น้ำมันยูโร5 กับการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 (อีกที)
มนูญ ศิริวรรณ
ปัญหามลภาวะเรื่องฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่กำลังปกคลุมกรุงเทพอยู่ในขณะนี้ ทำให้ผมต้องกลับมาเขียนเรื่องนี้อีกครั้ง (หลังจากหนึ่งปีผ่านไป) โดยกรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน ได้ออกมาแถลงว่า ผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมันในประเทศทั้ง 6 โรง พร้อมที่จะปรับปรุงกระบวนการกลั่นเพื่อเร่งรัดให้มีการผลิตน้ำมันคุณภาพยูโร5 ออกมาทดแทนน้ำมันยูโร4 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันได้ ในวันที่ 1 มกราคม 2567 ด้วยเงินลงทุนรวมแล้วกว่า 50,000 ล้านบาท
คำถามคือน้ำมันยูโร5 แก้ปัญหามลภาวะฝุ่นละออง PM 2.5 ได้จริงหรือเปล่า?
ต้นตอของปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่เกิดขึ้นจากภาคขนส่งก็คือ การเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ในเครื่องยนต์ของ รถยนต์ โดยเฉพาะจากเครื่องยนต์ดีเซล ทำให้มีการปลดปล่อยควันพิษที่มีฝุ่นละอองขนาดเล็กดังกล่าวออกมาทางท่อไอเสีย ดังนั้นเครื่องยนต์ยิ่งเก่า ยิ่งมีการปล่อยควันพิษมาก ฝุ่นละออง PM 2.5 ก็ยิ่งมากตามไปด้วย
การปรับคุณภาพน้ำมันให้มีมาตรฐานสูงขึ้นจากยูโร4 เป็นยูโร5 โดยน้ำมันดีเซลตามมาตรฐานยูโร5 จะมีปริมาณซัลเฟอร์ลดลงจากปัจจุบันที่ 50 ppm เหลือ 10 ppm ก็อาจช่วยให้ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ออกมาทางท่อไอเสียลดลงได้บ้าง แต่ตราบใดก็ตามที่การเผาไหม้ยังไม่สมบูรณ์ ฝุ่นละอองก็จะยังคงมีอยู่
จะเห็นว่าหัวใจสำคัญของการแก้ปัญหาเรื่องนี้อยู่ที่เรื่องของเครื่องยนต์ ส่วนเรื่องคุณภาพน้ำมันนั้นเป็นเพียงส่วนประกอบ
ดังนั้นไม่ว่าคุณภาพของน้ำมันจะดีอย่างไรก็ตาม แต่ถ้าเราไม่สามารถแก้ปัญหารถเก่า รถที่เครื่องยนต์ไม่มีประสิทธิภาพ จำนวนรถดีเซลที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมายเพราะนโยบายตรึงราคาดีเซลของรัฐบาล และการปล่อยให้รถยนต์ดีเซลวิ่งเข้ามาในเขตกรุงเทพชั้นในได้อย่างอิสระ ฝุ่นควันพิษเหล่านี้ก็จะไม่มีวันหมดไป
ส่วนการปรับปรุงคุณภาพน้ำมันนั้น ผมเห็นด้วยว่าเป็นเรื่องที่ต้องทำ แต่ต้องทำควบคู่กันไปกับมาตรการลดปริมาณรถยนต์เก่าที่ไร้ประสิทธิภาพ และเพิ่มมาตรฐานประสิทธิภาพรถยนต์ใหม่ควบคู่กันไป โดยต้องมีโครงการกำจัดรถเก่าออกจากระบบ ผ่านทางการต่อภาษีทะเบียนรถยนต์ และกำหนดให้รถรุ่นใหม่ต้องเป็นมาตรฐานยูโร5 เช่นเดียวกับมาตรฐานน้ำมัน
มิฉะนั้นจะไม่มีประโยชน์อันใดที่เราจะผลิตน้ำมันยูโร5 ออกมาใช้กับรถเก่าที่ไม่ได้มาตรฐาน เครื่องยนต์ไม่มีประสิทธิภาพ เผาไหม้ไม่สมบูรณ์ วิ่งไปปล่อยควันพิษไป แล้วให้ผู้ใช้น้ำมันทั้งประเทศต้องมาแบกรับภาระราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจากการเปลี่ยนสเปคน้ำมันจากยูโร4 เป็นยูโร5
เดี๋ยวก็จะมีผู้ออกมากล่าวหาเหมือนตอนเปลี่ยนคุณภาพน้ำมันเป็นยูโร4 ว่ากระทรวงพลังงานสมรู้ร่วมคิดกับผู้ค้าน้ำมัน เปลี่ยนมาตรฐานน้ำมันให้สูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน เพราะต้องการผูกขาดตลาดน้ำมันในประเทศ ไม่ให้มีการนำเข้าน้ำมันเกรดต่ำกว่าเข้ามาแข่งขัน และต้องการให้โรงกลั่นในประเทศมีกำไรมากๆ ทั้งๆที่การเปลี่ยนครั้งนั้นริเริ่มมาจากกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยทำงานร่วมกับกระทรวงพลังงาน ซึ่งเป็นผู้นำเสนอนโยบายต่อกพช.และออกก.ม.กำหนดมาตรฐานคุณภาพน้ำมัน
ซึ่งถ้าไม่เปลี่ยนคุณภาพน้ำมันเป็นยูโร4ในตอนนั้น ปริมาณฝุ่นพิษตอนนี้จะเป็นยังไง อยากให้ท่านเอนจีโอใหญ่ที่ได้ข่าวว่าจะสมัครเป็นผู้ว่ากทม.ช่วยมาตอบหน่อยได้ไหม
หวังว่าคนกรุงเทพคงจะจำเรื่องนี้เอาไว้นะครับ !!!
Social Links