รัฐบาลหลังเลือกตั้ง
นายกฯ “คนใน” หรือ “คนนอก”
ที่บอกว่า “คนใน” ก็คือมาจาก ส.ส. ส่วน “คนนอก” ก็คือมาจากผู้ที่ไม่ได้เป็น ส.ส.
พูดไปก็ไม่อยากเชื่อว่า คนไทยจะต้องมาถกเถียงกันเรื่องนี้อีก หลังจากยุคของป๋าเปรม-พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ “อยู่ยาว” ถึง 8 ปี แล้วข้ามมาถึงยุค “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มีสิทธิ์จะอยู่ยาวบ้าง
ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า ทั้งหมดทั้งมวลนี้มาจาก ความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงของฝ่ายการเมือง ที่เอาแต่ “อำนาจ” และ “ผลประโยชน์” และ “ยุยง” จนสังคมแตกเป็นเสี่ยงๆ
ในขณะที่เสียงเลือกตั้งกำลังกระหึ่ม ในจังหวะที่พรรคเพื่อไทย กำลังอยู่ในสภาพที่ไม่ต่างจากผีหัวขาด
แต่ที่น่าฉงน ก็ใช่ว่า พรรคคู่แข่งอย่างประชาธิปัตย์ จะโดดเด่นขึ้นมาซักเท่าไหร่ ชื่อของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ยังดูราบเรียบอยู่เหมือนเดิม ในขณะผู้ที่พุ่งแรงขึ้นมากลับเป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากรัฐประหาร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ซ้ำมิหนำ ผีหัวขาดอย่างเพื่อไทยที่ควรจะอ่อนแรง ทรุดฮวบเป็นมวยถูกน็อก แต่ก็ยังมีเรี่ยวมีแรงพยุงตัวเองขึ้นมาได้ ซึ่งถ้าเทียบพรรคต่อพรรคแล้ว ดูจะมีภาษีที่ดีกว่าพรรคคู่แข่งอย่างประชาธิปัตย์ด้วยซ้ำ
โดยมีชื่อคุณหญิงหน่อย-สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เจ้าของ “บิ๊กคอนเน็กชั่น” ที่คุยได้ทุกคน ชนได้ทุกพรรค แถมสายสัมพันธุ์กับสีเขียว มีเกรดเฉลี่ยค่อนข้างสูงถือว่าเป็นชื่อที่ร้อนแรงที่สุด
หลายคนชี้ว่าถ้าพรรคเพื่อไทยจะอยู่รอดปลอดภัย ต้องเอาคนนอก “ชินวัตร” มานั่งกุมบังเหียน
แล้วคนนอกชินวัตรที่ว่า ก็คือคุณหญิงหน่อยนี่เอง
ต้องยอมรับว่า ชื่อนี้ เป็นนักการเมืองน้ำดี ในอดีตนั้นโชว์ฟอร์มฮอต ชนิดที่ขึ้นแท่นว่าที่นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกเลยทีเดียว ซึ่งถ้าเพื่อไทยจะอยู่รอดปลอดภัย มีอยู่ทางเดียวเท่านั้น ต้องเปิดอิสระให้กับคุณหญิงสุดารัตน์อย่างเต็มที่
ชินวัตรนั้นถ้าอยากกลับมาเกิดอีกครั้ง ต้องรู้จักอดกลั้นและกลืนเลือด และสำคัญต้อง รู้จัก “แกล้งตาย”
ไม่งั้นทุกอย่างก็จะเข้าสู่เหลี่ยมเดิม ต่อให้ 10 สุดารัตน์ก็เอาไม่อยู่
มองช็อตนี้ หากเลือกตั้งเป็นไปตามที่บิ๊กตู่ลั่นวาจาไว้ โอกาสที่เพื่อไทยจะชนะเลือกตั้งก็ยังมี แต่หากโอกาสที่จะเป็นรัฐบาลนั้น ดูจะเรืองรองสู้ประชาธิปัตย์ไม่ได้ ซึ่งน่าจะมีเคมีตรงกันกับกลุ่มอำนาจใหม่ และกองเชียร์ให้ลุงตู่อยู่ยาว พอสมควร
รู้ๆ กัน จากกฎกติกาเลือกตั้งสัดส่วนผสม ไปจนถึงพรรค ส.ว. 250 คน ล้วนแต่เป็นช่องเบ้อเร่อเปิดรับนายกฯ คนนอกเต็มๆ
แน่นอน นายกฯ คนนอกก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็คือนายกฯ คนปัจจุบันนี่เอง
แต่ปัญหาของลุงตู่ ไม่ได้อยู่ที่ “โอกาส” แต่อยู่ที่ “การบริหาร” อย่าลืมว่าการบริหารจากอำนาจรัฐประหาร กับการบริหารจากอำนาจประชาชน ต่างกันลิบลับ
จะคุมเกมการเมืองอยู่แค่ไหน จะคุมเกมบริหารได้อยู่มือหรือไม่
จากการตรวจสอบที่ไม่คอยถนัดถนี่ ก็จะเจอการตรวจสอบที่เต็มไม้เต็มมือมากขึ้น
เงื่อนไขเดียว ที่จะเดินน้าได้ฉลุย ลุงตู่จะต้องนิ่งที่สุด แล้วหามือเก๋าทางการเมืองมาคอยพลิกเกมให้
สรุปแล้ว นายกรัฐมนตรีไม่ว่าจะคนในหรือคนนอก ก็ยังดูไม่ราบรื่นนัก
แต่ถ้าเงื่อนไขต่างๆ ที่ว่าไว้ ปลดล็อกไปได้ และผ่านไปได้ดี
นั่นเท่ากับว่า โอกาสประเทศไทยก็มาถึงแล้ว!
Social Links