ปมถวายสัตย์ ฯ ยังไงก็ต้องจบ แต่เกมแก้รัฐธรรมนูญอีกนานกว่าจะจบ??
นายจักรยาน
แม้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินที่ให้พิจารณวินิจฉัยปมถวายสัตย์ ฯ ของ "ลุงตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอกชานายกรัฐมนตรี โดยมีการอรรถาธิบายถึงเหตุผลที่ไม่รับคำร้องว่า ไม่อยู่ในอำนาจตรวจสอบขององค์กรใดตามรัฐธรรมนูญ
เพราะการถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์เป็นการกระทำทางการเมืองของ ครม. ในฐานะองค์กรตามรัฐธรรมนูญฝ่ายบริหารในความสัมพันธ์เฉพาะกับพระมหากษัตริย์!!
แต่ปัญหาดังกล่าวก็มิได้จบ เพราะมีบางความเห็นตีความว่า การไม่รับคำร้องมิใช่คำวินิจฉัยตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ จึงย่อมไม่ผูกพันทุกองค์กร
ทว่ามีความเห็นแย้งว่า เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยไม่รับคำร้อง ก็ต้องผูกพันทุกองค์กรทุกอย่างต้องยุติ!!
แม้ว่า "ฝ่ายค้าน" จะบอกว่าเป็นเรื่องดีที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำคร้อง จึงมิใช่เป็นคำตัดสินเรื่องปมถวายสัตย์ ฯ ทำให้ "ฝ่ายค้าน" สามารถซักฟอกได้เต็มที่เพื่อให้ "ลุงตู่" กระทำขัดรัฐธรรมนูญตามที่พวกตนเห็นว่าผิด
อย่างไรก็ดีมีเสียงเตือนว่า "ฝ่ายค้าน" ไม่มีสิทธิที่จะซักฟอกปมถวายสัตย์ ฯ เพราะสภาผู้แทน ฯ ก็คือองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ย่อมไม่มีอำนาจตรวจสอบเช่นกัน
ถ้า "ฝ่ายค้าน" เดินหน้าต่อระวังจะเป็นการกระทำขัดรัฐธรรมนูญเช่นกัน พรรคฝ่ายค้านอาจโดยยื่นร้องเรียนให้ยุบพรรคทั้งหมดก็ได้เ??
การเมืองเรื่องยุ่ง ๆ ก็อย่างนี้แหละท่านที่เคารพ ฝ่ายหนึ่งที่่จะคิดเล่นงานอีกฝ่าย ก็อาจโดยเล่นงานในข้อกล่าวหาเดียวกัน!?!
ไม่รู้ว่า "ฝ่ายค้าน" จะเชื่อหรือไม่เชื่อ หรือไม่สนใจขอลุยแหลกถล่ม "ลุงตู่" ให้หายอยากต่อไปตามกำหนดเดิม ส่วนจะมีชะตากรรมทางการเมืองอย่างไร ก็ต้องติดตามชมและดูกันอย่าได้กะพริบตา
อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด แต่ "ปมถวายสัตย์"ก็ต้องจบเกม เพื่อให้ "เกมการเมือง" อีกเกมที่ "ฝ่ายค้าน" ปลุกกระแสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในเกม ก็คือ "เกมแก้รัฐธรรมนูญ"!!
โดยเฉพาะมีการโหมโฆษณาชวนเชื่อว่า แก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว ปากท้องของประชาชนจะดีขึ้น??
ไม่มีใครปฏิเสธว่ารัฐธรรมนูญปี 2560 ที่ประเทศชาติใช้อยู่ในปัจจุบันนี้ว่าอุปสรรคบางอย่างที่ทำให้บ้านเมืองเกิดปัญหาติดตามทีละเรื่องสองเรื่อง
ความจริงแล้วปัญหาเศรษฐกิจฐานรากไม่ใช่เกิดจากการไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่อยู่ที่ฝีมือของรัฐบาลในขณะนี้ว่าทำได้มากน้อยแค่ไหนที่จะให้ปากท้องของประชาชนไม่เดือดร้อน
ถ้าสมมตินะสมมติ ทุกฝ่ายรวมพลังแก้ไขรัฐธรรมนูญแก้ไขได้สำเร็จตามความต้องการของฝ่ายการเมืองแล้ว ปัญหาการแก้ไขเศรษฐกิจปากท้องในช่วงนั้นอาจจะยากกว่าเดิมก็ได้
เพราะสภาวะเศรษฐกิจของโลกเปลี่ยนแปลงขึ้น ๆ ลง ๆ ที่ส่งผลกระทบถึงเศรษฐกิจไทยนั้นยากที่่จะคาดเดาได้!!
ดังนั้น วาทกรรมชักจูงสมองให้เชื่อนั้น ก็ต้องใข้วิจารณญานในการใช้สมองคิดด้วยเช่นกัน อย่าได้หลงเชื่ออะไรง่าย ๆ เพราะพูดต่อ ๆ กันมา!!
อย่างไรก็ตาม เห็นด้วยกับที่มีผู้เสนอความคิดเห็นว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะสำเร็จได้ ก็ต้องใช้ "มธุรสวาจา"ระหว่างกัน เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้ามาร่วมด้วยช่วยกันอย่างเต็มใจ
มิใช่ปลุกกระแสให้เกิดการแตกแยกแบ่งฝ่ายกัน โดยตอกย้ำว่า ฝ่ายที่ไม่ต้องการแก้ไขเป็นเผด็จกำาร ฝ่ายที่อยาแก้ไขคือพวกประชาธิปไตย!!
เพราะจะทำให้อีกฝ่ายปลุกระดมต่อต้านขึ้นมาได้ การแก้ไขที่คิดว่าจะจบเร็วใช้เวลาไม่นานก็กลับกลายเป็นใช้เวลานานเกินควร??
กรุณาอย่าเอาความคิดพวกตนว่าถูกต้องว่าเป็นประชาธิปไตยกว่าใคร ๆ ควรรับฟังความคิดเห็นของฝ่ายอื่นมาผสมผสานรวมกันด้วยเพื่อมิให้เกิดความขัดแย้ง
ที่สำคัญไม่ควรลืมก็คือ "รัฐธรรมนูญ ปี 2560" ได้ผ่านประชามติจากเสียงของประชาชนทั่วประเทศ ดังนั้น "เกมแก้ไขรัฐธรรมนูญ" ครั้งนี้ก็ต้องทำประชามติเช่นกัน
เพราะเป็นเสียงแห่งอำนาจของประชาชน จะเป็นผู้ตัดสินว่าจะเอายังไง!!
ที่สำคัญอย่าประเมินอำนาจเสียงของประชาชนที่เงียบ ๆ ต่ำเกินไป ซึ่งผลออกมาอาจทำให้ผู้เรียกร้องพอใจหรือไม่พอใจก็ได้ ก็ไม่มีใครคาดการณ์ได้ล่วงหน้า
การแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่าได้ทำอย่างสุดโต่ง ต้องเดินสายกลางให้ประชาชนที่ถูกอ้างเสมอว่าเป็นเจ้าของอำนาจที่แท้จริงได้เห็นว่าการแก้ไขมีหนทางเดินให้ประเทศชาติก้าวไปข้างหน้า แก้ไขรัฐธรรมนูญบ่อย ๆ เป็นเรื่องดี เพื่อให้มีการปรับแก้ไขปลดล็อกให้เป็นไปตามสถานการณ์ในอนาคต!!
ขออย่างเดียว อย่าแก้กันจนเลอะเทอะ จนต้องโดนฉีกทิ้งอีกก็แล้วกันนะ!!
Social Links