พลิกนิยามรถเอสยูวีไฟฟ้า
เปิดตัว “ลูซิด กราวิตี”
……………………………………….
- รถลูซิด กราวิตี รุ่นใหม่เป็นหมุดหมายของการเปิดฉากยุคใหม่สำหรับรถอเนกประสงค์ หรือรถเอสยูวีไฟฟ้า ซึ่งเป็นการผสมผสานคุณสมบัติที่ไม่เคยมีมาก่อนไว้ในรถคันเดียว โดยคาดว่ามีระยะทางการขับขี่สูงสุดมากกว่า 440 ไมล์1
- นวัตกรรมของลูซิดในด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าและบรรจุภัณฑ์แบตเตอรี่ ทำให้ภายในตัวรถกว้างขวางและหรูหรา พร้อมรองรับผู้ใหญ่เจ็ดคนพร้อมสัมภาระ โดยไม่จำเป็นต้องมีภายนอกขนาดใหญ่เทอะทะและความไม่คล่องตัวในการเคลื่อนที่ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่มักพบได้ในรถเอสยูวีสามตอนขนาดใหญ่แบบเดิม ๆ
- รถกราวิตีนี้มาพร้อมกับแพลตฟอร์มเอสยูวีโฉมใหม่ล่าสุดและระบบส่งกำลังไฟฟ้ารุ่นใหม่ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของลูซิดที่มีรางวัลการันตีมาแล้ว พร้อมที่จะมอบประสบการณ์การขับขี่สุดแสนสำราญใจ
- ลูซิดเคยแสดงสมรรถนะในการผลิตรถเก๋งไฟฟ้าสุดหรูที่ยอดเยี่ยมและได้รับการชื่นชมมาแล้วก่อนหน้านี้ ขณะนี้กราวิตีจะพาลูซิดเข้าสู่ตลาดรถเอสยูวีที่ใหญ่กว่ามาก
- รถลูซิด กราวิตี จะวางจำหน่ายในปลายปี 2567 เช่นเดียวกับรุ่นลูซิด แอร์ ราคารถรุ่นกราวิตีนี้จะเริ่มต้นที่ไม่ถึง 80,000 ดอลลาร์2
…………………………………………
ลูซิด กรุ๊ป อิงค์ (Lucid Group, Inc.) (NASDAQ: LCID) บริษัทยานยนต์ที่สร้างมาตรฐานใหม่ในด้านยานยนต์พลังงานไฟฟ้าที่หรูหราด้วยยนตรกรรมเจ้าของรางวัลรถหรู (World Luxury Car Award) ประจำปี 2566 อย่างลูซิด แอร์ (Lucid Air) กำลังเข้ามาพลิกนิยามของความเป็นเลิศอีกครั้ง ด้วยการเผยโฉมรถเอสยูวีไฟฟ้าสุดหรูรุ่นใหม่ที่บุกเบิกวงการซึ่งเป็นที่เฝ้ารอเป็นอย่างมากอย่างลูซิด กราวิตี (Lucid Gravity) รถเอสยูวีรุ่นดังกล่าวนี้สานต่อนวัตกรรมที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในรถเก๋งรุ่นลูซิด แอร์ เพื่อรังสรรค์เป็นรถเอสยูวีไฟฟ้าสุดหรูโดยไม่มีการลดทอนใด ๆ เป็นรถยนต์สมรรถนะสูงซึ่งมีพื้นที่รองรับผู้โดยสารวัยผู้ใหญ่ได้เจ็ดคนพร้อมสัมภาระ และมีระยะทางการขับขี่สูงสุดมากกว่า 440 ไมล์1 รถลูซิด กราวิตี เอสยูวี นี้จะเปิดตัวต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกในวันนี้ ณ งานลอสแอนเจลิส ออโต โชว์ (Los Angeles Auto Show) โดยจะเริ่มผลิตในปลายปี 2567
“รถกราวิตี เอสยูวี ถือเป็นการก้าวกระโดดครั้งสำคัญสำหรับเทคโนโลยีและดีไซน์ระดับแนวหน้าของโลกของลูซิด ลูกค้าจะได้สัมผัสกับการผสมผสานที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนระหว่างพื้นที่กับความสามารถในการเคลื่อนที่ ความหรูหรา และประโยชน์การใช้งาน ทั้งหมดผนวกรวมกันอยู่อย่างลงตัวในรถยนต์ที่โดดเด่นหนึ่งคัน พร้อมด้วยประสบการณ์ขับขี่และระยะทางการวิ่งของรถลูซิดที่แท้จริง” คุณปีเตอร์ รอว์ลินสัน (Peter Rawlinson) ซีอีโอและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของลูซิด กล่าว “นวัตกรรมเทคโนโลยีระบบส่งกำลังยานยนต์ไฟฟ้าที่เป็นกรรมสิทธิ์ของลูซิด ประกอบกับแนวทางแบบองค์รวมของเราในการพัฒนาทางวิศวกรรมยานยนต์ ได้ทำให้รถเก๋งรุ่นแอร์พลิกนิยามของความเป็นไปได้ในรถเก๋งสปอร์ตสุดหรูได้ สำหรับรุ่นกราวิตีนี้ นวัตกรรมเหล่านี้ได้พัฒนาก้าวหน้า และเทคโนโลยีรุ่นใหม่ของเราได้รับการนำมาประยุกต์ใช้โดยมีผลสัมฤทธิ์มากยิ่งขึ้น ส่งผลเป็นรถเอสยูวีไฟฟ้าที่สามารถวิ่งได้เป็นระยะทางกว่า 440 ไมล์1 โดยมีแพ็คแบตเตอรี่ขนาดเล็กกว่าเกือบครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับคู่แข่งบางรายที่จำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่”
การออกแบบกราวิตี: ลงตัวทั้งรูปลักษณ์และฟังก์ชัน
“ที่ลูซิด เราเชื่อในการขยายพรมแดนของการออกแบบ เรายึดถือแนวคิดเช่นนี้เพื่อเพิ่มความกว้างขวางโปร่งโล่ง ประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ และประโยชน์การใช้งานอย่างเต็มที่ ส่งผลให้เกิดเป็นรถเอสยูวีไฟฟ้าที่มีการผสมผสานของคุณสมบัติอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน” คุณเดเร็ก เจนกินส์ (Derek Jenkins) รองประธานอาวุโสฝ่ายการออกแบบและแบรนด์ของลูซิด กล่าว “ไม่ว่าจะเป็นรถเอสยูวีที่จุสัมภาระสำหรับทริปตั้งแคมป์ของครอบครัว หรือรถแกรนด์ทัวเรอร์ระยะไกลที่วิ่งได้เป็นระยะทางหลายร้อยไมล์ระหว่างการหยุดพักแต่ละครั้ง รถกราวิตีนี้ออกแบบมาเพื่อให้มีประโยชน์ใช้งานได้หลากหลาย ทีมงานของเราทุ่มเทเพื่อรังสรรค์รถเอสยูวีที่ผสมผสานรูปลักษณ์และฟังก์ชันการใช้งานอย่างลงตัว ทำให้ได้มาซึ่งยานยนต์ที่ทั้งโดดเด่นสวยงาม มีประโยชน์การใช้งานหลากหลายอย่างยอดเยี่ยม อีกทั้งยังมอบประสบการณ์การขับขี่ระดับหรูอันเหนือชั้น”
ความมุ่งมั่นของลูซิดในด้านความเป็นเลิศในการออกแบบ ภายในที่กว้างขวางโปร่งสบาย และประโยชน์การใช้งานที่หลากหลายนั้น ทำให้กราวิตีแตกต่างจากคู่แข่งขึ้นไปอีกขั้น โดยออกแบบภายนอกเพื่อผสมผสานสุนทรียภาพกับประโยชน์การใช้งานของรถกราวิตี และให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพจนทำให้ได้สัมประสิทธิ์แรงฉุดดึงตามเป้าหมายไม่ถึง 0.243 ซึ่งเป็นคุณสมบัติด้านอากาศพลศาสตร์ที่ไม่มีรถเอสยูวีสามตอนอื่นใดสามารถทัดเทียมเหนือกว่าได้ ในขณะเดียวกัน ด้วยรูปลักษณ์ที่ทรงพลังของกราวิตี ประกอบด้วยพื้นที่เก็บของบริเวณกระโปรงหน้าที่กว้างขวาง รูปทรงโฉบเฉี่ยว ห้องโดยสารทรงยาว ส่วนปีกข้างตัวรถที่โดดเด่น และสปอยเลอร์ท้ายทรงสปอร์ต รถกราวิตีแสดงศักยภาพที่จะรองรับความต้องการที่หลากหลายของผู้ขับขี่ในชีวิตประจำวัน
สำหรับภายใน รถกราวิตีมีพื้นที่บรรทุกของอย่างเหลือเฟือและยืดหยุ่นอย่างน่าประทับใจ ตัวห้องโดยสารมีที่นั่งกว้างขวางโล่งสบาย และยังเพิ่มความสะดวกขึ้นไปอีกขั้น จากที่นั่งแถวที่สองและแถวที่สามที่สามารถพับให้ราบเรียบได้เพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระรวมเป็นกว่า 112 ลูกบาศก์ฟุต เพื่อการผสมผสานที่สามารถจัดสรรได้อย่างง่ายดายระหว่างความสบายและความจุสัมภาระ ที่นั่งแถวที่สองซึ่งเลื่อนเปิดได้มาพร้อมกับโต๊ะพับพร้อมใช้งานเพื่อประสบการณ์เบาะหลังที่เหนือชั้น มีพื้นที่วางขาที่กว้างขวางในที่นั่งทุกแถว รวมไปถึงแถวที่สาม เพื่อมอบตัวเลือกการรองรับผู้โดยสารเจ็ดคนได้อย่างสบาย ทำให้กราวิตีเป็นยนตรกรรมในอุดมคติสำหรับทุกการผจญภัย
รถกราวิตีทุ่มทุนพัฒนาส่วนต่อประสานผู้ใช้อย่างลูซิด เคลียร์วิว ค็อกพิต (Clearview Cockpit) ซึ่งประกอบด้วยหน้าจอ OLED โค้งต่อเนื่องขนาด 34 นิ้วที่ตอบสนองอย่างชาญฉลาด ซึ่งตั้งลอยอยู่เหนือพวงมาลัยเชิงนวัตกรรมตัวใหม่ของรถกราวิตี สอดคล้องอย่างลงตัวกับระดับสายตาของผู้ขับขี่ ส่วนไพล็อต แพเนล (Pilot Panel) ของลูซิดกลับมาอีกครั้งในกราวิตี พร้อมด้วยทัชบาร์สำหรับการเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว จัดวางอยู่เคียงข้างคอนโซลกลางวัสดุกระจกแบบใหม่ ซึ่งเลื่อนเปิดได้อย่างหรูหรามีระดับเพื่อมอบพื้นที่จัดเก็บเพิ่มเติม รถเอสยูวีรุ่นนี้ยังใช้ซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ของลูซิด มาพร้อมการอัปเดตในตัวแบบไร้สาย (over-the-air) เพื่อมอบการปรับปรุงยกระดับอย่างต่อเนื่อง
สมรรถนะรถสปอร์ตและระยะทางการขับขี่แบบฉบับลูซิด สมรรถนะที่ยอดเยี่ยมของกราวิตีเริ่มต้นด้วยแพลตฟอร์มโฉมใหม่ล่าสุดที่พัฒนาตั้งแต่แรกเริ่มให้เป็นรถเอสยูวีสปอร์ต ผสานอย่างลงตัวเข้ากับเทคโนโลยีระบบส่งกำลังรุ่นใหม่แบบกะทัดรัดพิเศษซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของลูซิด รวมถึงมอเตอร์ยานยนต์ไฟฟ้าที่มีความหนาแน่นของกำลังส่งมากที่สุดที่มีการผลิตในทั่วโลก อีกทั้งยังมีสถาปัตยกรรมไฟฟ้า 900 โวลต์ของลูซิดที่ได้รับการพัฒนายกระดับ ทั้งนี้ กราวิตีมิได้เป็นเพียงรถเอสยูวีหรู แต่ยังเป็นขุมพลัง โดยเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 60 ไมล์ต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาไม่ถึง 3.5 วินาที ขณะที่มีความจุน้ำหนักบรรทุกมหาศาลถึงกว่า 1,500 ปอนด์ และความจุน้ำหนักลากพ่วงเพิ่มเติมอีก 6,000 ปอนด์4
สมรรถนะของรถกราวิตี เอสยูวี ครอบคลุมเกินกว่าบนถนนลาดยาง ในแง่นี้ ลูซิดนำเสนอซีโร กราวิตี (Zero Gravity) ตัวเลือกชุดถุงลมปรับปรุงพิเศษที่ปรับอัตโนมัติให้เข้ากับสภาพภูมิประเทศหลากหลายรูปแบบ จึงทำให้ขับขี่ได้อย่างราบรื่นและสะดวกสบายบนทุกพื้นผิว นอกจากนี้ยังสามารถปรับตั้งค่าเองได้ด้วย ทำให้สามารถที่จะยกตัวรถกราวิตีให้สูงขึ้นเพื่อเพิ่มสมรรถภาพออฟโร้ดอย่างเต็มที่ หรือลดระดับตัวรถให้ต่ำลงเพื่อเพิ่มสมรรถนะและระยะทางการขับขี่ให้เป็นไปอย่างสูงสุด
“ปรัชญาการออกแบบและการพัฒนาทางวิศวกรรมของลูซิด ให้ความสำคัญกับการทำน้อยกว่าเพื่อให้ได้ผลมากกว่ามาโดยตลอด รถกราวิตีประยุกต์หลักการนี้เพื่อมอบสิ่งที่ลูกค้าต้องการให้ได้มากขึ้น ทั้งพื้นที่มากขึ้น ประโยชน์ใช้สอยมากขึ้น และระยะทางขับขี่ที่มากขึ้น แต่ไม่เพิ่มจำนวนเซลล์แบตเตอรี่เกินจำเป็น ไม่เพิ่มต้นทุนราคาในการครอบครอง และไม่เพิ่มน้ำหนักที่ไม่จำเป็น” คุณอีริค บาค (Eric Bach) รองประธานอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์และหัวหน้าวิศวกรของลูซิด กล่าว “เราเชื่อในการขยายพรมแดนของความเป็นไปได้ ด้วยแพ็คแบตเตอรี่ที่มีขนาดราวครึ่งหนึ่งของคู่แข่งบางราย กราวิตีเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและใช้งานได้หลากหลาย โดยมาพร้อมกับจิตวิญญาณความเป็นซูเปอร์คาร์”
นอกเหนือจากในเรื่องสมรรถนะแล้ว รถกราวิตี เอสยูวี ยังสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับรถเอสยูวีด้วยแพ็คแบตเตอรี่ที่เล็กกว่า เบากว่า และยั่งยืนกว่า ขณะที่ยังคงมอบระยะทางการขับขี่ที่ดีเยี่ยม โดยคาดว่าจะวิ่งได้เป็นระยะทางมากกว่า 440 ไมล์1 รถกราวิตีใช้สถาปัตยกรรมกว่า 900 โวลต์ที่ได้รับการพัฒนายกระดับและอัตราการชาร์จไฟรวดเร็วพิเศษที่ขึ้นชื่อของบริษัท ทำให้เป็นระบบชาร์จไฟในรถยนต์ไฟฟ้าที่รวดเร็วที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ลูกค้าสามารถชาร์จเพื่อเพิ่มระยะทางขับขี่สูงสุด 200 ไมล์ ในเวลาประมาณ 15 นาที5 ทำให้มีความสะดวกและใช้เวลาจอดชาร์จเพียงเล็กน้อยระหว่างการเดินทางไกล ในแง่นี้ ลูซิด กราวิตีสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับรถเอสยูวี โดยพิสูจน์ว่าประสิทธิภาพ ความหรูหรา และสมรรถนะสูงสามารถไปด้วยกันได้
“รถกราวิตีจะพาลูกค้าของเราไปได้ไกลกว่าโดยใช้แบตเตอรี่น้อยกว่า จึงใช้พลังงานอันมีค่าน้อยกว่า” คุณรอว์ลินสัน กล่าวเพิ่มเติม “แพ็คแบตเตอรี่ที่เล็กกว่า เบากว่า และใช้เทคโนโลยีสูงกว่าของรถรุ่นนี้ใช้โลหะมีค่าและแร่ในปริมาณน้อยกว่า ใช้พลังงานในการชาร์จน้อยกว่า กินไฟน้อยกว่า สร้างแรงกดดันต่อกริดไฟฟ้าน้อยกว่า อีกทั้งยังทำให้รถมีน้ำหนักเบากว่าและมีไดนามิกมากกว่า ในแง่นี้ เมื่อเราประกาศว่าเรามาเพื่อขับเคลื่อนพัฒนาเทคโนโลยี สิ่งนี้คือความมุ่งหมายของเรา นี่คือความยั่งยืนที่เกิดขึ้นจริง”
ประสบการณ์ผู้ขับขี่กราวิตี: เหนือกว่าความหรูหราเพียงเผิน ๆ
รถกราวิตีพร้อมมอบประสบการณ์ความหรูภายในรถอันยอดเยี่ยม ซึ่งออกแบบมาให้ตอบโจทย์ทั้งทางกายและใจ ไม่ว่าจะเป็นวัสดุที่คัดสรรมาอย่างประณีต การตกแต่งและผิวสัมผัสชั้นเลิศ ไปจนถึงส่วนขับเน้นที่บรรจงจัดวางโดยคิดมาเป็นอย่างดี ทุก ๆ แง่มุมของกราวิตีรังสรรค์ขึ้นอย่างยั่งยืนด้วยความตั้งใจและสำนึกต่อสิ่งแวดล้อม ยิ่งไปกว่านั้น ประสบการณ์ผู้ขับขี่แบบองค์รวมมิเพียงตอบสนองต่อสัมผัสพื้นฐาน แต่ยังให้ความสำคัญกับสุขภาวะอีกด้วย ด้วยการนำเสนอฟีเจอร์ด้านสุขภาวะแบบอินเทอร์แอคทีฟ อย่างลูซิด แซงชัวรี (Lucid Sanctuary) และลูซิด สเปซซิส (Lucid Spaces) ทำให้ทุกประสบการณ์ในกราวิตีได้รับการยกระดับขึ้นไปอีกขั้น โดยลูซิด แซงชัวรี คือชุดประสบการณ์พลิกวงการที่ออกแบบมาอย่างถี่ถ้วนเพื่อมอบความสงบระหว่างการเดินทาง ไม่ว่าคุณจะอยู่บนถนนหรือจอดอยู่ที่สถานีชาร์จ ส่วนลูซิด สเปซซิส ช่วยเปลี่ยนห้องโดยสารเป็นโอเอซิสที่เงียบสงบด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว พร้อมพาให้ผู้ขับขี่ดื่มด่ำไปกับห้วงบรรยากาศอันผ่อนคลายของสถานที่อย่างทะเลสาบทาโฮ (Lake Tahoe) หรืออุทยานแห่งชาติโจชัวทรี (Joshua Tree) ในการนี้ ลูซิดได้ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญที่เมดิโทเปีย (Meditopia) เพื่อเสนอแนวทางสำหรับประสบการณ์การทำสมาธิที่มอบพื้นที่ส่วนตัวสำหรับความสงบของจิตใจ โดยไม่ต้องออกจากตัวรถ
ราคาและการวางจำหน่าย
รถกราวิตีขอมอบเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าที่สุดและประสบการณ์ยนตรกรรมไฟฟ้าที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ใช้ในวงกว้างที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยมาในราคาที่แข่งขันได้ในประเภทรถเอสยูวีพรีเมียมขนาดใหญ่ โดยคาดว่าจะมีราคาเริ่มต้นไม่ถึง 80,000 ดอลลาร์2 และคาดว่าการผลิตจะเริ่มต้นในช่วงปลายปี 2567 ลูกค้าที่สนใจในลูซิด กราวิตี สามารถลงทะเบียนได้ที่ www.lucidmotors.com/gravity
“กราวิตีอยู่ในขั้นก่อนการผลิต และคุณสมบัติข้างต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลง
……………………..
เกี่ยวกับลูซิด กรุ๊ป
พันธกิจของลูซิด (Lucid) คือการสร้างแรงบันดาลใจในการใช้พลังงานที่ยั่งยืน ผ่านการสร้างสรรค์เทคโนโลยีขั้นสูงและยานยนต์ไฟฟ้าสุดหรูที่ดึงดูดใจที่สุดโดยคำนึงถึงประสบการณ์ของผู้ขับขี่เป็นหลัก รถรุ่นแรกของบริษัทคือ ลูซิด แอร์ (Lucid Air) รถซีดานหรูหราล้ำสมัยสไตล์แคลิฟอร์เนีย โดยรถรุ่นลูซิด แอร์ แกรนด์ ทัวริง (Lucid Air Grand Touring) วิ่งได้ไกลถึง 516 ไมล์จากการวัดตามมาตรฐาน EPA ทั้งนี้ ลูซิด แอร์ ผลิตขึ้นที่โรงงานของลูซิดในเมืองคาซากรานเด รัฐแอริโซนา และนครเศรษฐกิจกษัตริย์อับดุลเลาะห์ในซาอุดีอาระเบีย โดยขณะนี้กำลังทยอยส่งมอบให้กับลูกค้าในสหรัฐอเมริกา แคนาดา ยุโรป และตะวันออกกลาง
Social Links