อะไรคือทางรอดของร้านอาหาร  ถ้าเลือดไหลไม่หยุด   ขาดการบูรณาการในการแก้ปัญหา 120  วัน รอดหรือร่วง!

อะไรคือทางรอดของร้านอาหาร 

ถ้าเลือดไหลไม่หยุด   ขาดการบูรณาการในการแก้ปัญหา

120  วัน รอดหรือร่วง!

                “ ปีละ 4  แสนล้านสำหรับธุรกิจร้านอาหาร  เพราะเมืองไทยได้รับการคัดเลือกว่าเป็นดินแดนแห่งการกิน  แต่ถ้าปล่อยให้ผู้ประกอบการร้านอาหารต้องดิ้นรนในการหาทางออก หรือปล่อยให้เลือดไหลไม่หยุด ก็จะส่งผลกระทบต่อทุกคน  เพราะร้านอาหารหนึ่งร้านจ้างคนหลัก 100  แต่เงินหมุนเวียนหลัก  1,000     ร้านอาหารเกี่ยวข้องกับธุรกิจ SME   เกี่ยวข้องกับเกรษตกร เกี่ยวข้องกันชาวไร่ ชาวนา ชาวสวน”   คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์  ประธานพรรคไทยสร้างชาติ  กล่าว 

                พรรคไทยสร้างชาติ  ได้มีการจัดเสวสนา  เรื่อง  ทางรอดร้านอาหาร ที่รัฐบาลต้องฟัง  ผ่านทาง Live  เพจ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์  Sudarat   Keyuraphan    โดยมีผู้ประกอบการจากหลากหลายร้านเข้าร่วมไม่ว่าจะเป็น คุณรณกาจ  ชินสำราญ ร้าน Maguro  คุณเจตุบัญชา  อำรุจิตชัย   ธุรกิจ  ลูกชิ้นจัง , คุณวิน สิงห์พัฒนากกุล จากร้าน Chocolate Ville  และคุณอานนท์  เลิศประภาการ  จากร้าน Harry ! s Bistro by  ครัวต้นไม้  โดยมีคุณฐาปนีย์  เอียดศรีชัยดำเนินรายการ

                คุณหญิงสุดารัตน์ ฯ  บอกว่า  การจัดงานครั้งนี้  เพราะรัฐบาลยังไม่สามารถหาทางออกให้กับผู้ประการร้านอาหารได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแหล่งเงินทุน  การฉีดวัคซีน   ที่จะช่วยผู้ประกอบการ  เมื่อผู้ประกอบการสามารถอยู่ได้  ประชาชนก็รอดด้วยกันทุกคน

                คุณรณกาจ  ชินสำราญ ร้าน Maguro   กล่าวถึง  การแก้ปัญหาของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมานั้นผู้ประกอบการทุกคนเข้าใจดีในช่วงโควิดระบาดครั้งที่ 1  ทุกคนรับได้  พอช่วงที่ 2  ทุกคนเห็นทางออก  แต่พอมาช่วงที่ 3  ทุกคนหาทางออกไม่พบ  เพราะนโยบายที่รัฐประกาศมาไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินทุน หรือวัคซีนนั้น  ยังหาทางออกไม่พบเลย   โดยเฉพาะเรื่องเงินทุนสนับธุรกิจควรให้เปล่า  หรือไม่ก็ปลอดดอกเบี้ย  ไม่ใช่การที่ให้ธนาคารไปดำเนินการเองซึ่งมาตรการแต่ละธนาคารก็ไม่เหมือนกัน  ตรงนี้ถือว่ารัฐบาลแก้ปัญหาไม่ตรงจุด

                คุณอานนท์  เลิศประภากร  จากร้าน Harry ! s Bistro by  ครัวต้นไม้   มองว่า  รัฐควรจะมีทางออกมากกว่านี้ ที่ผ่านมาทางร้านไม่ได้ทิ้งใครเลย  ดูแลพนักงานทุกคน  เพราะการเอาคนออกไม่ใช่เรื่องง่าย  แต่ต้องประคับประคองกันไป   ที่สำคัญรัฐไม่ได้คิดที่จะช่วยธุรกิจเลย  ไม่เหมือนกับที่ประเทศอังกฤษ หรือประเทศอเมริกา  ที่เขาให้ความสำคัญกับผู้ประกอบการไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ โดยเน้นในเรื่องการให้ความช่วยเหลือเรื่องเงินลงทุน และที่สำคัญรัฐควรจริงจังในการฉีดยาให้กับผู้ที่มีอาชีพบริการ อย่างที่ร้านเร่งพนักงานให้ฉีดวัคซีนให้ครบ  แต่ ณ วันนี้รัฐก็ยังไม่มีความชัดเจนในการฉีด

                คุณเจตุบัญชา  อำรุงจิตชัย  ผู้ประกอบการ ธุรกิจแฟรนไชส์ ลูกชิ้น-จัง   บอกว่า ธุรกิจลูกชิ้นที่ทำอยู่นั้นถือว่าเป็นกระเป๋าเงินที่สองของแม่ค้าหรือพ่อค้า  ที่เป็นผู้ประกอบการ  เมื่อทุกอย่างหยุดนิ่งไปเป็นปีไม่มีการเดินทาง ไม่มีการซื้อขาย  เป็นเหตุให้ทุกคนได้รับความยากลำบากไปหมด  และที่สำคัญ ณ  วันนี้คนที่ตกงาน  ไม่ว่าเป็นอาชีพแอร์ หรือกัปตันก็มาเป็นผู้ประกอบการเองกันหมด การที่รัฐจะเปิดประเทศอีก 120  วันนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี  แต่รัฐได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนแล้วหรือยัง  เพราะถ้าประชาชนไม่เชื่อมั่น  ก็จะไม่มีการจับจ่ายเงินแน่นอน  แต่ผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระทุกอย่าง  “การเปิดร้านใหม่  ต้องมีการปรับปรุง  เมื่อมีการปรับปรุงก็มีค่าใช้จ่าย ตรงนี้รัฐยังไม่มีการคิดในประเด็นนี้ที่จะช่วยผู้ประกอบการเลย ”  

                คุณวิน สิงห์พัฒนากกุล จากร้าน Chocolate Ville    กล่าวว่า ขอบคุณที่มีการจัดกิจกรรมในวันนี้   เพื่อให้ผู้ประกอบการมาหารือ เสนอทางออกให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลัง หรือ ศบค   จะต้องมองผู้ประกอบการด้วย  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องแหล่งเงินในการช่วยเหลือควรจะจริงจัง “ เพราะว่าถ้าดอกเบี้ยยังเดินอยู่อย่างนี้ผู้ประกอบการก็คงแย่แน่นอน  และที่สำคัญแรงงานและผู้ประกอบการที่ส่งเงินให้ประกันสังคมไป  เงินนั้นไปอยู่ไหน  ทำไม ไม่ช่วยผู้ประกอบกการ “