ปิดการเดินเครื่องน้ำมันปาล์มดิบ 160,000 ตัน ที่บางปะกง

ปิดการเดินเครื่องน้ำมันปาล์มดิบ 160,000 ตัน ที่บางปะกง

 ปิดการเดินเครื่องน้ำมันปาล์มดิบ 160,000 ตัน ที่บางปะกง 

                รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ตรวจเยี่ยมโรงไฟฟ้าบางปะกงเพื่อติดตามผลการรับซื้อและใช้น้ำมันปาล์มดิบในการผลิตไฟฟ้า หลังที่ได้เดินเครื่องที่โรงไฟฟ้าพลังความร้อน หน่วยที่ 3 ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2562 จนปัจจุบันได้ใช้น้ำมันปาล์มดิบครบ 160,000 ตัน ตามที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล ทั้งนี้โรงไฟฟ้าบางปะกงมีแผนที่จะทำการตรวจสอบสภาพระบบท่อส่งและเตาเผาน้ำมันปาล์มดิบเพื่อปรับสมรรถนะให้สามารถเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าด้วยน้ำมันปาล์มดิบอีก 200,000 ตัน ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2562 ด้วยประสิทธิภาพสูงสุด

                เมื่อวัน 24 มิถุนายน 2562  ที่ผ่านมา  ดร.ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ตรวจเยี่ยมโรงไฟฟ้าบางปะกง และร่วมสังเกตการตรวจสอบสภาพระบบท่อส่งและเตาเผาน้ำมันปาล์มดิบ หลังจากที่ได้ใช้น้ำมันปาล์มดิบ เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าตามที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล โดยมี นายประสงค์ คงเคารพธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น และผู้บริหาร กฟผ. เข้าร่วมสังเกตการ ณ ห้องควบคุมการเดินเครื่อง โรงไฟฟ้าพลังความร้อนบางปะกง หน่วยที่ 3 จังหวัดฉะเชิงเทรา

                ดร.ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (รมว.พน.) บอกว่า กระทรวงพลังงาน โดย กฟผ. ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบจำนวน 160,000 ตัน นำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบางปะกง หน่วยที่ 3 จังหวัดฉะเชิงเทรา ในราคาที่โรงสกัดได้ซื้อทลายปาล์มสดจากเกษตรกรชาวสวนปาล์มในราคา 3.20 บาทต่อกิโลกรัม นั้น ได้มีการใช้น้ำมันปาล์มดิบมาผลิตไฟฟ้าได้ครบตามจำนวนแล้ว และได้รับรายงานจาก นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการ กฟผ. ว่า ในวันนี้จะหยุดการผลิตเป็นระยะเวลาสั้นๆ ประมาณ 10 วัน เพื่อตรวจสอบสภาพระบบท่อส่งและเตาเผาน้ำมันปาล์มดิบ ซึ่งเป็นขั้นตอนของการเตรียมความพร้อมสำหรับการใช้น้ำมันปาล์มดิบล็อตใหม่ด้วยประสิทธิภาพสูงสุด

                ด้าน นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการ กฟผ. บอกว่า กฟผ. ได้ดำเนินการตาม “มาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ โดยการใช้น้ำมันปาล์มดิบผลิตกระแสไฟฟ้า” โดยรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบล็อตแรกครบตามจำนวน 160,000 ตัน และยังได้ดำเนินการเปิดรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มเติมอีก จำนวน 200,000 ตัน โดยมีโรงสกัดที่มีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์ยื่นเสนอขายรวม 66,250 ตัน และได้มีการส่งมอบน้ำมันเข้าคลังน้ำมัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ก่อนจะทยอยส่งมอบมายังโรงไฟฟ้าบางปะกง กฟผ. และรู้สึกยินดีที่ได้มีส่วนช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนปาล์ม สำหรับการใช้น้ำมันปาล์มดิบมาผลิตไฟฟ้าในล็อตใหม่ คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้หมดภายในเดือนสิงหาคม 2562 ทั้งนี้ กฟผ. ได้ดำเนินการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2561 จำนวน 160,000 ตัน และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2562 จำนวน 200,000 ตัน ส่งผลให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบ ณ วันที่ 18 มิถุนายน 2562 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 14.13 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 21 บาทต่อกิโลกรัม และราคาผลปาล์มปรับเพิ่มขึ้นจาก 2.05 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 3.70 บาทต่อกิโลกรัม

 

 

 

 

You may also like

“มนพร”สุดปลื้ม! สนามบินแม่ฮ่องสอน-เลย-น่านนคร คว้ารางวัล”EIA Monitoring Awards 2024″

“มนพร”สุ