สมคิด VS สมฟุ้ง?

สมคิด VS สมฟุ้ง?

สมคิด VS สมฟุ้ง?

 

            หัวข้อหนึ่งที่ “วงใน” กลุ่ม “นักข่าว-คอลัมนิสต์” สายเศรษฐกิจ เคยถกกัน! นั่นคือ หากจะมอบถ้วยรางวัลเกียรติยศ…“นักยุทธศาสตร์ยอดเยี่ยม-คนแรก” ให้กับใครหนึ่งคนใดแล้ว…เขาคนนั้น ควรเป็นใคร?

            ชื่ออันดับต้นๆ มี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ ของรัฐบาล คสช. รวมอยู่ด้วย

            แต่หลังจากที่ “หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ” คนนี้…ขึ้นไปกล่าวปาฐกถาพิเศษ ในงานสัมมนาแห่งปี THAILAND 2018 จุดเปลี่ยนและความท้าทาย จัดโดย นสพ.ประชาชาติธุรกิจ ณ ห้องบอลรูม ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา แล้วถูกหลายคนหลายฝ่ายนำเอามาขยายผลเชิง “จับผิด!” ในหลายจุด…หลายประเด็น กันแล้ว

            ภาพลักษณ์ของนายสมคิด ถือว่า “เสียหาย” เยอะทีเดียว!

            หลายประเด็นที่นายสมคิดบอกบนเวทีในวันนั้น…คลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง ทั้งที่มีตัวเลขเศรษฐกิจยืนยันชัดเจน ไม่ว่าเป็น…จีดีพียุคที่ “รัฐบาลลักษณ์” บริหารประเทศได้เต็มปี คือ ปี 2556 ซึ่งแม้จะเริ่มมี “ม็อบนายสุเทพ” ออกมาเป่านกหวีดกันบ้างแล้ว

            แต่ปีนั้น…แม้จะยังคงได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากปัญหาน้ำท่วมช่วงปลายปี 2554 ก็ตาม ทว่าจีดีพี ก็ยังเติบโตสูงถึงกว่าร้อยละ 7 นั่นเพราะนโยบาย “รถยนต์คันแรก” เป็นสำคัญ

            กระนั้น นายสมคิด กลับเลือกที่จะพูดเฉพาะแค่…ไตรมาสของปี 2557 ซึ่งเป็นช่วงพีคสุดของ “ม็อบนกหวีด” ที่ตามไปปิดธนาคารออมสิน และธ.ก.ส. เพื่อไม่ให้จ่ายเงินจำนำข้าวแก่เกษตรกร ปิดกั้นมิให้คนไทยออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ตามกระบวนการแห่งประชาธิปไตย จนจีดีพีช่วงนั้น เติบโตไม่ถึงร้อยละ 1

            หรือแม้แต่บางนโยบาย…ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นทะเบียนคนจน การให้สวัสดิการที่ดีแก่คนใน การสร้างรถไฟความเร็วสูง รวมถึงโครงการขนาดใหญ่อย่าง EEC หรือโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก ฯลฯ ล้วนเกิดขึ้นในยุคของรัฐบาล คสช. ที่มีเขาเป็น “หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ”

 

            ทั้งที่ความเป็นจริง…ทุกอย่างเกิดขึ้นมาตั้งแต่ยุครัฐบาลพลเรือน เมื่อกว่า 10 ปีก่อน และหากไม่มีเหตุการณ์ “รัฐประหาร” เกิดขึ้น 2 ครั้งติดในรอบ 10 ปี คือ 19 ก.ย.49 และ 22 พ.ค. 57 ล่ะก็…ป่านนี้ ทุกอย่างคงมีเต็มบ้านเมืองไทยไปหมดแล้ว

            ที่สำคัญ คงไม่มี “คนจน” เหลือให้ นายสมคิด นำมาขึ้นทะเบียน และสร้างวาทกรรม “ปีหน้า (61) คนจนจะหมดประเทศ” ทั้งที่ “ทีมเศรษฐกิจ” ของนายสมคิด ไม่เคยโชว์ “แผนยุทธศาสตร์” และรายละเอียดใดๆ ให้คนไทยได้เห็นเลยว่า…พวกเขาจะทำกันอย่างไร?

            ถึงตรงนี้ หลายคนเริ่มมีคำถามแล้วว่า….นักการตลาด “ศิษย์รัก” ของ นายฟิลิป คอตเลอร์ ปรมาจารย์การตลาดระหว่างประเทศ ระดับ “ศาสตราจารย์กิตติ” คนนี้…เก่งจริงหรือไม่?

            เพราะหลายคนเริ่มจะเปรียบเปรย นายสมคิด ให้ได้ยินกันบ้างแล้ว…ทำนอง “สมฟุ้ง / สมเพ้อ”

 

“ทีมข่าวเศรษฐกิจ”

สำนักข่าว ThaiBCCnews

 

You may also like

ราคาคาร์บอนเครดิตกับปัญหา การพัฒนาตลาดคาร์บอนในประเทศไทย

ด้วยรูปแ