“วิทยุการบินฯ”คว้ารางวัลชมเชย รัฐวิสาหกิจดีเด่น ชูโครงการ“เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทางวิ่ง” พร้อมเดินหน้าสู่เชียงใหม่-ภูเก็ต

“วิทยุการบินฯ”คว้ารางวัลชมเชย รัฐวิสาหกิจดีเด่น ชูโครงการ“เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทางวิ่ง” พร้อมเดินหน้าสู่เชียงใหม่-ภูเก็ต

วิทยุการบินฯ”คว้ารางวัลชมเชย รัฐวิสาหกิจดีเด่น

ชูโครงการ“เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทางวิ่ง”

พร้อมเดินหน้าสู่เชียงใหม่-ภูเก็ต

 วิทยุการบินฯ ได้รับรางวัลชมเชย รัฐวิสาหกิจดีเด่น ประเภท การดำเนินงานอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมดีเด่น ประจำปี 2567 จากการดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทางวิ่ง (HIRO)  ณ สนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง

บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ได้รับรางวัลชมเชย รัฐวิสาหกิจดีเด่น ประจำปี 2567 ประเภทรางวัล การดำเนินงานอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมดีเด่น ประจำปี 2567 จากการดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทางวิ่ง หรือ High Intensity Runway Operations (HIRO)  ณ สนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง โดยนายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ ประธานกรรมการ บวท.  พร้อมด้วยนายณพศิษฏ์ จักรพิทักษ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บวท. และผู้บริหารระดับสูง ของ บวท. เข้ารับรางวัลจากนายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม  เปิดเผยว่า “การที่ บวท. ได้รับคัดเลือกจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลัง ให้ได้รับรางวัลชมเชย ประเภทรางวัล การดำเนินงานอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมดีเด่น ประจำปี 2567 สะท้อนให้ถึงความสำเร็จในการดำเนินงาน เพื่อร่วมขับเคลื่อนภารกิจตามกรอบนโยบายและยุทธศาสตร์ของกระทรวงคมนาคม ภายใต้ภารกิจหลักในการบริหารจัดการจราจรทางอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ ลดความล่าช้าของอากาศยานทั้งภาคอากาศและภาคพื้น รวมทั้งลดผลกระทบด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะทำให้สามารถรองรับปริมาณเที่ยวบิน และนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น เป็นการส่งเสริมให้เศรษฐกิจประเทศไทยเติบโตอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค ตามนโยบายรัฐบาล” 

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ ประธานกรรมการ บวท. กล่าวว่า “โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทางวิ่ง (HIRO)  ณ สนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง มุ่งเน้นการใช้ทางวิ่งให้เต็มประสิทธิภาพ โดยการออกแบบวิธีปฏิบัติและดำเนินการตามมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด โดยกำหนดระยะห่างระหว่างเที่ยวบินในการวิ่งขึ้นและร่อนลงสู่สนามบินให้เหมาะสมกับระดับความปลอดภัย เป็นการเพิ่มความสามารถด้านการรองรับปริมาณเที่ยวบิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สนามบินที่มีปริมาณการจราจรทางอากาศหนาแน่นสูง พร้อมกับใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการติดตามและควบคุมการจราจรทางอากาศ  ช่วยให้เกิดความคล่องตัวในการจัดการเที่ยวบิน และเพิ่มความสามารถในการรองรับเที่ยวบินในช่วงเวลาที่มีปริมาณการจราจรคับคั่งได้เป็นอย่างดี ตอบโจทย์ด้านความปลอดภัย ส่งเสริมประสิทธิภาพ และการรักษาสิ่งแวดล้อมต่อชุมชนโดยรอบสนามบิน และผู้โดยสารที่มาใช้บริการสายการบิน รางวัลนี้จะเป็นแรงผลักดันให้ บวท. มุ่งมั่นเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรม เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ ประยุกต์ใช้องค์ความรู้เพื่อให้เกิดประโยชน์ โดยคำนึงถึงการรักษาสิ่งแวดล้อม และความรับผิดชอบต่อสังคม

นายณพศิษฏ์ จักรพิทักษ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บวท. กล่าวเพิ่มเติมว่า “ปัจจุบัน บวท. นำโครงการHIRO เข้าใช้งาน ณ สนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง และจะขยายไปยังสนามบินภูเก็ตและสนามบินเชียงใหม่ ภายในปี 2568 นี้ รวมทั้งมีแผนที่จะนำเข้าใช้งาน ณ สนามบินที่มีปริมาณการจราจรทางอากาศหนาแน่นอื่น ๆ ทั่วประเทศในระยะต่อไป  ซึ่งโครงการดังกล่าวส่งผลให้เกิดประโยชน์ทั้งในด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างมีนัยสำคัญ ดังนี้

  1. ด้านสังคม ได้แก่

1.1 เพิ่มประสิทธิภาพความตรงต่อเวลา ลดเวลาความล่าช้าของเที่ยวบิน ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความพึงพอใจของผู้โดยสาร ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่น และความประทับใจในบริการของสนามบินและสายการบินมากยิ่งขึ้น

1.2 เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารเวลาของผู้โดยสาร ทำให้สามารถวางแผนการเดินทางและกิจกรรมต่าง ๆ ได้ดีขึ้น

1.3 ลดความแออัดและความหนาแน่นของการจราจรทางทางอากาศ เป็นการช่วยลดมลภาวะการรบกวนจากเสียงเครื่องบินและมลภาวะต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อชุมชนที่อยู่ใกล้เคียงสนามบิน ทำให้คุณภาพชีวิตของชุมชนดีขึ้น

  1. ด้านสิ่งแวดล้อม

2.1 ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทั้งในภาคอากาศและภาคพื้น ทำให้เครื่องบินไม่ต้องใช้เชื้อเพลิงมากเกินความจำเป็น ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซเรือนกระจกอื่น ๆ ซึ่งส่งผลดีต่อการลดปัญหาภาวะโลกร้อน

2.2 การจัดการการขึ้นลงของเครื่องบินให้เป็นระบบและมีประสิทธิภาพ เป็นการช่วยลดมลภาวะในภาพรวม

You may also like

“ส.ประกันวินาศฯ”เข้ม! รุกสกัดพวกจัดฉากฉ้อฉลประกัน ชี้ล่าสุดหวังเคลมกว่า 14 ล้าน พบพิรุธทำประกัน 28 ฉบับ

“ส.ประกั