ปม”เสียบบัตร”จบ อย่าพลาดศึกซักฟอก”ลุงตู่” มีทั้งเรื่อง “จริง” และ “เท็จ”??

ปม”เสียบบัตร”จบ อย่าพลาดศึกซักฟอก”ลุงตู่” มีทั้งเรื่อง “จริง” และ “เท็จ”??

ปม"เสียบบัตร"จบ อย่าพลาดศึกซักฟอก"ลุงตู่" มีทั้งเรื่อง "จริง" และ "เท็จ"??

นายจักรยาน

          เรื่องยุ่ง ๆ ทางการเมืองไม่เคยหยุดนิ่งเคลื่อนไหวไหลไปตามสถานการณ์ของแต่ละวันแต่ละช่วงเวลา

          วันที่ 7 กุมภาพาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา ศาลร้ฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยคดี "เสียบบัตร" แทนกันของท่านผู้ทรงเกียรติที่ประพฤติอย่างไม่มีเกียรติว่าเป็นไปตามรัฐธรรมนูญปี 2560 หรือไม่ระหว่างการประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563

            โดยศาลรัฐธรรมนูญตัดสินไม่โมฆะด้่วยคะแนนเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 และสั่งให้สภาผู้แทนราษฎรดำเนินการโหวตวาระ 2 และ 3 ใหม่

            ประธานที่เคารพ "ชวน หลีกภัย" ก็เลยนัดประชุมทันทีในวันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 ให้ ส.ส.ท่านผู้ทรงเกียรติโหวตกันใหม่เพื่อให้ถูกต้อง

            ก็หวังว่าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ฯ จะผ่านเป็นกฎหมายภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้  เพื่อให้งบประมาณแผ่นดินขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชาติมีเงินหมุนไปหมุนมาไม่หกคะเมนตีลังกา

            เมื่อคดี "เสียบบัตร" ของสภาผู้แทนราษฎรได้ยุติลงไปแล้ว  ต่อจากนั้นวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 ศาลรัฐธรรมนูญได้นัดอ่านคำพิพากษาปมเงินกู้ 191 ล้านบาทของ "พรรคอนาคตใหม่"ว่าจะรอดหรือต้องยุบ??

            เป็นเรื่องบังเอิญทางการเมืองที่มีการคาใจกันว่า  การกำหนดวันชี้ชะตา "พรรคอนาคตใหม่" ของศาลรัฐธรรมนูญทำไมเพราะเหตุอันใด จึงต้องแถลงผลคำวินิจฉัยก่อนวันศึกซักฟอกที่จะปะฉะดะกันระหว่างวันที่ 24-26 กุมภาพันธ์ 2563

            ถ้าตัดสินว่า "พรรคอนาคตใหม่" รอดไม่ถูกยุบพรรค    พลพรรคในสภา ฯ ของอนาคตใหม่ ก็มีสิทธิลุยถล่มโจมตี "ลุงตู่" และอีก 5 รัฐมนตรี ได้เต็มปากให้หายอยาก

            แต่ช้าแต่..ถ้าพิพากษาว่าถูกยุบ    คณะกรรมการบริการพรรคก็ต้องถูกตัดสิทธิ์ทางการตามบทบัญญัติของกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ

            ทว่า ส.ส.ทั้่งปาร์ตี้ลิสต์และเขตมีสิทธิเฉพาะตัวในการย้ายสังกัดไปซบกับค่ายอื่นภายใน 60 วัน  และสมาชิกสภาพ ส.ส.ไม่หลุดทันที  ยังมีสิทธิอภิปรายซักฟอกรัฐบาลและโหวตลงมติได้

            "ท่านปิยบุตร กนกแสงกุล" ซึ่งเป็นกรรมการบริหารพรรคก็ต้องหลุดจากเก้าอี้ ส.ส.โดยอัตโนมัติตามกติกา และได้ประกาศต่อสาธารณชนว่า  ถ้าพรรคโดนยุบ จากเดินสายนอกสภา ฯ อภิปรายไม่ไว้วางใจ "ลุงตู่" พร้อมกัน "ท่านธนาธร  จึงรุ่งเรืองเกียรติ" หัวหน้าพรรค

            เมื่อเหตุยังไม่บังเกิดขึ้น  ก็ยังไม่มีใครคาดเดาได้ว่าการเดินสายซักฟอกรัฐบาลนอกสภา  จะเดินสายลงบนถนน หรือเดินสายไปตามสถานที่ห้องประชุมต่าง ๆ ??

            เชื่อว่า ประชาชนพ่อแม่พี่น้องต่างก็เฝ้าดูและฟังการอภิปรายซักฟอก "ลุงตู่" และอีก 5 รัฐมนตรี ว่าแต่ละฝ่ายจะใช้ฝีปากปะทะกันด้วยวาทะกรรมมันแสบขนาดไหน

            โดยเฉพาะข้อกล่าวหาสารพัดเรื่องของ "ฝ่ายค้าน" กับคำโต้ชี้แจงของฝ่ายรัฐบาล  ฝ่ายไหนจะฟังขึ้นหรือไม่ขึ้น??

            สำหรับข้อกล่าวหาที่ดุเดือดที่เขียนใส่ในญัตติซักฟอกว่า "ลุงตู่" เป็นผู้นำประเทศที่กร่างเถื่อน  มองคนเห็นต่างเป็นศัตรู ชอบก่นด่าเมื่อถูกซักถาม ปล่อยให้มีทุจรติเต็มบ้านเต็มเมือง  และความล้มเหลวในการแก้่ไขเศรษฐกิจ

            พร้อมทั้งเน้นว่า "ลุงตู่" เป็นผู้ที่ไม่สนับสนุนการปกครองในระบอบประชาธิปไตย   ยึดอำนาจการปกครองแผ่นดิน ฉีกรัฐธรรมนูญ!!

            ข้อความรุนแรงในการกล่าวหา "ลุงตู่" นั้น  ประธานวิปรัฐบาล และ ส.ส.รัฐบาลเห็นว่าเป็น "ข้อความเท็จ" ต้องปรับเขียนใหม่ให้ลดโทนแรงแบบสุภาพ  ยื่นเรื่องให้ประธานสภาผู้แทน ฯ ได้วินิจฉัย

            ไม่ใช่นำเรื่องย้อนอดีตที่ผ่านไปแล้วมากล่าวหา  เนื่องจากปัจจุบันนี้ใช้รัฐธรรมนูญปี 2560 มีการเลือกตั้้ง มี ส.ส. และมีสภาผู้แทนราษฎรให้ผู้ทรงเกียรติได้เล่นในเวทีประชาธิปไตย

            ปรากฏว่า "ท่่านประธานที่เคารพ" เปิดตำราดูกฎหมายทุกฉบับที่เกี่ยวข้องกับการยื่นญัตติซักฟอกก็บอกว่าแก้ไขอะไรไม่ได้  เพราะญัตติยื่นเข้ามาแล้ว

            ด้วยเหตุฉะนี้  "ประธานวิปรัฐบาล" กับ "ประธานวิปฝ่ายค้าน" ได้ร่วมหารือกันในเรื่องข้อความอันเป็นเท็จ  ซึ่งได้ข้อยุติว่า "ฝ่ายค้าน"จะไม่พูดคำว่า "กร่าง" และ "เถื่อน" ในวันซักฟอก

            แต่ก็มิได้มีกระแสข่าวออกมาว่าห้ามพูดเรื่อง "ยึดอำนาจ" และ "ฉีกรัฐธรรมนูญ"  ดังนั้นในวันซักฟอกเรา ๆ ท่าน ๆ คงได้ยิน ส.ส.ฝ่ายค้านหลายคนออกมาเขย่าเรื่องนี้แน่นอน

            มีผู้ไม่ประสงค์ออกนามแต่ประสงค์แสดงความคิดเห็นบอกผ่านมาว่า  ข้อกล่าวหา "ยึดอำนาจ" และ "ฉีกรัฐธรรมนูญ" เป็นทั้งเรื่องจริงและเท็จ

            เรื่องจริงก็คือ "ลุงตู่" กระทำการ "ยึดอำนาจ" เป็นหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ด้วยการ "ฉีกรัฐธรรมนูญปี 2550" ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557!!

            ส่วนเรื่อง "เท็จ" ก็คือ  ณ เวลานี้ประเทศไทยใช้รัฐธรรมนูญใหม่ปี 2560 มาจนถึงบัดเดี๋ยวนี้ ยังไม่ปรากฏว่า "ลุงตู่" ฉีกรัฐธรรมนูญแต่ประการใด

            ถ้า "ลุงตู่" ฉีกรัฐธรรมนูญจริง    ส.ส.ฝ่ายค้านคงไม่มีโอกาสมายื่นซักฟอก "ลุงตู่" ตามระบอบประชาธิปไตยแน่??

            ดังนั้นศึกซักฟอกต้อนรับ "ลุงตู่" ครั้งแรกนี้  รับประกันว่าทั้ง "ฝ่ายค้าน" และ "รัฐบาล" จะมีการใช้กลยุทธในการเจาะเวลาหาอดีตมาห้ำหั่นกันให้การอภิปรายมีรสแซ่บจี๊ด

            เมื่อ "ฝ่ายค้าน" ย้อนอดีตการ "ฉีกรัฐธรรมนูญ" ของ "ลุงตู่"  มีหรือที่ "ฝ่ายรัฐบาล"จะไม่เตรียมข้อมูลย้อนอดีตมาโต้ "พรรคเพื่อไทย" แกนนำฝ่ายค้านที่เคยเป็นรัฐบาลสุดซอยจนถูกยึดอำนาจ

            โดยเฉพาะเรื่องการทุจริตโกงกินบ้านเมืองที่ศาลได้พิพากษาให้รัฐมนตรีติดคุกไปเรียบร้อยแล้วหลายคน  ส่วน "นายกรัฐมนตรีหญิง"คนแรกของไทยก็ไม่พ้นคุก  แต่ได้หลบหนีไปใช้ชีวิตสบาย ๆ  ณ ประเทศต่าง ๆ แทนการเข้าคุก!!

          เพราะฉะนั้นศึกซักฟอกรับปีหนู 2563 ครั้งนี้ ประชาชนทั้งประเทศจะได้รับความรู้ดี ๆ ทั้งในอดีตและปัจจุบันอย่างสนุกสนานสำราญใจตามสไตล์ของผู้อภิปรายแต่ละขั้ว

          ท่านที่เคารพ โปรดอย่าได้พลาดติดตามชมเป็นอันขาด!!

 

You may also like

แนวโน้มอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ไทย

ยอดขายขอ