รัฐบาลปราบโกง วังเอ๋ย…วังเวง!

รัฐบาลปราบโกง วังเอ๋ย…วังเวง!

รัฐบาลปราบโกง วังเอ๋ย…วังเวง!

          อย่าลืม!

          ภารกิจของรัฐบาล คสช.ที่แบกปืน ขับรถถังเข้ายึดอำนาจ ท่ามกลางเสียงไชโยโห่ฮิ้ว ของกองเชียร์ และความโล่งอกโล่งใจของคนไทยทั้งประเทศ

             2 ประการใหญ่ๆ นั่นก็คือปรองดอง และปราบทุจริต!!

            นาทีนั้น หลายคนเริ่มมองเห็นแสงสว่าง ว่าประเทศน่าจะเดินหน้าได้เสียที โดยเฉพาะปฏิรูปการเมืองที่เริ่มจะมองเห็นแสงสว่าง และที่เป็นปัญหากับชาติบ้านเมืองมาตลอดก็คือ “โกง” ด้วยการขึงขังล้างคอกนักเลือกตั้งในคราบของนักการเมือง ที่ “ใช้ทุน” เพื่อสู่ตำแหน่ง” และ “หาทุน” เมื่อได้ตำแหน่ง

            ตลอดจนการตีหน้าเข้มใส่ข้าราชการที่ทั้ง “ม้านำ” และ “ม้าใช้” ให้กับนักเลือกตั้งทั้งหลาย

            จากรัฐธรรมนูญที่ร่างออกมาแบบเข้มข้นกับการเมืองรุ่นเก่า ทำให้เข้าใจได้ว่า นั่นคือการสร้างนักการเมืองรุ่นใหม่ ทั้งที่กลุ่มก้อนการเมืองรุ่นเก่าต่างตีโพยตีพายถึงความเปล่งแปลกของกฎหมายสูงสุดของประเทศ ตลอดจนชี้มือไปที่ “บิ๊กตู่” ว่าจะอยู่ยาว

            แน่นอนว่า สุ้มเสียงการเมืองในตอนนั้นไม่ต่างอะไรกับเข็มตกพื้น เนื่องเพราะเรื่องเก่าๆ ที่สร้างความปั่นป่วนมานั้น เป็นเสมือนผนังทึบเสียงกางกั้นอย่างดี

            ประชาชนส่วนใหญ่ล้วนสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐบาล คสช. อย่างหนาแน่น ด้วยประเด็นที่หวังว่าจะพาบ้านเมืองสู่ความสงบสุข

          และแล้ว…3 ปีผ่านไป!!

          เสียงนักการเมืองรุ่นเก่าทั้งฟากเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ เริ่มดังขึ้น ในขณะเสียงจากรัฐบาล คสช. เริ่มแผ่วลง

            จากที่รัฐบาลพูดหรือทำอะไรก็มีคนชม จากที่นักการเมืองพูดหรือแม้แต่กระดิกตัวก็โดนด่า ทำท่าจะเริ่มพลิกผัน จนถึงขั้นลุงตู่เปรยกับนักข่าวว่า พูดอะไรก็โดนว่า ทำอะไรก็โดนด่า

            แล้วการประกาศสู่เวทีการเมืองของหัวหน้า คสช. ทำให้ภาพอะไรเริ่มชัด

            ชัดอย่างเป็นรูปธรรม!

            แต่-ขณะที่ 2 ภารกิจของรัฐบาลที่กล่าวมาข้างต้นนั้น ริบหรี่ราวกับว่าเรื่องเหล่านี้ รัฐบาลไม่เคยพูด รัฐบาลไม่เคยทำ

          ยิ่งเรื่องของการปราบทุจริตที่เจิดจ้ามาในช่วงแรก มาถึงวันนี้ เจอกระแส “นาฬิกา” จนดับวูบ จนสังคมสิ้นหวังไปตามๆ กัน แม้แต่ องค์กรอิสระ ปปช. ที่คนไทยให้ความรู้สึกที่ดีมาตลอด ก็ดูท่าจะเปลี่ยนไป

            ในขณะความรู้สึกของสังคมเห็นเป็นเรื่องใหญ่ แต่สุ้มเสียงและท่าทีของซีกรัฐบาล ดูจะเห็นเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย ถึงกับมีคำพูดออกมาว่า “จะเอาอะไรกันนักหนา”

            สรุปแล้ว ภารกิจหลักของการรัฐประหาร เรื่องปรองดองนั้นไม่ต้องพูดถึง ส่วนเรื่องปราบโกง คงไม่มีคำไหนมาทดแทนได้ นอกจากคำว่า

          วังเวง!!

You may also like

“ซีดริ้ง”รุกอีกก้าวเปิดตัว“C2 Vitamin Jelly” จัดหนัก!คว้าพระเอกเกาหลี“อูโดฮวาน” เป็น Global Brand Ambassador

“ซีดริ้ง