สารพัดพิษภัยรุมล้อม “ประเทศไทย” ที่รอ “ลุงตู่” เร่งแก้ไข??

สารพัดพิษภัยรุมล้อม "ประเทศไทย" ที่รอ "ลุงตู่" เร่งแก้ไข??

นายจักรยาน

          ศึกขย่มเขย่า "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ก็จบลงผ่านไปด้วยความสะดวกสบายไม่สะเทือนเก้าอี้ที่นั่งครองมานานกว่า 5 ปี รัฐมนตรีอีก 5 ท่านที่โดนซักฟอกจาก "ฝ่ายค้าน" ก็รอดไปได้อย่างสะดวกโยธินเช่นกัน

          ไม่มีอะไรเซอร์ไพร้ส์แต่ประการใด  เพราะ"รัฐบาล" ทุกยุคที่มาจากการเลือกตั้งไม่เคยล้มจาการการไม่ไว้วางใจของ "ฝ่ายค้าน"!?!

            ก็อย่างที่รู้ ๆ กันว่า คะแนนเสียงของ "รัฐบาล" ย่อมมีมากกว่า "ฝ่ายค้าน" เป็นธรรมดาสามัญของการเมืองทั่วโลก

            เพราะถ้า "รัฐบาล" มีเสียงน้อยกว่า "ฝ่ายค้าน" ก็คงไม่ได้เป็น "รัฐบาล" มาตั้งแต่ต้น??

            มหกรรม "ซักฟอก" ขยี้ขย้ำ "ลุงตู่" และอีก 5 รัฐมนตรีที่ผ่านมานั้น  วิปรัฐบาลอยากจะสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้คะแนนไว้วางใจผู้ที่ถูกอภิปรายเท่ากันทุกคน

            แต่ผลออกมามีผู้ที่คะแนนไว้วางใจมากสุด กับผู้ที่ได้คะแนนน้อยสุด  ดังเช่นการ "ซักฟอก" เหมือนในอดีต

            แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ คะแนนไว้วางใจของ "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร  วงษ์สุวรรณ  รองนายกรัฐมนตรีมากกว่า "ลุงตู่" 5 คะแนน

            โดย "บิ๊กป้อม" ได้ 277 คะแนน  ส่วน "ลุงตู่" ได้ 272 คะแนน เท่ากับอีก 3 รัฐมนตรีคือ  นายวิษณุ  เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี "บิ๊กป๊อก" พล.อ.อนุพงษ์  เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย  และ นายดอน ปรมัติวินัย  รมว.ต่างประเทศ

            สำหรับคะแนนของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า  รมช.เกษตรและสหกรณ์ได้เพียง 269 คะแนน  ซึ่งผู้ที่ลงคะแนนไว้วางใจให้รัฐมนตรีคนอื่น ๆ ได้เสียบบัตรงดออกเสียงแทน

            หลังจากนี้ต่อไปก็จะมีกระแสและคำถามตลอดเวลาว่า "รัฐมนตรีธรรมนัส" สมควรจะถูกปรับออกจาก ครม.หรือไม่

            ที่แน่ ๆ เหมือนประสงค์ให้มีการเยาะเย้ยถากถาง "ลุงตู่" ที่ได้คะแนนไว้วางใจน้อยกว่าพี่ใหญ่ "ลุงป้อม" ในวงการเมืองไทย

            ทว่าสาเหตุที่แท้จริง ๆ น้้นมาจากมี ส.ส.ฝ่ายค้าน คือพรรคเพื่อไทย 2 ผู้ทรงเกียรติ  และ3 ส.ส.พรรคเสรีรวมไทย เทคะแนนไว้วางใจให้ "บิ๊กป้อม" ด้วยความรัก

            อ้างเหตุผลดื้อ ๆ จาก ส.ส.พรรคเสรีรวมไทยว่าเป็นเพราะ "บิ๊กป้อม" ยังไม่ได้ถูก ส.ส.ฝ่ายค้านซักฟอกในสภาผู้แทน ฯ  เพราะเวลาอภิปราย 4 วันได้หมดลงไปเสียก่อน  ก็เลยต้องลงคะแนนไว้วางใจ

            ส่วน 2 ส.ส.พรรคเพื่อไทยที่ปันใจรัก "บิ๊กป้อม" ปิดปากมิได้ให้เหตุผลใด ๆ ว่าทำไมถึงรัก!!

            ส่วนสาเหตุที่ "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้คะแนนบ๊วยสุด  ก็เป็นเรื่องที่ต้องการหวังผลทางการเมืองในการปรับเปลี่ยนตัวรัฐมนตรี

            เพราะ 17 ส.ส.จากพรรค ปชป.ได้ออกมาแถลงข่าวว่า ความจริงแล้วพวกตนต้องการไม่ไว้วางใจ "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า"  แต่ฝืนมติพรรคไม่ได้ก็ต้องกลั้นใจเสียบบัตรไว้วางใจให้

            พร้อมทั้งเปรี้ยงตรงประเด็นว่า อยากให้ "ลุงตู่" เปลี่ยนคนอื่นมาเป็นรัฐมนตรีแทน!!

            ณ วันนี้ยังเร็วเกินไปที่จะเห็นการปรับ ครม.   แต่วันข้างหน้าอาจจะได้เห็น  เพราะทุกรัฐบาลที่ผ่าน ๆ มาแม้แต่รัฐบาล คสช.เองก็มีการปรับ ครม.ตามประเพณีการเมืองแทบจะทุกปี

            การอภิปรายถล่ม "ลุงตู่" ที่ "ฝ่ายค้าน" โหมโฆษณาใช้วาทะกรรมแรง ๆ อย่างดุเดือดเลือดพล่าน ปรากฏว่ามีกระแสสะท้อนกลับมาว่าไม่สมราคาคุย เพราะไร้ "หมัดเด็ด" ที่่จะน็อกคาเวทีได้

          เสมือนเป็นมวยล้มต้มคนดู  และเป็นปาหี่ทางการเมืองในเวทีสภาผู้แทนราษฎรเรื่องการซักฟอก ที่เปรียบได้กับคำสุภาษิตที่ว่าไก่เห็นตีนงู  งูเห็นนมไก่?? 

            ด้วยเหตุฉะนี้และฉะนั้น  ประชาชนที่ติดตามภาพยนตร์เรื่องยาว "ถล่มลุง" ทั้ง 4 วันคงจะมีคำตอบแล้วว่า "ฝ่ายไหน" ใช้ "แท็คติด" มาชิงไหวชิงพริบหักเหลี่ยมกันอย่างไรบ้าง

            ทว่าการอภิปรายไล่ "ลุงตู่" ครั้งนี้ ได้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ท้ั้งอึ้งและที่งที่ส่งผลให้พรรคร่วมฝ่ายค้านแตกกันเอง  เพราะพรรคเพื่อไทย แกนนำฝ่ายค้าน ได้เล่น"แท็คติก" กับ ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่

            ด้วยการโกงเวลาซักฟอกของ ส.สอดีตพรรคที่โดนยุบ  เพราะหมดเวลาอภิปรายตามข้อตกลงวันเวลาของวิปรัฐบาลกับวิปฝ่ายค้าน

            เรื่องก็เลยเป็นเรื่องให้ ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่หงุดหงิดใจเป็นอย่างมาก ต้องยกโขยงมาซ้กฟอกนอกที่ประชุมสภาผู้แทนฯ แทน!!

            แม้ว่า "พรรคเพื่อไทย" จะมีคำ "ขอโทษ" ออกมาในเรื่องดังกล่าว ก็ไม่รู้ว่าลึก ๆ แล้ว ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ "ยกโทษ" ให้แบบแล้วกันไปหรือไม่  หรือว่าแค้นนี้ต้องชำระ!?!

            ฉะนั้นเรา ๆ ท่าน ๆ อย่าได้ซีเรียสให้หนักสมองตัวเอง เพราะคือ "นี่แหละการเมือง" ที่ต้องทำให้เรื่องยุ่งกันเข้าไว้แหละดี!!

            อา..แม้รัฐบาล "เรือเหล็ก"ของ "ลุงตู่" จะฝ่าคลื่นลมแรงจากการซักฟอกครั้งแรกไปแล้ว  แต่ก็ยังมีมรสุมหลายลูกรอวันเวลาเขย่าเสถียรภาพผู้นำ "ลุงตู่"

            ไม่ว่าจะเรื่อง ฝุ่นพิษ  ภัยแล้ง เศรษฐกิจปากท้องประชาชน  แฟลซม็อบของนักศึกษา และการระบาดของ "ไวรัสโควิด-19"

            เนื่องจากทุกสถานการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นในเวลานี้เหมือนล้อม "ประเทศไทย" เอาไว้  ซึ่ง"ลุงตู่" ต้องแสดงฝีมือขั้นสูงสุดในการเร่งแก้ไขและป้องกันไม่ให้ลามขยายไปจนฉุดไม่อยู่

            ถ้า "ลุงตู่"  เอาอยู่ก็แล้วไป  แต่ถ้าเอาไม่อยู่มีหวังบานปลายจนหกคะแมนตีลังกาได้??

          และอาจมีข้อกล่าวหาของฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลว่าเป็นเพราะ "เผด็จการ" ที่ทำให้เกิดเรื่องไม่จบสิ้น??

          จบข่าว!!