ปลดล็อกเงื่อนไขต่างชาติเที่ยวไทย
หนุนท่องเที่ยวครึ่งปีหลัง แตะ 5 ล้านคน
……………………………………………………………..
1 ก.ค. 65 ศบค. เปิดประเทศรับชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวได้ตามปกติ โดยยกเลิกการลงทะเบียนผ่าน Thailand Pass และยกเว้นเงินประกันสุขภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยบวกสำคัญต่อการท่องเที่ยวของไทย หลังจากที่ได้รับผลกระทบจากโควิดที่ยาวนาน จากปัจจัยดังกล่าว ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยในปีนี้จะมากกว่าที่คาด โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 น่าจะอยู่ที่ประมาณ 5.0 ล้านคน ทำให้ทั้งปี 2565 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติน่าจะอยู่ที่ประมาณ 7.2 ล้านคน (เพิ่มขึ้นจากคาดการณ์เดิมที่ 4.0 ล้านคน) ขณะที่นักท่องเที่ยวจากประเทศอินเดียคาดว่าจะมีจำนวนมากเป็นอันดับ 1
อย่างไรก็ดี ภาคการท่องเที่ยวยังต้องเผชิญกับความท้าทายจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในช่วงที่เหลือของปีนี้ ปัญหาราคาสินค้าและพลังงานที่เร่งตัวสูงขึ้นย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและการตัดสินใจเดินทางยังต่างประเทศของนักท่องเที่ยว
………………………………………………………………..
1 ก.ค. 65 ปลดล็อกเงื่อนไขต่างๆ ให้ชาวต่างชาติทุกกลุ่มสามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศได้ตามปกติ ช่วยหนุนตลาดต่างชาติเที่ยวไทยในช่วงที่เหลือของปี 2565 นี้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประมาณ 5.0 ล้านคน ส่งผลให้ทั้งปี 2565 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติขยับขึ้นเป็น 7.2 ล้านคน
ตั้งแต่ต้นปี 2565 ทางการไทยทยอยผ่อนคลายเงื่อนไขการเปิดรับชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศ และได้รับการตอบรับที่ดีจากชาวต่างชาติ จากข้อมูล Destination Insights with Google (หลังประเทศไทยกลับมาเปิดโครงการ Test & Go ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565) พบว่า ประเทศไทยติด 1 ใน 20 อันดับแรกของการค้นหาจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวของโลก
โดยเฉพาะในเดือนมิถุนายน หลังจากที่ทางการยกเลิกเงื่อนไขการกักตัวในกลุ่มชาวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิดไม่ครบหรือยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนนั้น พบว่า ในเดือนมิถุนายน ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นประมาณ 40% จากเดือนก่อน ทำให้ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565 ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาเที่ยวไทยมีจำนวนกว่า 2.0 ล้านคน
• ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 การยกเลิกการลงทะเบียนในระบบ Thailand Pass และยกเลิกการทำประกันสำหรับชาวต่างชาติเป็นปัจจัยบวกสำคัญต่อการท่องเที่ยวของไทย หลังจากที่ได้รับผลกระทบจากโควิดที่ยาวนาน กระนั้นก็ดี การเปิดประเทศครั้งนี้ นับว่ามีความสำคัญอย่างมาก ซึ่งในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 จะเป็นฤดูการท่องเที่ยวสำคัญที่นักท่องเที่ยวต่างชาติมักจะเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยค่อนข้างมาก และหากทางการสามารถควบคุมสถานการณ์โดยไม่เกิดการระบาดของโควิด-19 ในวงกว้างอีกได้ จะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวในพื้นที่ในระยะถัดไป
• จากปัจจัยบวกดังกล่าว ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยในปีนี้น่าจะมากกว่าที่คาด แต่ด้วยตลาดยังมีปัจจัจท้าทายซึ่งทำให้การฟื้นตัวยังจำกัด
ภายใต้สมมมติฐานการคาดการณ์นี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังมีมุมมองที่ระมัดระวัง เนื่องจากสถานการณ์ต่างๆ ยังมีความไม่แน่นอนสูง นอกจากสถานการณ์โควิดที่อาจมีผลต่อมาตรการต่างๆ ของทางการแล้ว ความเสี่ยงจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยืดเยื้อ ขณะที่หลายประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญกับราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้นและภาวะเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้น ทำให้ภาระรายจ่ายในชีวิตประจำวันปรับตัวสูงขึ้นตาม จึงอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและการตัดสินใจเดินทางยังต่างประเทศของนักท่องเที่ยวได้ในช่วงที่เหลือของปี
ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 นี้ น่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศประมาณ 5.0 ล้านคน เติบโต 160.0% จากในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 ส่งผลทำให้ทั้งปี 2565 นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยน่าจะมีจำนวน 7.2 ล้านคน (จากเดิมที่คาดว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยทั้งปีจะมีจำนวน 4.0 ล้านคน) สร้างรายได้คิดเป็นมูลค่าประมาณ 4.05 แสนล้านบาท
• นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกกลับมาเป็นแรงขับเคลื่อนตลาดต่างชาติเที่ยวไทยในช่วงที่เหลือของปี 2565 ขณะที่ทั้งปี 2565 นักท่องเที่ยวจากประเทศอินเดียคาดว่าจะมีจำนวนมากเป็นอันดับ 1
โดยการปรับประมาณการของ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ในครั้งนี้ ให้น้ำหนักในส่วนของนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชียตะวันออก ทั้งปี 2565 นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกจะมีสัดส่วน 45% ของชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยทั้งหมด โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาจากอาเซียน อาทิ นักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม นอกจากนี้ ยังมีนักท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และจีน (การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนยังทำได้จำกัด เนื่องจากการดำเนินนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของทางการจีน)
นอกจากนี้ ตลาดที่สำคัญที่กลับมาฟื้นตัวอย่างโดดเด่นหลังจากที่ทางการไทยผ่อนคลายเงื่อนไขต่างๆ ลง ได้แก่ นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชียใต้ โดยการฟื้นตัวหลักมาจากนักท่องเที่ยวอินเดีย และคาดว่าทั้งปี 2565 นี้ จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวอินเดียเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยประมาณ 1.0 ล้านคน (จากข้อมูลล่าสุดของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่า ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2565 นักท่องเที่ยวจากอินเดียเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศแล้วกว่า 1.22 แสนคน และเฉพาะในเดือนพฤษภาคม มีจำนวนกว่า 7.83 หมื่นคน) เนื่องจากการยกเลิกการลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Pass และประกันสุขภาพช่วยหนุนให้นักท่องเที่ยวเดินทางสะดวกขึ้นและประหยัดค่าใช้จ่าย และช่วยให้ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวทำตลาดได้ง่ายขึ้นเช่นกัน
สำหรับนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคยุโรปมีความท้าทายมากขึ้น ด้วยสถานการณ์ระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังไม่มีท่าทีที่จะคลี่คลาย มาตรการคว่ำบาตรเศรษฐกิจรัสเซีย ทำให้การฟื้นตัวของตลาดนักท่องเที่ยวจากรัสเซียและยุโรปตะวันออกในช่วงที่เหลือของปีคงจะได้รับผลกระทบ ขณะที่ตลาดนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นในภูมิภาคยุโรปก็คงต้องติดตามสถานการณ์สงครามพลังงานที่เกิดขึ้นระหว่างรัสเซียและประเทศในยุโรปอย่างใกล้ชิด หากเหตุการณ์ไม่ได้รุนแรงขึ้นจากสถานการณ์ปัจจุบันจนกระทบการเดินทางของนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคยุโรป ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ก็น่าจะเห็นการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวยุโรปเที่ยวไทย โดยเฉพาะจากประเทศเยอรมนี สหราชอาณาจักร และสแกนดิเนเวีย เป็นต้น
ขณะที่นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอื่น น่าจะยังฟื้นตัวได้ดี โดยนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคตะวันออกกลาง นอกจากตลาดนักท่องเที่ยวหลักอย่างอิสราเอลแล้ว ยังได้รับแรงหนุนจากนักท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบีย ซึ่งภายหลังที่ทางการไทยและซาอุฯได้ปรับความสัมพันธ์ และล่าสุดเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2565 ครม.ได้อนุมัติหลักการสำหรับชาวซาอุฯที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา และสามารถอยู่ในไทยได้ไม่เกิน 30 วัน น่าจะช่วยกระตุ้นชาวซาอุฯเดินทางเที่ยวไทยมากขึ้น สำหรับนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคโอเชียเนีย ได้รับแรงหนุนจากการกลับมาของนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย ซึ่งเป็นชาติที่มีการใช้จ่ายระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยสูงเป็นอันดับต้นๆ
กล่าวโดยสรุป การปลดล็อกเงื่อนไขต่างชาติเที่ยวไทยจะเป็นแรงหนุนที่สำคัญให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ และเป็นก้าวสำคัญในการช่วยให้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวกลับมาขับเคลื่อนได้อีกครั้ง
อย่างไรก็ดี ปัจจัยแวดล้อมตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติยังมีความไม่แน่นอนสูง ไม่ว่าจะเป็นการระบาดของโควิด ปัญหาระหว่างรัสเซียและยูเครน ปัญหาราคาพลังงานและเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ทำให้การฟื้นตัวของตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยยังทำได้จำกัด ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวยังคงต้องทำงานหนักและเตรียมความพร้อมต่อสถานการณ์ต่างๆ อาทิ การทำตลาดคงจะต้องมีหลากหลายขึ้น เช่น การเตรียมหาตลาดนักท่องเที่ยวอื่นเพิ่มเติมเพื่อลดความเสี่ยงจากนักท่องเที่ยวยุโรปที่อาจจะชะลอลตัวลงในช่วงที่เหลือของปี หรืออาจจะปรับแพ็คเกจที่พักเป็นรูปแบบแพ็คเกจอยู่ยาวเจาะกลุ่มชาวยุโรปที่มีกำลังซื้อสูง สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐในการดึงกลุ่มชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูง เช่น กลุ่มผู้มีความมั่งคั่งสูง ผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ และกลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย เป็นต้น ขณะที่ธุรกิจเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นสร้างแรงกดดันผู้ประกอบการในธุรกิจท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน ทำให้ผู้ประกอบการยังต้องระมัดระวังในการลงทุนและการทำตลาดโดยเฉพาะการทำแพ็คเกจด้านราคา
Social Links