“เจ้าท่า” ประกาศเตือนชาวเรือ เฝ้าระวังการเดินเรือช่วงฝนตกหนัก คลื่นลมแรง ระดับน้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น

“เจ้าท่า” ประกาศเตือนชาวเรือ

เฝ้าระวังการเดินเรือช่วงฝนตกหนัก

คลื่นลมแรง ระดับน้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น

   กรมเจ้าท่า ออกประกาศกรมเจ้าท่า ที่ 210 / 2567 เรื่อง ให้ระมัดระวังการเดินเรือจากคลื่นลมแรงในทะเล ด้วยประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทยและคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบน ระหว่างวันที่ 27-29 สิงหาคม 2567 ส่งผลให้คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยจะเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง จะมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ประกอบกับกรมเจ้าท่าได้มีประกาศกรมเจ้าท่า ที่ 243/2564 เรื่อง การออกเดินเรือในทะเลตามความเหมาะสมของความยาวเรือและสภาพคลื่นลม

ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยในการเดินเรือ ให้นายเรือและผู้ควบคุมเรือระมัดระวังการเดินเรือ หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คอยติดตามข่าวสารสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด พร้อมขอความร่วมมือเรือเล็กที่มีความยาวเรือน้อยกว่า 10 เมตร บริเวณทะเลอันดามันและเรือเล็กที่มีความยาวเรือน้อยกว่า 7 เมตร บริเวณอ่าวไทย ห้ามออกจากฝั่งไปยังทะเลเปิดในระยะนี้ ในส่วนแม่น้ำเจ้าพระยา ในช่วงนี้มีระดับน้ำที่สูงขึ้นจากมวลน้ำทางภาคเหนือไหลลงมา กรมเจ้าท่าได้ออกประกาศกรมเจ้าท่า ที่ 211 / 2567 เรื่องให้ระมัดระวังการเดินเรือจากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น

โดยกรมชลประทาน ได้ออกประกาศแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำและการบริหารลุ่มน้ำเจ้าพระยา ฉบับที่ 4 แจ้งว่าพบร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังแรงขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 24-30 สิงหาคม 2567 ส่งผลให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น จากปัจจุบันอีกประมาณ 40 – 80 เซนติเมตร ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยในการเดินเรือ กรมเจ้าท่า จึงขอให้ผู้ควบคุมเรือกลลำน้ำ ผู้ควบคุมเรือลากจูง และเรือลำเลียงที่บรรทุกสินค้าในแม่น้ำเจ้าพระยาดำเนินการ ดังนี้

1. การลากจูงเรือลำเลียงที่บรรทุกสินค้าในแม่น้ำเจ้าพระยา ต้องมีเรือดึงท้ายซึ่งมีกำลังของเครื่องจักรไม่น้อยกว่ากำลังเครื่องจักรของเรือลากจูง พร้อมจัดคนประจำเรือควบคุมเรือตลอดเวลา
2. ระมัดระวังการเดินเรือจากปริมาณน้ำที่สูงขึ้น ขณะผ่านช่องลอดสะพาน และจากกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวในระยะนี้
3. ควบคุมเรือด้วยความเร็วที่เหมาะสมและปลอดภัย โดยให้ระมัดระวังประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ
4. ตรวจสอบอุปกรณ์ช่วยการเดินเรือ อุปกรณ์สื่อสาร และอุปกรณ์ความปลอดภัยประจำเรือให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้และใช้การได้ปกติ
5. ปฏิบัติตามประกาศสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค และภูมิภาคสาขาในพื้นที่อย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ หากท่านพบเห็นเหตุการณ์ ไม่ปลอดภัยทางน้ำโทรสายด่วน กรมเจ้าท่า 1199 ตลอด 24 ชั่วโมง