ปี 2561 การเมืองไทยจะเป็น “การเมืองน้ำดี” จริงหรือ!?!

ปี 2561 การเมืองไทยจะเป็น “การเมืองน้ำดี” จริงหรือ!?!

          ประชาชนคนไทยทั้งประเทศได้รับรู้ได้ฟังคำพูดของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. เต็มสองรูหูแล้วว่า ปี 2561 นี้ “ลุงตู่” ของพ่อแม่พี่น้องจะไม่หงุดหงิด  อารมณ์ดีตลอด

           พร้อมทั้งเชื่อว่าเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศในปี 2561 จะดีขึ้น เป็นปีแห่งความสำเร็จ หวังทุกฝ่ายลดความขัดแย้ง สร้างความปรองดองเกิดขึ้นมา

            แต่ในความเป็นจริงตลอดปีจอ “บิ๊กตู่” จะอารมณ์ดี๊ดี ไม่แสดงอาการหงุดหงิดไปตลอดทั้งปีหรือไม่ เราๆ ท่านๆ ต้องรอถึงสิ้นปี 2561 ก็จะรู้ว่า “ลุงตู่” ทำได้จริงหรือไม่?

            สำหรับเรื่องเศรษฐกิจที่นายกฯ ประยุทธ์ ที่เชื่อว่าจะดีขึ้น ก็น่าจะเป็นจริงในภาพรวมของประเทศ เพราะสัญญาณปีที่ผ่านมา รายได้จากการท่องเที่ยวสามารถทำยอดได้ทะลุทะลวงอย่างอะเมซิ่งไทยแลนด์ ปี 2561 นี้หลายฝ่ายเชื่อว่า “การท่องเที่ยว” จะเป็นพระเอกให้แก่บ้านเมืองที่จะผลักดันให้เศรษฐกิจของไทยเติบโตไปในทางที่ดี

            ส่วนพระรองที่เป็นตัวช่วยทำรายได้เข้าประเทศเป็นจำนวนมหาศาลเช่นกันก็คือ “การส่งออก”  เนื่องจากตลอดทั้งปี 2560 มีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ คาดการณ์กันว่าตลอดทั้งปี 2561 มูลค่าการส่งออกก็จะสูงอีกเช่นกัน อันเนื่องจากเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว

            แต่ก็ต้องยอมรับความจริงกันว่า แม้เศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศจะเติบโตขึ้น แต่เศรษฐกิจฐานรากปากท้องของชาวบ้านยังไม่อยู่ดีกินไม่ดี และทุกสำนักโพลที่ได้สำรวจความคิดเห็นจากประชาชนได้ระบุตรงกันว่าให้รัฐบาล “ลุงตู่” แก้ไขปัญหาปากท้องของชาวบ้านสำคัญที่สุด

ซึ่งเป็นประเด็นที่ “บิ๊กตู่” โดนนักการเมืองแทบทุกพรรครุมถล่มโจมตีเป็นระยะๆ ให้เร่งแก้ไข มิฉะนั้นประเทศพัง!?!

            ปัญหาชาวบ้านรากหญ้าเป็น “จุดอ่อน” ที่ “บิ๊กตู่” รู้ดีว่าต้องแก้ปัญหาให้ได้เพื่อสร้างผลงานออกมาคุยได้เต็มปากเต็มคำ แต่จะแก้ไขสำเร็จทันที่ “ลุงตู่” จะโบกมือลาจากเก้าอี้หรือไม่ ก็คงต้องรอให้ถึงวันนั้น!!

            แต่ถ้าดวงชะตาชีวิตของ “บิ๊กตู่” ลิขิตให้สืบทอดอำนาจเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป ก็ต้องแก้ไขเศรษฐกิจรากหญ้าต่อไปอีกอีกยาวนาน??

            ส่วนคนจนจะหมดไปจากประเทศไทยหรือไม่ กาลเวลาจะพิสูจน์ว่าไม่ได้โม้หรือโม้เอาไว้ก่อน??

            การเมืองที่ “บิ๊กตู่” หวังว่าปี 2561 จะดีขึ้น ซึ่งได้ย้ำสองสามครั้งว่าไม่อยากได้ความขัดแย้ง และความไม่สงบสุข โดยเฉพาะการเดินหน้าสู่ประชาธิปไตยตั้งความหวังว่าไม่มีความขัดแย้งอีกต่อไป

            และ “บิ๊กตู่” ได้เน้นว่าถ้ายังมีความขัดแย้งสูง การเลือกตั้งได้หรือมีนั้นตนไม่รู้ เพราะฉะนั้นอย่าทำให้มันเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นถ้าอยากให้มีการเลือกตั้ง ก็ขอให้มีความสงบสุขเรียบร้อย แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเลื่อนเลือกตั้งออกไป เพียงพูดปรามไว้สำหรับคนที่จะสร้างความวุ่นวาย

ปีใหม่ 2561 นี้ นักการเมืองทุกพรรคได้ขอของขวัญจาก “บิ๊กตู่” คือให้พูดวันเลือกตั้งชัดเจน  อย่าได้สร้างความหวาดระแวงที่หาเหตุให้เลื่อนเลือกตั้งออกไป การเลือกตั้งต้องเป็นไปตามโรดแมป มิฉะนั้นแล้วประเทศชาติวุ่นวายมีปัญหาอย่างแน่นอน

            เมื่อฟังเสียงของ “บิ๊กตู่” กับ บรรดานักการเมืองแล้ว วิเคราะห์คำพูดออกมาได้ว่า ปัญหาความวุ่นวายของบ้านเมืองที่จะเกิดขึ้นอยู่ที่แต่ละฝ่ายเป็นผู้กระทำ!?!

            อย่างไรก็ตาม ความคาดหวังและฝันของ คสช. อยากเห็นการเมืองไทยเป็นการเมืองน้ำดีนับจากนี้ไป มีการเลือกตั้งที่สงบไร้ความขัดแย้ง มีรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล เป็นการเมืองของคนดี

            ก็ไม่รู้จะเป็นฝันที่เป็นจริงหรือไม่??

            แต่ถ้าทุกอย่างเป็นไปดังที่ผู้มีอำนาจของบ้านเมืองวาดฝันไว้ ประชาธิปไตยแบบไทยๆ ของบ้านเมืองเรา ประเทศมหาอำนาจต้องเอาเป็นแบบอย่างแน่??

            อย่างไรก็ตาม ในโลกแห่งความเป็นจริงที่ไม่บิดเบือน การเมืองย่อมมีคนดีกับคนไม่ดี เป็นปกติธรรมดาสามัญที่เป็นธรรมชาติของการเมืองทั่วโลก 

ณ ขณะนี้ เราๆ ท่านๆ มักจะได้เห็นมโนกรรม วจีกรรม และกายกรรมของนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งในอดีต และนักการเมืองที่มาจากการแต่งตั้งในปัจจุบัน และกลุ่มการเมืองที่ได้พยายามแสดงบทบาทต่างๆ รวมทั้งวาทกรรมว่าตัวเองเป็นนักการเมืองน้ำดี 

ดังเช่น รัฐบาล คสช.ก็ได้สร้างความนิยมดีๆ ต่อประชาชนด้วยการคุยถึงผลงานต่างๆ ที่ทำเพื่อพัฒนาชาติบ้านเมืองสู่ความยั่งยืนมาแล้ว 3 ปีกว่า

            เพราะฉะนั้น ก็ขอให้ประชาชนทุกคนจับตาดูแต่ละฝ่ายที่ว่าทำดีเพื่อประเทศชาติและประชาชนนั้น ดีจริงหรือดีลวง??

            ก็ขออนุญาตนำคำคมของนักปราชญ์จีนเมื่อสองสามพันปีก่อนโน้นที่กล่าวไว้ให้ระวัง คนเลวที่แสร้งทำตัวเป็นคนดี จะเป็นอันตรายต่อบ้านเมืองที่สุด!! 

             โปรดรับทราบ!!

                                                     นายจักรยาน