ทีมศก.ปชป.ยกระดับนโยบายพลังงาน
ชูสังคมคาร์บอนต่ำ
“มิสเตอร์เอทานอล”ลุยเต็มสูบ!
“ทีมเศรษฐกิจประชาธิปัตย์”ประกาศยกระดับนโยบายพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานเป็นวาระเร่งด่วนแห่งชาติสู่สังคมคาร์บอนต่ำ“อลงกรณ์”เจ้าของฉายา”มิสเตอร์เอทานอล”ลุยเต็มสูบ ตั้งเป้าลดรายจ่ายครัวเรือนเพิ่มรายได้ชุมชน หนุนยานยนต์ไฟฟ้าเดินหน้าพลังงานไฮโดรเจน-เอทานอล-ไบโอดีเซล ปูพรมโรงผลิตก๊าซชีวภาพทุกหมู่บ้านพลังงานแสงอาทิตย์ทุกครัวเรือนโซล่าฟาร์มทุกแปลงเกษตร ดันกัญชงเข้าอุตสาหกรรมยานยนต์และก่อสร้าง เล็งพัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรมพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานส่งออกสร้างเงินเข้าประเทศ
ทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์ เปิดแถลงข่าว วาระประเทศไทย ครั้งที่ 2 “ปชป. ชูรื้อโครงสร้างราคาพลังงาน ลดรายจ่ายคนไทย” นำโดย ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม อดีตรมช.กระทรวงการคลัง และประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ นายเกียรติ สิทธีอมร อดีตประธานผู้แทนการค้าไทยประธานคณะกรรมการต่างประเทศ พรรคประชาธิปัตย์ ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าฯกทม. ผู้เชี่ยวชาญด้านคมนาคมขนส่งโครงสร้างพื้นฐาน และโครงการขนาดใหญ่ และนายอลงกรณ์ พลบุตร ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์ ณ ห้องประชุมชั้น 3 พรรคประชาธิปัตย์ อาคาร ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช
นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ.อดีตรมช.พาณิชย์ อดีตรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนและอดีตรมต.เงาพลังงาน เจ้าของฉายา”มิสเตอร์เอทานอล”ในฐานะทีมเศรษฐกิจแถลงนโยบายพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานของพรรคประชาธิปัตย์ ชูแนวทาง“ก้าวสู่พลังงานสีเขียวพลังงานสะอาดสู่สังคมคาร์บอนต่ำ”(Go Green Go Clean Go Low Carbon) โดยกล่าวว่า วิสัยทัศน์เชิงรุกพรรคประชาธิปัตย์ให้ความสำคัญสูงสุดสำหรับนโยบายพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานโดยยกระดับเป็นเป็นวาระแห่งชาติเร่งด่วน (National Urgent Agenda)เพื่อ
1.ลดค่าใช้จ่ายพลังงานในภาคประชาชน ภาคเอกชน ภาครัฐ
2.ลดภาระต้นทุนของประเทศโดยชะลอการลงทุนด้านการจัดหาพลังงานของประเทศ
3.ยืนบนขาตัวเองตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
4.เพิ่มโอกาสส่งออกพลังงานทดแทนและเทคโนโลยีนวัตกรรมอนุรักษ์พลังงาน
เป็นการแปรวิกฤติพลังงานเป็นโอกาสสามารถสร้างเงินสร้างคนสร้างชาติโดยมีเป้าหมายยกระดับประเทศไทยเป็นผู้นำพลังงานทดแทนและการอนุรักษ์พลังงานในภูมิภาคเอเชียภายในปี 2030
ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่และแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและชุมชนมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างเป็นรูปธรรมทั้งนี้นายอลงกรณ์ได้ตัวอย่างนโยบายสำคัญๆเป็นไฮไลท์ เช่น นโยบายส่งเสริมการวิจัยพัฒนานวัตกรรมโครงการ พลังงานไฮโดรเจน ( Hydrogen Energy )โครงการ เอทานอล100(E100)ไบโอดีเซล( B 100 ), โครงการ โซล่ารูฟ ทุกบ้าน ทุกอาคาร ด้วยระบบหักกลบไฟฟ้าที่ผลิตได้เองกับที่ใช้ไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและนครหลวง (Net Metering) และ การส่งเสริมอุปกรณ์เก็บพลังงานไฟฟ้าหรือแบตเตอรี่ไฟฟ้า(Energy storage),โครงการโซล่าฟาร์มและเกษตรอัจฉริยะประหยัดพลังงานสำหรับฟาร์มพืช ประมงและปศุสัตว์
นายอลงกรณ์ยังแถลงต่อไปว่านโยบายอนุรักษ์พลังงานของประชาธิปัตย์เป็นนโยบายปฏิรูปเชิงโครงสร้างพลังงานทดแทน เช่น นโยบายโครงการ 1 หมู่บ้าน 1 โรงแก๊สชีวภาพ 1 โรงปุ๋ยชีวภาพชุมชน,โครงการ 1 ตำบล 1 โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน,โครงการ 1 อำเภอ 1 ศูนย์ยานยนต์เครื่องจักรกลไฟฟ้าและการปรับเปลี่ยนยานยนต์เครื่องจักรกลเก่าเป็นระบบไฟฟ้า (Ev Conversion Center) (รถเก่ากว่า 40 ล้านคัน), โครงการ 1 จังหวัด 1 โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน
นอกจากนี้นายอลงกรณ์ยังแถลงถึงนโยบายอนุรักษ์พลังงานเช่นนโยบายเพิ่มมาตรการจูงใจให้มีการลงทุนจากภาคเอกชนและภาครัฐในการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน เช่นระบบเอสโค(ESCO บริษัทจัดการพลังงาน),การใช้เทคโนโลยีดิจิตอลในการอนุรักษ์พลังงานเช่น อินเตอร์เน็ตทุกสรรพสิ่ง(IOT)และแอปพลิเคชัน,การส่งเสริมภาคเอกชนจัดตั้งศูนย์ยานยนต์และเครื่องจักรกลเก่าและการปรับเปลี่ยนยานยนต์และเครื่องจักรกลเก่าเป็นระบบพลังงานไฟฟ้า(EV Conversion Centerทุกอำเภอโดยการสนับสนุนของศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม(AIC:Agritech and Innovation Center)77จังหวัด,เร่งเพิ่มอาคารประหยัดพลังงาน(BEC) และเร่งขับเคลื่อนโครงการบ้านประหยัดพลังงาน,การสนับสนุนส่งเสริมวัสดุก่อสร้างและชิ้นส่วนยานยนต์ลดความร้อนและผลิตได้ในประเทศเช่น กันชงไฟเบอร์ (Hemp Fiber)อิฐ (Hemp Brick) ผนังกันชง (Hemp Panel Board),การเพิ่มมาตรการส่งเสริมเครื่องไฟฟ้าและนวัตกรรมประหยัดพลังงาน เช่น มาตรการ เบอร์ 5 พลัส ฯลฯ
“เป็นการยกระดับนโยบายและมาตรการพัฒนาพลังงานทดแทนและการอนุรักษ์พลังงานแบบปฏิรูปเชิงโครงสร้างและระบบครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศ ภายใต้ยุทธศาสตร์สร้างเงินสร้างคนสร้างชาติด้วยเทคโนโลยีแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนตอบโจทย์ภาวะวิกฤติเศรษฐกิจและพลังงานของปัจจุบันและอนาคตเพื่อประเทศและคนไทยทุกคน”นายอลงกรณ์กล่าวในที่สุด.
Social Links