อนาล็อกสู่ดิจิทัล การเมือง “พลังดูด” ยังอมตะ!!

อนาล็อกสู่ดิจิทัล การเมือง “พลังดูด” ยังอมตะ!!

          ถ้าไม่มีการเลื่อนแล้วเลื่อนอีก  นับจากวันนี้ไปจนถึงโรดแม็พเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ก็เป็นเวลาแค่ 10 เดิอนที่ประชาชนคนไทยทุกคนจะได้ใช้สิทธิเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยไทยนิยมที่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้กำหนดกติกาเอาไว้

            ที่แน่ ๆ ณ ตอนนี้ ยังเป็นที่เคลือบแคลงสงสัยว่า  คณะคุณสมชาย (คสช.) อยากสืบทอดอำนาจต่อไปอีกตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยมี “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีเหมือนเดิม หรือไม่??

            ความไม่ชัดเจนของ “บิ๊กตู่” ที่จะเผยตัวแบบสุภาพบุรุษอกสามศอกว่าจะ “เอา” หรือ “ไม่เอา” ในการนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีต่อไป  เพียงพูดสั้น ๆ ว่า รอให้เดือนมิถุนายนนี้ก็จะรู้!!

          แต่ทว่ากระแส “พลังดูด” ได้กระหึ่มอึงคะนึงทั่วแผ่นดินไทยในเวลานี้  ก็เริ่มมาจากมีอดีต ส.ส.และอดีตรัฐมนตรี เดินทางเข้าพบ “เสี่ยสมคิด  จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล

            อีกไม่นานวันได้มีการแต่งตั้ง  “นายสนธยา  คุณปลื้ม” หัวพน้าพรรคพลังชล  ก็โดน “พลังดูด” ให้มารับตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง  และแต่งตั้งผู้น้อง “นายอิทธิพล  คุณปลื้ม” อดีตนายกเมืองพัทยา มานั่งเก้าอี้ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่ากระทรวงการท่องเที่ยงและกีฬา

            แม้ว่า “บิ๊กตู่” จะชี้แจงว่าใกล้โรดแม็พเลือกตั้งก็ต้องตั้งมาเป็นที่ปรึกษาด้านการเมือง เพราะยากรู้เรื่องการเมืองที่ลึกลับซับซ้อนมาก ๆ   แต่ไม่ยักจะมีใครเชื่อ (น่าสงสารเนาะ) โดยเฉพาะพรรคการเมืองใหญ่หลายพรรคส่ายหัวไม่เชื่อ

          จากสถานการณ์การเมืองที่ “บิ๊กตู่” ได้แสดงบทบาทออกมาสู่สาธารณะชน จนถึงเหตุการณ์ “พลังดูด” ทำให้แทบทุกฝ่ายเชื่อว่า พรรค “พลังดูด”ของ คสช.เกิดขึ้นแน่ ๆ ??

            หลังจากที่ “เสี่ยสมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าตนเองพร้อมสนับสนุน “บิ๊กตู่” นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีต่อไปอีก  และทีมเศรษฐกิจคนสนิทรู้ใจของ “เสี่ยสมคิด” คือ “เสี่ยสนธิรัตน์  สนธิจิรวงศ์” รัฐมนตรีว่ากระทรวงพาณิชย์  และ “เสี่ยอุตมะ  สาวนายน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ประสานเสียงพร้อมกันว่าสนับสนุน “บิ๊กตู่” เช่นกัน

            ด้วยเหตุฉะนี้  คนการเมืองก็ฟันธงทันทีว่า “เสี่ยสมคิด” ร่วมกับ “เสี่ยสนธิรัตน์” และ “เสี่ยอุตมะ” ตั้งพรรคของ คสช.แน่นอน 

            โดยมีการปูดข่าวออกมาว่า พรรคของ คสช. หรือพรรคทหาร (ใครจะเรียกชื่อว่าอะไรก็ตามสะดวก)  ทุ่มเงิน 4 หมื่นล้านบาทในการกำหนดพรรคของ คสช. จะมี “เสี่ยสมคิด” เป็นคีย์แมนคนสำคัญ!!

            ส่วนจะไปเทคโอเวอร์ใช้ชื่อพรรคอะไรที่ได้จดทะเบียนพรรคการเมืองใหม่เรียบร้อย  ก็ต้องรอดูกันด้วยความใจเย็น ๆ จนกว่าจะถึงเดือนมิถุนายนนี้!!

          เรื่องราว “พลังดูด” ทางการเมือง  มิใช่เพิ่งจะเกิดขึ้นในยุค คสช.  ซึ่งการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งในอดีตยุคอนาล็อก  ก็ใช้เทคนิค “พลังดูด” ไม่ผิดแผกแตกต่างกันนัก

            ย้อนรอยการเมืองในยุคที่ “เสี่ยแม้ว” ทักษิณ  ชินวัตร  ที่พาพรรคตัวเอง ได้คะแนนเสียงข้างมาก ก็ใช้ “พลังดูด” พรรคการเมืองอื่น 2- 3 พรรคมาร่วมรัฐบาลเพื่อให้มีคะแนนเสียงในสภาผู้แทนราษฎรไม่มีปัญหาในการลงมติสำคัญ ๆ

            มาถึงยุค “เดอะมาร์ค” อภิสทธิ์  เวชชาชีวะ  ได้ครองเก้าอี้นายกรัฐมนตรี  ทั้ง ๆ ที่พรรค ปชป.มีคะแนนเสียงเป็นอันดับ 2 ก็ใช้ “พลังดูด” ลดแหลกแจกแถม  ดูดพรรคที่เคยร่วมกับ “เสี่ยแม้ว” แปรพักตร์มาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลเสี่ยจน “พรรคแม้ว” ซึ่งมีคะแนนเสียงอันดับ 1 ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้

            สมัยที่ “เดอะมาร์ค” เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น กระทรวงเกรดเอ จะตกเป็นของพรรคร่วมรัฐบาลไม่ว่ากระทรวงมหาดไทย  กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นต้น  ส่วนกระทรวงเกรดบีและซี พรรค ปชป.ขอรับผิดชอบด้วยความเต็มใจ  มิฉะนั้นก็ไม่ได้เป็นรัฐบาลสมใจอยาก??

            สำหรับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งสุดท้ายก่อนที่ประชาธิปไตยจะถูกเว้นวรรค  พรรคเสี่ยแม้ว ที่มี “น้องปู” ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร น้องสาวนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย  ก็ใช้ “พลังดูด” พรรคการเมืองอื่นมาร่วมรัฐบาลให้เสียงในสภาผู้แทนราษฎร์แน่นปึ้กเพื่อความไม่ประมาท แต่ก็โดนคุณสมชาย (คสช.)เข้ามายึดอำนาจ เพื่อทะลวงซอยที่อยู่สุดซอยให้มีทางออก!!

          “บิ๊กตู่” และ คสช. บริหารอำนาจบ้านเมืองมาแป๊บเดียวแค่ 4 ปีเศษ ๆ เท่านั้นเอง  วางแผนหลายรูปแบบที่ซ่อนเงื่อนปลุกปั้นประชาธิปไตยของไทยเป็นสู่ประชาธิปไตยไทยนิยมในการเลือกตั้งหลังเดือนกุมภาพันธ์ 2562 เป็นต้นไป

            ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ คุณสมชาย (คสช.) ได้ครองอำนาจบ้านเมืองอยู่  ก็ได้เห็นสัจธรรมทางการเมืองแห่งความจริงว่า  “พลังดูด” ยังต้องใช้ในการสืบทอดอำนาจของตัวเองที่จะนำมาปฏิรูปประเทศชาติให้มั่นคง ยั่งยืน และมั่งคั่ง??

            แม้จะมีการวิจารณ์กันแซ่ดจากนักการเมืองโจมตี “พลังดูด” ของ ท่านผู้นำ “ตู่” อย่างหนักหน่วง  แต่ “บิ๊กตู่” กลับบอกว่า “ฉันไม่ได้ยิน  ฉันไม่ใช่เครื่องดูดฝุ่น  วิพากษ๋วิจารณ์ไปซิ  ฉันไม่สนใจอยู่แล้ว ทำงานอย่างเดียว ไม่เกี่ยวกัน”

            ปัญหาอภินิหารของพลังดูดนี้  ปรากฏว่า “ท่านผู้นำตู่” กลับเงียบไม่โต้ตอบต่อความยาวสาวความยืด ทำเป็นไม่รู้ไม่ซี้  แต่คนการเมืองเชื่อ 100 % ว่า จะมีปรากฏการณ์ “ดูด” นักการเมืองอีกหลาย ๆ คนและครอบครัวการเมืองบางตระกูลเข้ามาสู่อ้อมจของ คสช.อย่างแน่นอน

          เพราะว่า  “พลังดูด” เป็นอมตะอยู่คู่กับการเมืองไทยแบบไทย ๆ ตราบนิรันดร!!

                                                                        นายจักรยาน