกับยูเครนที่อาจทำให้เกิดสงครามนิวเคลียร์ได้อย่างไม่คาดฝันมาหาทางออกร่วมกัน รวมทั้งปํญหาพลังงาน ปัญหาอากาศโลกที่แปรปรวน ปัญหาวิ่งแวดล้อม รวมทั้งสารพัดปัญหาแย่ๆอันเลวร้ายที่เกิดขึ้นในขณะนี้และอนาคต!!
อ๊ะ อ๊ะ ปมปัญหา 8 ปี ทำให้"ลุงตู่" ไม่รู้ว่าชะตาชีวิตตัวเองว่าจะได้เป็นประธานในที่ประชุมใเอเปกในฐานะประเทศเจ้าภาพได้สมความตั้งใจหรือไม่
เมื่อรอดพ้นจากปม 8 ปี "ลุงตู่" คงมีแผนการดำเนินการประชุมที่ทำให้ผู้นำทุกชาติเกิดความประทับใจที่นี่ประเทศไทย
ที่สำคัญที่สุดก็คือ "ลุงตู่" ได้หน้าบาน!!
ก็ขอภาวนาอย่าได้มีแก๊งป่วนการประชุม
สมัยไทยเป็นเจ้าภาพที่เมืองพัทยาในยุค "เดอะมาร์ค" อภิสิทธิ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ
เหตุประท้วงป่วนการประชุมให้วุ่นวาย ส่งผลให้ผู้นำแต่ละชาติเผ่นหนีกระเจิง
กลุ่มก้อนแก๊งที่ชังน้ำหน้า"ลุงตู่" ที่คิดวางแผนป่วนให้ซ้ำรอยอาถรรพณ์เหมือนสมัยที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพประชุมเอเปกที่เมืองพัทยา
ขอร้องท่านผู้เจริญอย่าป่วนเถอะนะ เพราะมิใช่ "ลุงตู่" เสียหน้าคนเดียวเสียหน้าเพียงคนเดียว แต่ทำให้ประเทศไทยเสียหน้าเสียชื่อเสียงขจรขจายไปทั่วโลก
ยังมีอีกสารพัดเหตุที่ทำให้"ลุงตู่" เสียหน้า ก็เขย่าขย่มไปเถอะ ตามสบายปาก!?!
อา.. วันเวลาประชุมเอเปกใกล้เข้ามาแล้ว ก็ยังไม่ทราบว่าผู้นำของโลกจะมาเจอกันพร้อมหน้าทุกคนหรือไม่
ทว่าก่อนที่จะมีคำตัดสินหลายวันจาก"ศาลรัฐธรรมนูญ" ว่า"ลุงตู่" รอดได้นั่งเก้าอี้นายกฯ ต่ออีก 2 ปีกว่าจนถึงวันที่ 5 เมษายน 2568!!
ทางประเทศสหรัฐอเมริกาได้แจ้ง"โจ ไบเดน" ประธานาธิบดีไม่เดินทางมาประชุม เพราะติดงานแต่งงานหลานสาวที่ทำเนียบขาว ส่งรองประธานาธิบดี "กมลา แฮร์ริส" "มาแทน
ส่วนประเทศมหาอำนาจจีนและรัสเซีย ไม่ได่แจ้งว่า "ท่านประธานสี จื้น ผิง" และ "ท่านประธานปูติน" จะส่งระดับรองมาแทน ย่อมแสดงว่า 2 ผูำโลกมาประชุมเอเปกเอง!!
มีผู้ทรงคุณวุฒิเจาะแบบลึกลับทีเล่นทีจริงมาว่า "ลุงโจ" กลัวว่า "ลุงตู่" ต้องจอด ก็ไม่ได้เจอกับ"ลุงตู่" แต่เมื่อ"ลุงตู่" รอด "ลุงโจ" อาจเปลี่ยนใจมาประชุม เพราะได้เจอหน้าเจอตากัน!!(ฮ่า ห้า)
ถ้า 3 ผู้นำโลกเจอหน้าหารือปรึกษากันที่ประเทศไทย ผลการประชุมมีการตกลงที่ทำให้เศรษฐกิจและสงครามสงบลงไป ก็จะเป็นเรื่องน่ายินดีของชาวโลก
"ลุงตู่" ก็จะได้หน้าได้ตาที่เป็นประธานการประชุมในฐานะประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ
แต่ถ้าประชุมเสร็จท่านผู้นำมหาอำนาจของโลกกลับไปบ้านใครบ้านมัน แล้วเปิดศึกน้ำลายทะเลาะกันเหมือนเดิม!?!
ประเทศอื่นๆ ก็ตัวใครตัวมันก็แล้วกันนะจ้ะ??
Social Links