มนุษย์โลกพันธุ์ดื้อ กระตุ้นเชื้อ"ไวรัสพญายม"คร่าชีวิตคนได้เต็มที่!!
นายจักรยาน
เจ้าตัวร้าย "โควิด-19" พุ่งทะยานทำลายล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ติดเชื้อมรณะไปแล้วทั่วโลกล้านกว่าราย คาดว่าภายในเดือนเมษาฮาวาย พ.ศ.2563 จะมีผู้ป่วยจากไวรัสล้างโลกเฉียด 2 ล้าน หรือกว่า 2 ล้านคน
ณ วันนี้เลยเดือนเมษายนมา 5-6 ทิวาราตรี มีผู้สังเวยชีวิตรวมทุกประเทศในโลก 6 หมื่นกว่าราย ถ้าแต่ละประเทศมีตายกันเรื่อย ๆ แบบฉุดไม่อยู่ก็จะล้มหายจากไปจากโลกนี้หลายแสนคนที่ต้องหมดลมหายใจภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้
ส่วนผู้ที่รักษาหายจากประเทศต่าง ๆ ไปแล้วจำนวนมากกว่า 2 แสนราย ก็โขคดีไป
ประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีสโลแกนของประธานาธิบดี "โดนัลด์ ทรัมป์" ว่า "America First" ก็ประสบความสำเร็จในช่วงเวลานี้ เนื่องจาก "ไวร้สล้างโลก" สายพันธุ์ใหม่ตัวนี้ทำให้อมริกาเป็น "America Fitst" จริง ๆ ที่ไม่ต้องมาโกหกหลอกลวงกัน เพราะแพร่ระบาดเข้าถึงคนอเมริกันนับแสนรายมากกว่าประเทศใดในโลก
ส่วนจำนวนคนป่วยในอเมริกาก็คงเพิ่มขึ้นทุก ๆ วันที่ไม่มีประเทศไหนมาแซงสถิติได้แน่นอน??
ความอหังการ์ของสหรัฐอเมริกาที่เป็น "เจ้าโลก" มาตลอดหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่วันนี้ประเทศอเมริกาได้เป็น "เจ้าโรค" อีกตำแหน่งหนึ่งอย่างช่วยไม่ได้!?!
ก็ขออวยพรให้ "ประธานาธิบดีทรัมป์" ทำสงครามกับ "ไวรัสโควิด*19"ที่กำลังรุกรานมนุษย์โลกอย่างไร้ความปรานีให้สงบราบคาบโดยเร็ว
ถ้าทำไม่ได้ก็เสียชื่อ "เจ้าโลก" หมด แต่ตำแหน่งใหม่ "เจ้าโรค" คงไม่หายไปไหน??
สำหรับที่นี่-ประเทศไทย นับตั้งแต่มีการประกาศพระราชกำหนด (พ.ร.ก.)ฉุกเฉิน ฯ เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2563 ปรากฏว่ามีผู้ที่โชคร้ายติดเชื้อไวรัสวายร้ายตัวนี้วันละหลักร้อยขึ้นไป
ด้วยเหตุฉะนี้และฉะนั้น "ลุงตู่" ที่เป็นผู้บัญชาการแต่เพียงเดียวในเรื่องฉุกเฉิน จึงใช้มาตรการเข้มขึ้นอีกขั้นหนึ่ง โดยการประกาศ"เคอร์ฟิว" ตั้งแต่เวลา 22.00 น.จนถึง 04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น
ก็ยังไม่มีใครคาดล่วงหน้าได้ว่า "เคอร์ฟิว" 6 ชั่่วโมงในยามวิกาลนั้น จะสยบ "ไวรัสโควิด-19" ให้มีผู้ป่วยลดจำนวนลงได้มากน้อยเพียงใด
แต่่ที่แน่ ๆ "ไวรัสมัจจุราช" แพร่เชื้ออยู่ทุกหนทุกแห่งในโลกนี้ตลอด 24 ชั่วโมง!!
ถ้า "ลุงตู่" ประเมินสถานการณ์ "เคอร์ฟิว" 6 ชั่วโมงไม่เป็นไปในทางบวก อาจจะใช้ "ยาแรง"เข้มขึ้นอีกคือ "เคอร์ฟิว" 24 ช้่วโมงให้สมใจอยากของคนบางกลุ่มที่เรียกร้องมาแต่แรกที่ต้องการ "ปิด" ประเทศ เพื่อให้ "จบ" เร็ว แม้ว่าจะ "เจ็บ"!!
มีบางเรื่องบางราวที่มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น เพราะมีมนุษย์คนไทยไม่รับผิดชอบสังคม อยากให้สังคมปั่นป่วนจากเชื้อ"ไวรัสพญายม"
โดยเฉพาะปัญหาที่คนไทยเดินทางกลับจากญี่ปุ่น สิงคโปร์ และกาตาร์ จำนวน 158 คน มาที่สนามบินสุวรรณภูมิ ปฏิเสธการกักตัวในสถานที่ทางราชการได้กำหนดไว้ ขอไปกักตัวเองที่บ้าน 14 วัน
น่าเสียดายที่ผู้ที่มีอำนาจไปเจรจายอมผ่อนผันให้ไปกักตัวที่้บ้าน เพื่อยุติปัญหาเฉพาะหน้า แต่จะเป็นปัญหาระยะยาวที่คนกลุ่มนี้จะเป็น "Super Spreader" ที่จะทำให้ "ไวรัสหฤโหด" แพร่ะกระจายความดุขยายวงกว้างไปทั่วประเทศยากที่จะ "เอาอยู่" ได้
หลังจากที่มีคำสั่งของ "ลุงตู่" ให้เจ้่าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งติดตามตัวผู้โดยสารกลุ่มนั้นทั้งหมดมากักตัวยังสถานที่ที่รัฐได้เตรียมไว้ก็ตาม
ถ้าใครหลบหลีไม่ยอมกักตัวในสถานที่ของรัฐจัดไว้ ตามล่าตัวได้ภายหลังมีโทษถึงติดคุกแถมต้องเสียค่าปรับอีก!!
ในที่สุดครบกำหนดเวลาให้มารายงานตัว ผู้ที่หลบหนีก็โผล่หน้ามารายงานตัวกันครบทุกคน เพราะกลัวติดคุก 2 ปีปรับ 40,000 บาท!!
หรือการที่การท่าอากาศยานแห่งประเทศได้ประกาศห้ามสายการบินทุกชาติในโลกนี้บินเข้ามาจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิเป็นเวลา 3 วันระหว่างวันที่ 4-6 เมษายนี้ เพื่อแก้ไขสถานการณ์กับคนไทยพันธุ์ดื้อด้าน
ก็อาจเป็นมาตรการหนึ่งมิให้ "คนไทย"พ้นธุ์ดื้อ ที่กลับไทยมาป่วนทำให้ "ไวรัสยมทูต" ลามคนไทยทั่วประเทศไม่หยุด??
กระแสจากโซเซียลมีเดียรวดเร็วทันควันได้เปิดเผยรายชื่อผู้ที่ฝ่าฝืนการกักตัวว่าเป็นใคร พักอาศัยอยู่ที่ไหนจังหวัดใด ให้ประชาชนได้รับทราบกันถ้วนหน้า
เพื่อให้เพื่อนบ้าน คนข้างห้อง (ถ้าอยู่ในคอนโดฯ) ต้องถอยห่างจากบุคคลกลุ่มนี้ให้รู้สึกว่าเป็นบุคคลที่สังคมรังเกียจ ไม่เข้าใกล้ ไม่ไปพูดคุยด้วย
แม้ว่าจะมีเสียงท้วงมาว่าการเปิดเผยรายชื่อผู้ที่หนีการกักต้วเป็นการละเมินสิทธิส่วนบุคคล แต่ทนายความบางท่านโต้ว่าการเปิดเผยรายชื่อนั้นไม่มีความผิด เพราะกลุ่มที่ไม่ยอมเข้าไปสถานที่กักตัวนั้นเป็นบุคคลอันตรายต่อประชาขน
กรณีนี้เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ผู้ที่รับผิดชอบจะต้องเข้มหย่อนยานไม่ได้ โดยจัดการอย่าง "รวดเร็ว ฉับไว และเฉียบขาด" มิให้เป็นเยี่ยงอย่าง!!
ประเทศไทยของเราจะได้ปลอดจาก "ไวรัสวายร้าย" ได้เร็วกว่าใคร??
มนุษย์พันธุ์ไทยทุกคนเข้าใจตรงกันนะจ้ะ!!
สำหรับมนุษย์ชาติพันธุ์ต่าง ๆ ในโลกนี้จะดื้อด้านไม่เข้าใจ ก็ปล่อยเขาไป!?!
Social Links