พูดอะไรก็ผิด ธรรมชาติการเมือง
สถานการณ์การเมืองในห้วงระยะเวลานี้ที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ได้บอกกล่าวกับประชาชนว่า พูดอะไรก็ผิดไปหมด
ซึ่งการพูดดังกล่าวตีความได้ว่าเป็นการฟ้องประชาชนว่า ถูกนักการเมืองคอยจ้องโจมตีในเรื่องต่างๆ ที่รัฐบาล คสช.ได้ทำไปแล้ว และกำลังเร่งทำอยู่ในขณะนี้
ความเป็นจริงแล้ว มิใช่ “บิ๊กตู่” เป็นนายกรัฐมนตรีคนเดียวที่โดนถล่มจากฝ่ายการเมืองว่า พูดอะไรก็ผิด ในอดีตที่ผ่านมา “นายกรัฐมนตรี” ที่มาจากการเลือกตั้งบริหารราชการบ้านเมืองผ่านไปได้ปีสองปี ก็ถูกเล่นงานจากฝ่ายที่ไม่ใช่รัฐบาลพุ่งเป้าเน้นย้ำ “พูดอะไรก็ผิด”!!
ถ้ารัฐบาลชุดไหนยิ่งอยู่นาน ก็ดูเหมือนว่าทำอะไรผิดไปหมด จากฝ่ายค้านที่เขย่ารัฐบาลตามกฎกติกาของรัฐธรรมนูญทุกฉบับ
เป็นธรรมดาทางการเมืองของประเทศประชาธิปไตยทั่วโลก ที่รัฐบาลของแต่ละประเทศได้บริหารแผ่นดินผ่านมาได้ปีสองปี ทำให้เกิดสถานการณ์บ้านเมืองบางอย่างบางประเด็นที่โถมเข้าหารัฐบาลที่เกิดขึ้นในแต่ละประเทศทำท่าจะเอาไม่อยู่ เป็นไปในทำนองว่ายิ่งอยู่นานทำอะไรก็ผิด หรือพูดอะไรก็ไม่เข้ารูหูของกลุ่มที่ไม่ชอบรัฐบาล
ตามกติกาของประชาธิปไตยสากล นายกรัฐมนตรีของประเทศนั้นๆ มักจะประกาศ “ยุบสภา” เลือกตั้งใหม่ เพื่อให้ประชาชนตัดสินใจจะเอาพรรครัฐบาลเหมือนเดิม หรือเปลี่ยนใจไปเลือกพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองที่มีปัญหาก็เป็นไปอย่างราบรื่นตามอำนาจของประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง
สำหรับประเทศไทยของเราๆ ท่านๆ ที่มีการเลือกตั้งจากประชาชนนับตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อปี 2475 รัฐบาลที่เข้ามาบริหารบ้านเมืองก็ล้มลุกคลุกคลานไม่ค่อยจะอยู่จนครบวาระ 4 ปีตามกติกาของรัฐบาล เป็นเหตุต้องยุบสภาเลือกตั้งกันใหม่ แต่บางช่วงก็ต้องเว้นวรรคประชาธิปไตยฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งหลายครั้งหลายหนตามวัฒนธรรมประเพณีแบบไทยๆ เพื่อทำการซ่อมแซมประชาธิปไตยร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่ง ณ วันนี้ประเทศไทยก็มีรัฐธรรมนูญฉบับที่ 20 ใหม่ล่าสุดมาเป็นกฎหมายสูงสุดเรียบร้อยแล้ว
เปิดแฟ้มประวัติศาสตร์การเมืองแบบไทยๆ เมื่อ 20–30 ปีที่ผ่านมา ไม่มีรัฐบาลเลือกตั้งชุดไหนอยู่จนครบวาระ 4 ปี จะต้องยุบสภา หรือไม่ก็นายกรัฐมนตรีประกาศลาออก มีแต่มีรัฐบาลของ นายทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นเจ้าของพรรคไทยรักไทย อยู่ครบวาระ 4 ปี เพียงคณะเดียวในประวัติศาสตร์ที่ต้องจารึกไว้ แต่พอเข้ามาบริหารประเทศในสมัยที่ 2 ก็อยู่ไม่เป็นสุข ไม่ว่าจะทำอะไรหรือพูดอะไรก็ผิดไปหมด ในที่สุดก็ต้องกระเด็นตกจากเก้าอี้โดนปฏิวัติ รัฐประหารเรียบร้อยโรงเรียนกองทัพ
ในอดีตคณะปฏิวัติที่เกิดขึ้นมาแต่ละคณะภายหลังเหตุการณ์ 16 ตุลาคม 2516 จะอยู่บริหารราชการแผ่นดินได้ไม่นาน เพียงปีสองปีก็ต้องคืนอำนาจให้ประชาชนใช้สิทธิ์เลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ปัญหาพูดอะไรก็ผิด หรือทำอะไรก็ผิดไปหมดจึงไม่เกิดขึ้น!?!
รัฐบาลของ “บิ๊กตู่” แรกๆ เข้ามาบริหารประเทศชาติ ก็ขอเวลาอีกไม่นาน แต่ “บิ๊กตู่” เป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติที่มีลีลาหาคะแนนนิยมจากประชาชนไม่เหมือนหัวหน้ารัฐประหารคนก่อนๆ ทว่ารัฐบาล “บิ๊กตู่” ลากยาวมา 3 ปีกว่า เหมือนเป็นการขอเวลานานเกินไปสำหรับนักการเมืองที่รอมานาน มีหรือที่ “บิ๊กตู่” จะไม่ถูกดิสเครดิตด้วยวาทกรรม วจีกรรมของบรรดานักการเมืองที่ปล่อยออกมาแบบชวนทะเลาะวิวาท ให้มีการต่อความยาวสาวความยืดให้มีรสชาติทางการเมือง
โดยเฉพาะประเด็นไม่ปลดล็อกการเมือง ก็เป็นเหตุหลักที่นักการเมืองรุมด่า “บิ๊กตู่” และ คสช.ว่ามีความต้องการสืบทอดอำนาจต่อไปอีก เพื่อหวังยื้อโรดแมปเลื่อนเลือกตั้ง??
แม้ว่านายกรัฐมนตรี “ตู่” และพี่ใหญ่ผู้มากบารมี “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงกลาโหม จะพูดแล้วพูดอีกว่าทุกอย่างเป็นไปตามโรดแมป แต่ดูเหมือนว่าฝ่ายการเมืองไม่ค่อยไว้วางใจเท่าไหร่!!
อย่างไรก็ตาม การเมืองที่โดนล็อกเอาไว้ตามคำสั่ง คสช. จะถูกเปิดล็อกเป็นของขวัญปีใหม่ 2561 ให้แก่บรรดานักการเมืองและพรรคการเมืองก็ตาม ก็ไม่หยุดเสียงดิสเครดิตรัฐบาล “บิ๊กตู่” ได้ เพราะยังไงๆ นักการเมืองก็หาจังหวะเล่นงาน “บิ๊กตู่” ด้วยข้อหาพูดอะไรก็ผิดไปหมดตามสถานการณ์ของบ้านเมือง
แต่ถ้ามีเหตุจำเป็นตามที่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่เปิดช่องเอาไว้ให้ “บิ๊กตู่” เข้ามาสืบทอดอำนาจนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีของเมืองไทยต่อไปอีกเพื่อปฏิรูปประเทศและขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ 20 ปีตามเจตนารมณ์ที่ตั้งใจกำหนดไว้
ส่วน “บิ๊กตู่” จะสืบทอดยาวไปจนถึง 20 ปีหรือไม่ เชื่อว่าไม่มีใครสามารถทำนายอนาคตการเมืองไทยได้!?!
ที่แน่ๆ ก็คือถ้า “บิ๊กตู่” ยิ่งอยู่นานเท่าไหร่ เสียงโจมตี “พูดอะไรก็ผิด” มีอยู่ตลอดเป็นระยะๆ ??
เพราะเป็นธรรมชาติของการเมืองที่เป็นอมตะนิรันดร์กาล!!
นายจักรยาน
Social Links