ปิดประเทศ ปิดเมือง ปิดบ้าน และปิดปาก พิชิตศึกให้"ไวรัสล้างโลก" หยุดซ่า??
นายจักรยาน
สงครามโลกครั้งที่ 3 จะเกิดขึ้นหรือไม่ ซึ่งเป็นคำถามของหลายฝ่ายที่เห็นสถานการณ์ของโลกมีเหตุรุนแรง มีการก่อการร้ายไปทั่วทุกมุมโลกทุกวัน เปิดศึกสงครามการค้าของ 2 พี่เบิ้มมหาอำนาจระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน ส่งผลให้โลกมีความตึงเครียด
แต่ ณ เวลานี้ "สงครามโลกครั้งที่ 3"ได้เกิดขึ้นจริงเป็นที่เรียบร้อย สาเหตุมาจากไวรัสมหาประลัยสายพันธ์ใหม่ 19 หรือมีชื่ออย่างทางการว่า "โควิด-19" ที่บุกทะลวงจู่โจมทำลายล้างมนุษยชาติไปทั่วโลก
เนื่องจาก "ไวร้สมรณะ" ไม่สนใจว่าประเทศไหนจะอยู่ในระบอบการปกครองใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นระบอบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ หรือประชาธิปไตยแบบไหน ๆ ก็พุ่งเข้าใส่ปลิดชีวิตประชาชนด้วยความเท่าเทียมกัน
ด้วยเหตุฉะนี้ ประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง ของจีน กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ได้ต่อสายตรงคุยกันเพื่อร่วมมือกันทำสงครามกับ "โควิด-19" ให้สิ้นซากไปให้ได้ โดยเก็บความบาดหมางต่าง ๆ เอาไว้ก่อน
เมื่อทุกประเทศในโลกกลม ๆ เบี้ยว ๆ ใบนี้จับมือเป็นหนึ่งเดียวจะพิชิต "ไวรัสมัจจุราช" ให้พังนินาศสลายหายไปโดยเร็ววัน ก็ขอให้เรา ๆ ท่าน ๆ ส่งกำลังใจช่วยอย่างเต็มที่ ต้องไม่แหกกฎกติาของข้อห้ามในการทำสงครามกับภัยเชื้อโรคร้ายที่มองไม่เห็นต้ว
สำหรับประเทศไทยได้ร่วมต่อสู้ต่อต้าน "ไวรัสล้างโลก" อย่างแข็งขันตั้งแต่ต้น และก็มีการประกาศพระราชกำหนด (พ.ร.ก.)การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อสกัดกั้นยับยั้งการแพร่ระบาดเชื่อไวรัสล้างโลก (โควิด-19) ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 จนถึง 30 เมษายน 2563 เป็นที่เรียบร้อยสมความต้องการของหลาย ๆ ฝ่าย
ซึ่ง พ.ร.ก.ดังกล่าวเป็นการบังคับใช้ทั่วราชอาณาจักรไทยของประว้ติศาสตร์ไทยที่ต้องบันทึกไว้
เพราะส่วนใหญ่แล้วการออก พ.ร.ก.ฉุกเฉินจะใช้ในสถานการณ์เกี่ยวข้องกับความมั่นคงและการเมืองของประเทศ แต่ครั้งนี้เป็นการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฯ ครั้งแรกเพื่อการสาธารณสุข สุขภาพและความปลอดภัยของชีวิตประชาชน
พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฯ ที่แทบทุกรัฐบาลที่ผ่านมาจะใช้บังคับใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ตามระยะเวลาที่จะกำหนดไว้ เพื่อป้องกันความมั่นคงของประเทศชาติจากกลุ่มก่อการร้าย
เมื่อใกล้จะครบกำหนดเวลายังเหตุรุนแรงจากเสียง "บึม" ของพวกก่อการร้าย ก็จะมีการต่อเวลาออกไปอีกตามมติของ ครม.
การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นเวลา 1 เดือน เพื่อหยุดการลุกลามของ "ไวรัสมัจจุราช" แต่ถ้าเจ้าไวรัสมหาวายร้ายไม่หยุดซ่าอาละวาดในทุกพื้นที่ของประเทศไทย
ก็คาดการณ์ล่วงหน้าได้เลยว่าจะมีการต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีกแน่นอน
การใช้เสรีภาพของ "ไวรัสมหันตภัย" ในการแพร่พิษร้ายไปทั่วทุถมุมโลกที่มีมนุษย์อาศัยอยู่ ประเทศต่าง ๆ ได้หายุทธวิธีในการทำสงครามเพื่อสต็อป "โควิด-19" ให้อยู่หมัด แต่จะสำเร็จเมื่อไหร่ กี่ปี กี่เดือน ยังไม่ใครตอบได้
ประชาชนของประเทศแถบยุโรปที่เคารพสิทธิเสรีภาพก็เข้าใจในการทำสงครามกับ "โควิด-19" อย่างมีสติปัญญา
เนื่องจากกลุ่มการเมือง และนักการเมืองในชาติยุโรปและตะวันตกไม่ทำตัวเป็น "กาลกิณี" ต่อบ้านเมืองตัวเอง ทุกฝ่ายออกมาประกาศสนับสนุนมาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาล
ที่เหมือน ๆ กันทุกประเทศคือให้ประชาชน "อยู่บ้านเพื่อชาติ" อย่าได้ออกนอกบ้านมาเพ่นพล่านให้มีความเสี่ยงในการติดเชื้อมหาวายร้ายของโลกยุดดิจิทัล
ถ้าใครฝ่าฝืนออกนอกบ้านโดยไม่จำเป็น จะถูกลงโทษที่ขัดหลักสิทธิมนุษยชน เช่น ประเทศอินเดีย ได้มีคลิปเผยแพร่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ไม้เรียวยาวเช็คด้วยแอลกอฮอร์หวดอย่างแรงต่อคนที่ดื้อไม่เชื่อฟัง
หรืออย่างประเทศมาเลเซียเพื่อนบ้านทางใต้เรา ก็มีคลิปให้เห็นถึงการลงโทษผู้ดื้อด้านด้วยการใช้ไม้หวดข้อเท้าผู้ที่เดินอออกมาจากบ้านพักอาศัย
ประเทศรัสเซียคุมเข้มประชาชนไม่เหมือนใคร โดยปล่อย "สิงโต" ออกมาเดินไปมาในเมือง ประชาชนจะได้ไม่กล้าออกมาเดินเย้ยท้าไวรัสมรณะ
องค์กรของโลกที่ชูเรื่องหลักสิทธิมนุษยชน ก็ยังต้องปิดปากเงียบไว้ก่อน ไม่หือไม่อือแต่ประการใด??
อา..ในช่วงวิกฤตินี้ แต่ละประเทศก็ต้องมีมาตรการคุมเข้มประชาชนของตนเองแตกต่างกันไป เพื่อจำกัด "สิทธิเสรีภาพ" ของไวรัสมหาวิบติตัวนี้ไม่ให้แพร่กระจายอย่างอิสระเสรี
แม้ว่าประเทศไทยจะได้ออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในการหยุดการแพร่กระจายของ "ไวรัสโควิด-19" แต่ยังเป็นมาตรการกึ่งหนักกึ่งเบา ไมเข้มข้นเหมือนประเทศแถบตะวันตก
ระยะแรก ๆ ขอความร่วมมือกับประชาชนด้วยความเป็นห่วง แต่ถ้ายังประพฤติปฏิบัติตามใจตัวเองไปไหนต่อไปตามใจชอบแบบฉันไม่แคร์
เชื่อได้เลยว่า "ลุงตู่" จะใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินปิดประเทศ ปิดเมือง ประกาศเคอร์ฟิว เพื่อหยุดเสรีภาพของ "ไวรัสตัวร้าย" ไม่ให้ทำลายชีวิตของประชาชน
แต่ประเทศไทยไม่เหมือนใครในโลกประชาธิปไตยต่าง ๆ เพราะมีนักการเมืองบางประเภท กลุ่มการเมืองบางพวกเพ้อ "เสรีภาพ" ไม่ลืมหูลืมตาไร้กาละเทศะ
ได้ใช้ปากพูดตีกินทางการเมืองว่า อย่าใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาใช้ในการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน!!
โดยไม่สนใจว่า "ไวรัสพิภพมัจจุราช" ในขณะนี้ได้ใช้เสรีภาพแพร่เชื้อมรณะให้ประชาชนทั่วโลกไปแล้ว 5 แสนกว่าคน เด็ดสะมอแร่พาสอะเวย์ไปแล้วเกิอย 3 หมื่นคน แต่ก็ผู้ติดเชื้อรักษาหายแล้วแสนกว่าคน
องค์การอนามัยโลกหรือ WHO ได้ประเมินว่าถ้าไม่สามารถหยุดเสรีภาพเจ้าตัวไวร้สแสนโหดในการพ่นพิษให้แก่ชาวโลก อีกเดือนสองเดือนคนทั้งโลกจะติดเชื้อไวรัสทำลายโลกตัวนี้เป็นล้าน ๆ คนขึ้นไป
สำหรับประเทศไทยมีตัวเลขผู้ติดเชื้อแบบก้าวกระโดดวันละร้อยกว่าคน จนทะลุพันคนขึ้นไปแล้ว และอาจถึงหมื่นคนในวันข้างหน้า
ด้วยเหตุฉะนี้และฉะนั้น ประชาชนคนธรรมดา นักการเมืองบางประเภททั้้งหญิงและชาย ต้องร่วมแรงร่วมใจร่วมมือเป็นหนึ่งเดียวเพื่อหยุดเสรีภาพของ "ไวรัสโหดของโลก" ในประเทศไทยให้เร็วที่สุดด้วยการ "ปิดปาก"
ถ้าใช้ปากอ้างเสรีภาพอย่างสุดโต่งไร้ขีดจำกัด ก็จะทำให้เสรีภาพของ "ไวรัสโควิด-19" ทำลายล้างคนไทยเพิ่มจำนวนมากขึ้นที่ไม่อาจคาดคิดได้
ประเทศชาติจะปลอดภัยก็ด้วยการ ปิดบ้าน ปิดเมือง ปิดประเทศ และก็ "ปิดปาก" เป็นดีที่สุด
สาธุชนผู้มีสติสัมปชัญญะ เข้าใจตรงกันนะ!!
Social Links