ปล่อยผีการเมือง แต่การเมืองก็ “เลอะเทอะ” เหมือนเดิม??
วันที่ 10 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา เป็นวันที่ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญตามกติกาแบบประชาธิปไตยมาแล้ว 86 ปี
แต่ประชาธิปไตยอย่างอารยะประเทศยังไปไม่ถึงไหน ต้องฉีกทิ้งหยุดพักเว้นวรรคซ่อมแซมรัฐ
ธรรมนูญมาหลายสิบครั้ง
ซึ่งรัฐธรรมนูญปัจจุบันนี้ เป็นฉบับที่ 20 ของประเทศไทยที่แตกต่างพิสดารกว่ารัฐธรรมนูญที่ผ่าน ๆ มา
และรัฐธรรมนูญแต่ละฉบับก็เขียนขึ้นมาตามความประสงค์ของผู้มีอำนาจตามแต่ละยุคสมัยนั้น ๆ จากคณะปฏิวัติที่ใช้ชื่อเรียกแตกต่างกันที่ต้องการให้เป็นประชาธิปไตยครึ่งใบมากกว่าเต็มใบ
ว่ามาว่ามีรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 เท่านั้นที่ได้รับการชื่นชมว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่ดีที่สุดเท่าที่มีมา เพราะร่างโดยสภาร่างรัฐธรรมนูญที่ทุกพรรคการเมืองในสภาผู้แทนราษฎรเห็นพ้องต้องกัน
ส่งผลให้รัฐธรรมนูญปี 2540 มีอะไรใหม่ ๆ ที่ดี ๆ อยู่ในรัฐธรรมนูญที่จะทำให้ประชาธิปไตยเดินหน้าไปอย่างมั่นคง
แต่น่าเสียดายที่รัฐธรรมนูญปี 2540 ใช้มาเพียง 9 ปีก็โดยฉีกทิ้งโดยคณะทหารที่ยึดประเทศปฏิวัติรัฐประหาร
ต่อมาประเทศไทยก็มีรัฐธรรมนูญปี 2550 อีกวาระหนึ่ง ซึ่งก็มีสิ่ง ๆ ดีหลาย ๆ อย่างตามรัฐธรรมนูญปี 2540 แต่ก็ยังมิได้เต็มใบเสียทีเดียว เพราะสภาร่างรัฐธรรมนูญแต่งตั้งโดยคณะปฏิวัติ
รัฐธรรมนูญปีฉบับปัจจุบันที่ประกาศใช้ในวันที่ 6 เมษายน 2560 แต่การกำหนดวันเลือกตั้งได้ยืดเยื้อมาถึงปีเศษ ซึ่งเพิ่งรู้อย่างแน่นอนว่าคือวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นการเลือกตั้งครั้งแรกของรัฐธรรมนูญปี 2560
แม้ว่ารัฐธรรมนูญปี 2560 จะผ่านประชามติจากประชาชนทั้งประเทศ ทว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นรัฐธรรมนูญที่เขียนขึ้นมาเพื่อให้ “เขาอยู่ยาว” ตามความอยากได้อย่างถูกต้องกฎกติกาที่แปลก ๆ พิศดารมากกว่ารัฐธรรมนูญที่ผ่าน ๆ มา
ณ ขณะนี้ได้มีการปลดล็อกการเมืองเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นไปตามสัญญาของ คสช.ทีให้ไว้แก่พรรคการเมือง โดยปลดล็อกวันเดียวกับที่กฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มีผลบังคับใช้ใช้ในวันที่ 11 ธันวาคม 2561 ไม่ต้องรอไปอีกวันสองวัน
ว่ามาว่าการปลดล็อกเหมือนกันการ “ปล่อยผี” พรรคการเมือง แต่บรรดาผีไม่แฮปปี้เท่าไหร่นัก ก็มีการออกมาโวยวายตามประสาผี ๆ เพราะไม่สามารถอาละวาดตามถนัดของผีแบบเดิม ๆได้สะดวกนัก
อย่างไรก็ตาม ศึกตะลุมบอนชิงเก้าอี้ ส.ส.ครั้งนี้ กระแสเสียงของทุกฝ่ายมองตรงกันว่า “เขาอยากอยู่ยาว” ก็ได้อยู่ยาวต่อไปตามรัฐธรรมนูญที่ทำให้เกิดอภินิหารต่าง ๆ ทางการเมืองขึ้นมา
ซี่งสมรภูมิสนามเลือกตั้งครั้งนี้ก็เหมือน ๆ กับการเลือกตั้งในอดีตก็คือ “ประมูลสัมปทานคะแนนเสียง” ตามที่ “บุรุษเสื้อกั๊ก” ธีรยุทธ์ บุญมี นักวิชาการคนดัง ได้ประดิษฐ์คำศัพท์การเมืองขึ้นมาใหม่
ศัพท์ใหม่ทางการเมืองไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นเรื่องเก่า ๆ ของคำว่า “ประชานิยม” และเปลี่ยนคำใหม่ในปัจจุบันนี้เป็น “ประชารัฐ” ในอนาคตอาจมีการเปลี่ยนชื่อให้แตกต่างที่ไพเราะเก๋กว่าก็ได้
ความเคลื่อนไหวการเมืองในแต่ละยุคสมัยที่มีเหตุปฏิวัติเกิดขึ้นก็ยังมีสิ่งเก่ายังดำรงอยู่ และมีสิ่งใหม่ ๆ แปลก ๆ เกิดขึ้นมา หลังจากที่คณะผู้ยึดอำนาจปล่อยมือไปสู่การเลือกตั้งที่มาจากประชาชน
สำหรับสิ่งใหม่ ๆ ในยุคนี้ก็เป็นเรื่องการสืบทอดอำนาจด้วยวิธีใหม่ ๆ ไม่เหมือนเก่า เพื่อชิงอำนาจรัฐต่อไปตามเจตนารมณ์ที่รัฐธรรมนูญใหม่ปูทางเอาไว้
แม้ว่า คสช.ได้ออกมาเรียกร้องหลังจากที่ “ปล่อยผี” ให้แก่บรรดาพรรคการเมือง ทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ตามหลักของประชาธิปไตย เอื้อประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง ให้ประชาชนมีส่วนร่วม
ทางด้าน “บิ๊กตู่” ก็ออกมาย้ำว่า ขออย่าทำให้เลอะเทอะ เพื่อให้ประเทศชาติมีความสงบ
แต่เชื่อเหอะ บรรดาผีการเมืองของพรรคการเมืองที่ต่อต้าน คสช. มีหรือจะเชื่อฟังอย่างสงบเสงี่ยม เพราะการเปิดปากรุมถล่มโจมตีกันแต่ละฝ่ายอย่างเลอะเทอะก็เกิดทันทีทันใดรวดเร็วทันใจหลังจากที่ปล่อยผี ซึ่งก็เป็นปรากฏการณ์ธรรมดาทางการเมือง เพื่อให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนได้รับฟังระรื่นรูหูอย่างสนุกสนาน
อ๊ะ อ๊ะ จะเลอะเทอะอย่างไร ก็เลอะไปให้เต็มที่เต็มปาก เพราะการเมืองกับความเลอะเทอะเป็นของคู่กันยากที่จะปฏิเสธความจริงได้ ไม่ว่าในสมัยอดีต ปัจจุบัน ไปจนถึงอนาคตอันไกลโพ้น
ขอให้ระวังอย่างเดียว อย่าบิดเบือนใส่ร้ายป้ายสี เพราะผิดกฎหมายนะจะบอกให้!!
นายจักรยาน
Social Links