ส่งออกไก่คุณภาพไปญี่ปุ่นยังสดใส

ส่งออกไก่คุณภาพไปญี่ปุ่นยังสดใส

ตลาดส่งออกไก่สดและไก่แปรรูปของไทยเริ่มกลับมาสดใส โดยมีแนวโน้มที่ดีขึ้นสำหรับสินค้าที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัยสูง แต่หากยังจำกันได้ เมื่อครั้ง โรคไข้หวัดนกระบาด ไปทั่วเอเชีย กระทั่งลามเข้าสู่ไทยเมื่อปี 2547-2548 ครั้งนั้น รัฐบาลไทย ได้สั่งกำจัดไก่และสัตว์ปีกทั่วไป โดยเฉพาะเป็ดที่เลี้ยงในฟาร์มและเป็ดไร่ทุ่ง เป็นจำนวนนับล้านๆ ตัว

ยิ่งสถานการณ์ส่งออกในขณะนั้นด้วยแล้ว ตลาดสำคัญๆ อย่าง ญี่ปุ่น ยุโรป และตะวันออกกลาง ถึงกับสั่งห้ามนำเข้าทั้งไก่สดและไก่แปรรูปจากประเทศไทย ด้วยไม่มั่นใจว่าทางการไทยและผู้ส่งออกของไทยจะมีมาตรฐานเพียงพอต่อการควบคุมดูแลผลิตภัณฑ์จากไก่ มิให้ติดเชื้อของโรคไข้หวัดนกได้ดีสักเพียงใด ทำเอาผู้เลี้ยงไก่และผู้ส่งออกแทบสิ้นเนื้อประดาตัวกันไปทีเดียว

ล่าสุด นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.กระทรวงพาณิชย์ เพิ่งแถลงข่าวตอกย้ำถึงโอกาสการส่งออกผลิตภัณฑ์จากไก่ ทั้งไก่สดและไก่แปรรูป โดยเน้นย้ำให้ผู้เลี้ยงและผู้ส่งออก ตระหนักในเรื่องคุณภาพและความปลอดภัย โดยเฉพาะตลาดใหญ่ที่มีการนำเข้าไก่จากไทยเป็นจำนวนมาก อย่างประเทศญี่ปุ่น ซึ่งให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากที่สุด

“กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเร่งประชาสัมพันธ์ จัดกิจกรรมทางการตลาด เพื่อสร้างการรับรู้ ตอกย้ำเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของไก่ไทยสู่ผู้บริโภคญี่ปุ่นให้มากยิ่งขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคญี่ปุ่นต่างยินดีจ่ายในราคาสูงกว่า เพื่อให้ได้รับสินค้าที่คุณภาพเชื่อถือได้” นางอภิรดี ย้ำ 

จากตัวเลขที่สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว รายงานถึงกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า คนญี่ปุ่นบริโภคไก่ปีละประมาณ 2.1–2.5 ล้านตัน โดยมีส่วนแบ่งการนำเข้าปีละ 950,000–1,000,000 ตัน จึงทำให้ความต้องการนำเข้าไก่สดและไก่แปรรูปในญี่ปุ่นเพิ่มสูงขึ้นมาก

โดยช่วง 8 เดือนแรก (ม.ค.-ส.ค.) ของปีนี้ มีการนำเข้าไปแล้วกว่า 6.62 แสนตัน เพิ่มขึ้น 2.8% คิดเป็นมูลค่า 2,235.08 ล้านเหรียญสหรัฐ และเป็นการเพิ่มขึ้นในเชิงมูลค่าราว 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับการส่งออกไก่สดแช่เย็น แช่แข็ง และแปรรูปของไทยในช่วงดังกล่าว มีมูลค่ารวม 1,817.22 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยส่งออกไปญี่ปุ่นเป็นอันดับที่ 1 มูลค่า 1,033.06 ล้านเหรียญสหรัฐ รองลงมาคือ สหราชอาณาจักร มูลค่า 330.81 ล้านเหรียญสหรัฐ เนเธอร์แลนด์ มูลค่า 82.63 ล้านเหรียญสหรัฐ เกาหลีใต้ มูลค่า 58.68 ล้านเหรียญสหรัฐ และสปป.ลาว มูลค่า 57.72 ล้านเหรียญสหรัฐ

จึงน่าสนใจว่า ท่ามกลางโอกาสของการส่งออกนี้ ผู้เลี้ยงและผู้ส่งออกไก่ไทย จะมีแผนการสร้างมาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัย รวมถึงภาครัฐเองจะมีแนวทางป้องกันโรคร้ายระบาด อย่างโรคไข้หวัดนกได้ดีสักเพียงใด เพื่อป้องกันไม่ให้วิกฤติสั่งฆ่าไก่และสัตว์ปีก ตามมาหลอกหลอนทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคกันอีก