ปรับ ครม.เป็นเรื่อง “Old Normal”แต่วันนี้ “ลุงตู่” ยังไม่ปรับ  ใครมีอะไรไหม??

ปรับ ครม.เป็นเรื่อง “Old Normal”แต่วันนี้ “ลุงตู่” ยังไม่ปรับ  ใครมีอะไรไหม??

ปรับ ครม.เป็นเรื่อง "Old Normal"แต่วันนี้ "ลุงตู่" ยังไม่ปรับ  ใครมีอะไรไหม??

นายจักรยาน

          การอุบัติขึ้นของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ "โควิด-19"ที่ระบาดลุกลามไปทั่วโลกในขณะนี้ใกล้แตะ 8 ล้านคนแล้ว อีกไม่นานเกินรอก็คงจะทะลุไปถึง 10 ล้านคนแน่นอน

          เนื่องจากการต่อกรกับ "ไวร้สมัจจุราช"พันธุ์นี้ของบรรดาประเทศในแถบยุโรป  อเมริกา  ลาตินอเมริกัา และอเมริกาใต้ ไม่"ล็อกดาวน์"อย่างเข้มข้น  ก็เลยไม่มีใครคาดการณ์ว่าเจ้าไวรัสวายร้ายจะเหนื่อยสงบลงเมื่อไหร่

            หรือต้องรอการผลิตวัคซีนสำเร็จ  ซึ่งต้องรอผลในสิ้นปีนี้และต้นปีหน้า 2564 ว่าฉีดกับมนุษย์ได้ปลอดภัยหรือไม่?

            เพราะฉะนั้น "โควิด-19"ก็ขวิดมนุษยชาติต่อไปเรื่อย ๆ ตามเสรีภาพของเชื้อโรคบนโลกใบนี้  เนื่องจากบางประเทศ "การ์ดตก" ปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรมของแต่ละบุคคล

            มีการวิเคราะห์การอาละวาดของ "ไวร้สเพชฌฆาต" จะส่งผลกระทบไปถึงวิถึชีวิตเก่า ๆ แบบปกติของผู้คนในโลกต้องเปลี่ยนเป็น "ความปรกติใหม่" (New Normal)

            ช่วงการระบาดแบบระเบิดเถิดเทิงของ "โควิด-19" ก็ทำให้คนในสังคมแต่ละประเทศปรับเปลี่ยนพฤติกรรมวิถีชีวิตใหม่ เพื่อป้องกัน "ไวรัสมรณะ" พุ่งเข้าใส่ตนเองจนติดเชื้อ!!

            หลังสงครามระหว่างคนกับเขื้อไวรัสมหาภัยสงบลง เราๆ ท่าน ๆ จะได้เห็นชาวโลกทั้งหลายก็จะดำเนินชีวิตแบบ "New Normal" ภายในปีสองปี  เพื่อให้โลกหมุนเดินไปไม่สะดุดพร้อมกับการก้าวไปข้างหน้าของมวลมนุษย์ชาติ

            การมาเยือนของ "ไวร้สโควิด-19"ที่มาล้างโลกในยุคนี้เหมือนจะล้างทุกสรรพสิ่งเก่า ๆ ออกไป และส่งผลไปถึงการซะล้างระบบการปกครองของประเทศต่าง ๆ ในโลกด้วย

            ไม่ว่าจะปกครองแบบประชาธิปไตยเต็มใบ  ครึ่งใบ ค่อนใบ   สังคมนิยม  สังคมนิยมผสมทุนนิยม  เผด็จการเต็มพิกัด  เผด็จการครึ่ง ๆ กลาง ๆ  ก็จะต้องมีการปรับเปลี่ยนให้เป็น "New Normal"ในที่สุด

            เพราะประชาชนทั่วทั้งโลกได้เห็นแล้วว่า ระบบการปกครองของโลกที่มักอ้างแต่ในตำรายุคเก่า ๆ ที่ทำให้เกิดผลเสียต่อยุคใหม่  ซึ่งทำให้ชาวโลกดวงตาเห็นธรรมขึ้นมา!!

            เราค่อนข้างเชื่อว่าผู้ที่กระโดดโลดเต้นทางการเมืองของระบบการปกครองต่าง ๆ  ยังหลงกลิ่น "Old Normal" มากกว่า "New Normal"??

            โดยเฉพาะนักการเมืองไทยแลนด์ที่คนทั้งประเทศได้เห็นการเล่นเกมการเมือง "Old Normal"ไม่เปลี่ยนนิสัยในเรื่องการแย่งชิงอำนาจทั้่งภายในพรรคตนเองและประเทศชาติ

            ความขัดแย้งภายใน "พรรคพลังประชารัฐ" แกนนำพรรคร่วมรัฐบาล เป็นวิถึ "Old Normal"ที่ปวงประชาชาวไทยได้รู้เห็นมาทุกยุคสมัยนับตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงการปกครองวันที่ 24 มิถุนายน 2475

            ด้วยเหตุฉะนี้จึงเป็นละครการเมืองที่สนุก ๆ ที่น่าเบื่้อเสมือนดูละคร"น้ำเน่า"ทางทีวี.ยังไงยังงั้น

แม้ว่าจะมีกระแสข่าวปล่อยว่า สมาชิกพรรค ปชป.จำนวนหนึ่งมีความประสงค์ที่จะเปลี่ยนแปลง "หัวหน้าพรรค" เช่นกัน แต่ทุกอย่างก็ค่อย ๆ สงบลงเมื่อเสียงที่ save หัวหน้าพรรคมีจำนวนมากกว่า

            แต่ก็สะท้อนภาพคนในพรรค ปชป.ว่าที่มีความขัดแย้งที่ไม่มีวันหมดไปตามวิถีเก่า ๆ ของพรรคมานานนม!!

            สำหรับ พรรคร่วมรัฐบาลอื่น  พรรคภูมิใจไทย  พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา พรรครวมประชาชาติไทย และพรรคเล็กหลายสิบพรรคไม่มีความเคลื่อนอะไร  ทุกพรรคยังขอซบ "ลุงตู่" ตลอดไป!!

            อา..การเปลี่ยนหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และเลขาธิการพรรคนั้น  เชื่อว่าเปลี่ยนแปลงได้แน่นอนไม่เกินกลางเดือนกรกฎาคม 2563 ว่าใครจะมาเป็นแทน

            จะเป็น "บิ๊กป้อม " พล.อ.ประวัตร วงษ์สุวรรณ  ประธานยุทธศาสตร์พรรค หรือเป็นบุคคลอื่นให้มีความเซอร์ไพร้ส์ที่สามารถเข้าใจคำว่า "ดูแล" ทางการเมืองให้แก่สมาชิกพรรคได้ทุกคน

            การเปลี่ยนหัวหน้าพรรคหรือเลขาธิการพรรค  มิใช่ว่าจะเปลี่ยนปรับรัฐมนตรีของพรรคแบบอัตโนมัติ  เพราะกฎกติกาไม่ได้ระบุว่าเมื่อเก้าอี้หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคผูกโยงกับเก้าอี้รัฐมนตรี ต้องกระเด้งกระดอนไปพร้อมกัน

            ที่สำคัญก็คือหัวหน้าพรรคไม่ใช่เป็นผู้มีอำนาจปรับรัฐมนตรี  แต่เป็นอำนาจของ "ลุงตู่" นายกรัฐมนตรีแต่เพียงผู้เดียวว่าจะปรับหรือไม่??

            การปรับ ครม.ท่ามกลางวิกฤติของ "ไวร้สยมทูต" ยังระบาดหนักอยู่ทั่วโลกจะอุบัติขึ้นหรือไม่ตามกลุ่มก้อนหนึ่งของคนในพรรคพลังประชารัฐ

            แต่ถ้าใครได้อ่านได้ฟังได้ยินทางสื่อต่าง ๆ ที่ "ลุงตู่" ได้กล่าวส่งท้ายก่อนปิดการประชุม ครม.เมื่อวันอังคารที่ 9 มิถุนายน 2563 ก็จะได้รับคำตอบว่าจะปรับตามใจนักการเมือง "Old Normal" ทันทีทันใดหรือไม่

            ซึ่ง "ลุงตู่" ได้แจ้งให้รัฐมนตรีทุกคนทุกพรรคที่เข้าประชุมว่า "ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ตอนนี้ยังไม่มีอะไรทั้งนั้น  ให้ทุกคนทำงานตามหน้าที่ และตั้งใจทำงานกันให้เรียบร้อย เรื่องอื่นผมจะตัดสินใจผมเอง ใครมีอะไรไหม  สวัสดี"

            ปรากฏว่าไม่มีรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐคนไหนกล้าถามสักคน  และก็วนที่ต้องการให้ปรับรัฐมนตรีของพรรคเมื่อเด้งเก้าอี้หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคได้สำเร็จก็ไม่มีใครกล้าถามผ่านสื่อมวลชน

          เมื่อคำพูดของ "ลุงตู่" ชัดเจนว่ายังไม่ปรับ ครม.ตามกระแสในตอนนี้  แต่ในอนาคตข้่างหน้าวันใดวันหนึ่ง "ลุงตู่"ก็ต้องปรับ ครม. ตามวิถีการเมืองแบบเก่า ๆ

          ไม่มีใครถามนะ  หวังว่าคงเข้าใจตรงกัน!!

You may also like

เปิดเคล็ดลับความมั่งคั่ง สำรวจกลยุทธ์การเงินชั้นเซียนของผู้มีกำลังซื้อสูง

เปิดเคล็