"ทรัมป์" กระเด็น แต่ "ลุงตู๋" จะกระดอนหรือไม่ ให้จับตา 2 ธันวาคม 63!!
นายจักรยาน
ณ ขณะนี้สถานการณ์การเมืองโลกทุกสายตาของคนทั้งโลกกำลังเฝ้าจับตาดูว่าศึกชิงชัยตำแหน่ง "ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา" ที่คนอเมริกาทุกสีผิวได้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งไปแล้วเมื่อวันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา
สำนักโพลดัง ๆ ของอเมริกาทุกแห่งได้ฟันธงว่า "นายโจ ไบเดน" จากพรรคเดโมแครต ชนะแย่งเก้าอี้ผู้นำโลกจาก "นายโดนัลด์ ทร้มป์" ค่ายรีพีบลิกันได้
แต่ใครจะเป็นผู้คว้าชัยไม่ใช่มาจากคะแนนเสียงของประชาชนคนอเมริกาที่ได้แห่ไปลงคะแนนให้ใครเป็นผู้ชนะ แม้ว่าขณะนี้มีการเปิดเผยออกมาว่าคะแนนเสียงความนยิมจากประชาชนหรือที่เรียกกันว่าป๊อปปูล่าโหวต (Popula Vote)ว่า "โจ ไบเดน" ได้คะแนนมากกว่า "โดนัลด์ ทรัมป์" และมีคะแนนสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ของอเมริกาทีเดียว
ตามกฎกติการัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกา ผู้ที่ชี้ขาดว่าผู้ที่จะชนะเด็ดขาดคือ "คณะผู้เลือกตั้ง"ที่ทางอเมริกาเรียกว่า Electoral Vote จากมลรัฐต่าง ๆ ของสหรัฐอเมริกาที่จะลงคะแนนตัดสินให้ใครได้ก้าวขึ้นสู่ประธานาธิบดี
ซึ่ง"คณะผู้เลือกตั้ง" มาจากตัวแทนของแต่ละรัฐ และผู้ที่ควัาชัยไปนั่งบริหารโลกที่ทำเนียบขาวต้องได้รับคะแนนเสียงจาก "คณะผู้เลือกตั้ง" 270 เสียงขึ้นไปจากจำนวนเสียงทั้่งหมด 538 เสียง
อาจมีการตั้งคำถามว่า เหตุใด "คณะผู้เสือกตั้ง" จึงมีเสียงใหญ่กว่าเสียงของประชาชนคนอเมริกาทั้งประเทศที่ออกจากบ้านไปกากบาทเลือกตั้งผู้นำของตนเอง เหมือนกับว่าคะแนนเสียงของประชาชนไม่มีความหมาย แล้วเสียเวลาออกไปเลือกตั้งทำไม??
ก็เพราะว่ากติกาของรัฐธรรมนูญอเมริกาเป็นแบบนี้ ก็ต้องเป็นแบบนี้ทุกครั้ง อย่าได้สงสัยให้สงกาอะไรให้ปวดสมอง เพราะคนอเมริกาทุกคนรู้กติกานี้เป็นดีมานานแสนนานก็ไม่มีอะไรสงสัยหรือทำการปลุกระดมประท้วงไปทั่วสหรัฐอเมริกาที่ "คณะผู้เลือกตั้้ง" ลงคะแนนเลือกไม่ตรงกับป๊อปปํล่าโหวตของชาวอเมริกา
แต่ที่มีเรื่องประท้วงจนกลายเป็นจลาจลตามเมืองต่าง ๆ ของสหรัฐอเมริกา ก็เพราะคนแพ้ไม่ยอมแพ้ตามกติกามารยาทที่ดีงาม กล่าวหาว่ามีการโกงเลือกตั้ง แต่ไม่มีใบเสร็๋จมายืนยัน
การเลือกตั้งที่ผ่่าน ๆ มาเพียงวันสองวันก็รู้ผลว่าใครเป็นผู้ชนะ แต่การเลือกตั้งปี 2020 ครั้งนี้ มีการใช้สิทธิลงคะแนนทางไปรษณีย์กันมากมาย เพราะเป็นห่วงเรื่องการระบาดของเจ้าไวรัศมหาภัย "โควิด-19"
จึงทำให้การนับคะแนนจากไปรษณีย์ต้องใช้เวลานานหลายวันเกือบหนึ่งสัปดาห์ ผู้นำคนเก่าที่เห็นท่าว่าจะแพ้แน่ ๆ ก็เลยโวยว่าคะแนนจากไปรษณีย์ไม่โปร่งใส ยื่นฟ้องศาลแต่ละรัฐให้วุ่ยวายตามความคาดหมายของหลายฝ่ายว่าต้องมีเหตุนี้เกิดขึ้น ก็เกิดขึ้นจริง!!
ทว่ายังไงผู้นำโลกก็มาจาก 2 พรรคการเมืองของสหรัฐอเมริกาคือ "รีพับลิกัน" กับ "เดโมแครต" สลับหมุนเวียนกับครองเก้าอี้ ไม่มีพรรคอื่น ๆ เข้ามาแทรกได้เลยตั้งแต่ประเทศอเมริกาถือกำหนดขึ้นมาบนโลกใบนี้
การนับคะแนนทั่วประเทศเลยเวลามา 5 วัน ก็ยังไม่รู้ผลว่าใครเป็นผู้ชนะเด็ดขาด แต่ทุกฝ่ายฟันธงว่า "นายโจ ไบเดน" จากพรรคเดโมแครต เป็นฝ่ายชนะ "นายโดนัลดิ์ ทรัมป์" จากฝั่งพรรครีพับลิกันให้อับอายขายหน้าไปทั่วโลก
ซึ่งประเทศทั่วโลกอาจสมหน้าหน้า "ทรัมป์" ที่น้่งเก้าอี้ผู้นำโลกมา 4 ปี ทำให้โลกต้องประสบชะตากรรม"ขายหัวเราะ"!?!
เมื่อผู้นำโลกเปลี่ยนขั้วจาก "รีพับลิกัน" มาเป็นค่าย "ดีโมแครต" ก็มีการเฝ้าจับตามอบว่าจะทำให้โลกมีผลกระทบเปลี่ยนไปอย่างไรทั้งทางด้านการเมืองโลก สังคมโลก เศรษฐกิจโลก
โดยเฉพาะที่นี่ประเทศไทย ก็ต้องได้รับผลการเปลี่ยนแปลงไปตามโลกด้วย ก็ได้แต่หวังว่าจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีกว่าเดิมทางด้่านเศรษฐกิจ!!
สำหรับสถานการณ์การเมืองไทยเรื่องของ "ม็อบ" จะถูดบดบังจากเหตุการณ์การเลือกตั้งผู้นำมหาอำนาจสหรัฐอเมริกาว่าใครจะมาใครจะไป จึงทำให้แผ่ว ๆ ลงไปเป็นธรรมดาของสรรพสิ่งต่าง ๆ บนโลกใบนี้
แม้ว่า "ม็อบ" จะไม่มีการเคลื่อนไหวไปโผล่ที่โน่นที่นี่ทุก ๆ เย็นเหมือนได้เย้วๆ มาตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม 2563จนถึงปลายเดือน ตอนต้น ๆ เดือนพฤศจิกายน "ม็อบ" ก็ไม่เกิดขึ้นทุกวัน แต่ถ้าวันไหนอยากให้เป็นม็อบเบิ้มๆ ก็แถลงข่าวให้ผู้รักนิยมในม็อบไปชุมนุมกันให้เบิ้ม ๆ ตามคำคุย
วันที่ 8 พฤศจิกายน 2563 ที่ "ม็อบ" ประกาศชุมนุมครั้งใหญ่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย บรรดาม็อบจะมากันใหญ่เบิ้ม ๆ ตามคำโวหรือไม่ วันนั้นประชาชนคนไทยทั้งประเทศทุกภูมิภาคก็จะรู้ว่ามากันมากน้อยเท่าไหร่
จะมีการปักหลักนอนค้างคืน หรือสลายต้วไปในตอนค่ำ แล้วกำหนดวันมาเบิ้ม ๆ กันใหม่ให้เบิ้มยิ่งขึ้น!!
ประการสำคัญเรื่องที่ยืนยันเรียกร้องให้ "ลุงตู่" ลาออกจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ซึ่ง "ม็อบ" ได้รับคำตอบจาก "ลุงตู่" แล้วว่า "ไม่ออก" จะทำไม??
ขอประทานโทษ "ม็อบ" นะ ความต้องการของ "ม็อบ" มิใช้ความเห็นของประชาชนทุกหมู่เหล่าทั้งประเทศ เพราะมีความเห็นต่าง ๆ ที่ยังมีประชาชนส่วนใหญ่ขอให้ "ลุงตู่" อยู่ต่อไม่ต้องสนใจเสียง "ม็อบ"
ดังนั้น "ม็อบ" ต้องรับฟังความเห็นที่แตกต่างด้วยเช่นกัน มิฉะนั้นแล้วการประกาศว่าเป็นมิอบประขาธิปไตย ก็จะกลายเป็นม็อบประชาธิปกู ของกู โดยกู เพื่อกู!!
เป็นธรรมดาเช่นกันที่ประชาชนตัวจริงเสียงจริงส่วนใหญ่ทั่วประเทศที่ไม่ถูกแอบอ้างมองเห็นว่า"มือบ" ไหนทำดีก็ส่งเสียงเชียร์สนับสนุน ส่วน "ม็อบ" ไหนทำร้ายประเทศชาติก็มีการรวมตัวกล้าแสดงออกคัดค้านไม่เห็นด้วยอย่างจริงจัง
ส่วน "ลุงตู่" จะ "ออก" หรืออยู่ต่อไปตามระบอบประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ก็ต้องเป็นไปตามกฎกติกามารยาทของรัฐธรรมนูญ
เนื่องจากวันที่ 2 ธันวาคม 2563 นี้เวลาบ่าย 3 โมง ศาลรัฐธรรมนูญจะพิพากษาตัดสินคดีที่ "ฝายค้าน"ยื่นฟ้องให้ตีความว่า กรณีที่ "ลุงตู่" พักอาศัยอยู่บ้านหลวงฟรีในกรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ ทั้่ง ๆ ที่่เกษียณอายุจาก ผบ.ทบ.มา 6 ปีนั้น จะเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ตามรัฐธรรมนูญในมาตรา 184 หรือไม่
เพราะมาตรา 184 นั้นได้เขียนระบุว่า ห้ามผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรับผลประโยชน์อื่นใดจากหน่วยราชการทุกรณี และก็เป็นการฝ่าฝืนมาตราการจริธธรรมผู้ดำรงตำแหน่งการเมืองอย่างร้ายแรง
ด้วยเหตุฉะนี้ "ลุงตู่" จึงต้องสิ้นสุดลงตามมาตรา 170 และมาตรา 160 ของรัฐธรรมนูญที่คุณสมชาย (คสช.)ออกแบบมา??
ถ้าวันที่ 2 ธีนวาคมนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินว่า "ลุงตู่" ต้องกระเด็นจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ก็อาจเป็นที่พอใจของ "ม็อบ" ตามข้อเรียกร้องที่ 1 ส่วน "ม็อบ" จะยุติลงหรือไม่ก็ยังไม่มีใครคาดเดา "ม็อบ" ได้??
แต่ถ้า ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่า "ลุงตู่" ไม่พ้นสภาพการเป็น "นายกรัฐมนครี" รับรองว่า "ม็อบ" จะมีอีกประเด็นให้เติมความเบิ้ม ๆ อีกเพื่้อให้มันยุ่งกันเข้าไว้ั
รับประกันได้เลยว่า "ม็อบ" จะมีการจัดกิจกรรมแบบพฤติกรรมม็อบ ๆ ต่อไปเรื่อย ๆ ว้นเว้นวัน หรืออาทิตย์ละครั้งตลอดทั้งเดือนธันวามคมจนถึงสิ้นปีแล้วทะลุไปปีใหม่ 2564 เรา ๆ ท่าน ๆ ต้องติดตามดูอย่างกระชั้้นชิด
ก็อยากรู้ว่า "ม็อบ" จะจัดงานม็อบฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่หรือไม่ หรือหยุดพักให้ม็อบไปเฮฮาฉลองส่งท้ายปีรับปีใหม่กันตามสะดวก!!
ประชาชนที่อยากเห็นความสงบชองขาติบ้านเพื่อต้อนรับปีใหม่ 2564 ให้จิตใจเบิกบานแจ่มใส ก็ต้องทนเอาหน่อยนะ
เพราะทุก ๆ วันของประชาธิปไตยกับ "ม็อบ" เป็นของคู่กันพรากจากกันไม่ได้ สวัสดี!!
Social Links