“พิสิฐ”เสนอโทษสูงสุด ยิงเป้าคนโกงชาติ
“พิสิฐ ลี้อาธรรม” หารือเสนอรัฐบาลพิจารณาแก้กฎหมายเพิ่มโทษ สูงสุดประหารชีวิต แก่ผู้กระทำความผิดเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด หลังพบมีการทุจริตเรียกรับเงินของอธิบดีกรมอุทยานฯ
นายพิสิฐ ลี้อาธรรม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ หารือกับประธานในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้กล่าวขอบคุณ ป.ป.ช. -บก.ปปป. และ ป.ป.ง. เรื่องกรณีการบุกจับนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช โดยได้ให้ข้อสังเกต 5 ประเด็นเพื่อเสนอแนะรัฐบาลนำไปปรับปรุงแก้ไข
1.การประเมิน ITA ของหน่วยงานในปี 2565 ที่หน่วยงานนี้ได้คะแนนประเมินย้อนหลังไปจนถึงปี 2563 ที่ A นั้น แสดงถึงความล้มเหลวในระบบการประเมิน เสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปปรับปรุงระบบการประเมิน
2.ซึ่งหน่วยงานนี้ได้รับการจัดสรรงบประมาณปีละราว 10,000 ล้านบาท แต่เกิดคำถามว่างบประมาณเหล่านั้นได้ดูแลพื้นที่ 73 ล้านไร่จะมีความปลอดภัยปลอดจากการโกงกินแค่ไหน โดยเสนอแนะให้ สตง. ไปตรวจสอบการใช้งบประมาณและเงินที่นำออก
3.การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในตำแหน่ง กลายเป็นสินค้าที่ราชการจะต้องซื้อมา เป็นโคต้าของผู้มีอำนาจ โดยย้ำว่าสิ่งนี้จะต้องหมดไป ซึ่งจะต้องมีการจัดระบบการโยกย้ายแต่งตั้งข้าราชการที่มีความถูกต้องเป็นธรรมและโปร่งใส ย้ำว่าการตรวจสอบในเรื่องนี้จะต้องเกิดขึ้น
4 รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมาตรา 63 กำหนดเรื่องของการปราบปรามคอรัปชั่น และปกป้องคนที่แจ้งเบาะแส แต่ขณะนี้ยังไม่มีกฎเกณฑ์ที่จะดูแลจึงขอให้รัฐบาลได้ดำเนินการเรื่องนี้
5.เสนอแนะว่ากฎหมายการปราบปรามคอรัปชั่นจะต้องมีความเข้มข้นมากขึ้นจะต้องมีบทลงโทษที่รุนแรง โดยยกตัวอย่างที่จีนจะมีโทษสูงสุดประหารชีวิต โดยแนะให้มีการปรับให้มีการยึดทรัพย์ โดยเสนอแนะให้แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาให้มีการกำหนดโทษผู้ที่เรียกรับทรัพย์หรือรับผลประโยชน์จากเดิมจำคุกไม่เกิน5 ปีปรับไม่เกิน 100,000 บาท แก้ไขเป็น จำคุกตั้งแต่ 15 ถึง 20 ปีหรือจำคุกตลอดชีวิตและปรับตั้งแต่ 100,000 ถึง 400,000 คนหรือโทษประหารชีวิต และแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 143 149 และ 150 เพิ่มเติมว่า และให้ศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์สินของผู้นั้นไว้โดยให้ตกเป็นของแผ่นดินเว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด นอกจากนี้แนะนำให้แก้กฏหมาย พ.ร.บ.ป.ป.ช. มาตรา 34 โดยเพิ่มอำนาจในการกำหนดหรือให้รางวัลหรือสินบนนำจับแก่ผู้แจ้งเบาะแสตามระเบียบ
Social Links