“เจ๊เบียบ”รุกปักธงแลนด์สไลด์ หนุน”ภูมิพัฒน์” ล้มแชมป์ ล้มเผด็จการ ล้มสหายแสง

“เจ๊เบียบ”รุกปักธงแลนด์สไลด์ หนุน”ภูมิพัฒน์” ล้มแชมป์ ล้มเผด็จการ ล้มสหายแสง

“เจ๊เบียบ”รุกปักธงแลนด์สไลด์ หนุน”ภูมิพัฒน์”

ล้มแชมป์ ล้มเผด็จการ ล้มสหายแสง

      เจ๊เบียบ-ระเบียบรัตน์ พงษ์พาณิช ควงสามี เสริมศักดิ์ พงษ์พาณิช อดีต ผวจ.นครพนม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ปักธงแลนด์สไลด์ 4 เขต บุกถิ่นสหายแสง ศุภชัย โพธิ์สุ แม่ทัพภูมิใจไทย หนุน ดร.ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 พรรคเพื่อไทย ประกาศทวงแชมป์ ล้มพรรคร่วมรัฐบาลเดิม

ที่ จ.นครพนม บรรยากาศนับถอยหลังก่อนวันเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ต้องยอมรับว่า นับวัน ยิ่งเข้มข้น ไม่แพ้อีกหลายจังหวัดของภาคอีสาน เนื่องจากพื้นที่ จ.นครพนม มีเพียง 2 พรรคใหญ่ ที่ยังคงมีกระแสนิยมจากฐานคะแนนความเป็นแชมป์เก่า คือ พรรคภูมิใจไทย โดยการนำของ สหายแสง นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 เบอร์ 3 พรรคภูมิใจไทย แชมป์เก่า ที่เคยชนะการเลือกตั้ง ได้ที่นั่ง ส.ส. ไป จำนวน 1 ที่ นั่ง ในเขตเลือกตั้งที่ 1 จากทั้งหมดพื้นที่ 4 เขตเลือกตั้ง ส่วนอีก 3 เขต เป็นพื้นที่ของ พรรคเพื่อไทย ทั้งหมด ทำให้การเลือกตั้ง ครั้งนี้ สหายแสง ประกาศศึก เป็นแม่ทัพของภูมิใจไทย ยอมข้ามเขตจากฐานที่มั่นเดิม คือเขตเลือกตั้งที่ 1 ย้ายมาสมัคร เขตเลือกตั้งที่ 2 ชนกับ ดร.มนพร เจริญศรี ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 เบอร์ 2 แชมป์เก่า 4 สมัย อีกทั้งยังเป็นแกนนำคนสำคัญของพรรคเพื่อไทย ที่มีฐานคะแนนเหนียวแน่นมาทุกสมัย อดีตเคยเป็นรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ทำให้เป็นเป้าหมายสำคัญของสหายแสง  ที่จะข้ามเขตมาชิงตำแหน่ง ส.ส. ในพื้นที่เขต 2 หวังล้มแกนนำคนสำคัญของพรรคเพื่อไทย

ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 1 สหายแสง ได้ส่งภรรยา คือ นางพูนสุข โพธิ์สุ หรือครูตุ่น อดีตข้าราชการครู อดีตรอง นายก อบจ.นครพนม ลงสมัครชิง ส.ส. เขต 1 เบอร์ 5 พรรคภูมิใจไทย ชนกับ ดร.ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 เบอร์ 6 พรรคเพื่อไทย ที่เคยมีตำแหน่งเป็น ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย และเป็นนักธุรกิจดาวรุ่ง  ที่มีชื่อเสียง และเคยเป็น ส.ส. ขวัญใจชาวบ้าน มาก่อน รวมถึงน้องชายยังเคย เป็นอดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านแพง ทำให้มีฐานคะแนนนิยม ไม่แพ้ ครอบครัวสหายแสง

ล่าสุด พรรคเพื่อไทย รุกหาเสียงหนักหวังสร้างแลนด์สไลด์ ทั้งอีสาน รวมถึง จ.นครพนม ส่งแกนนำคนสำคัญ คือ เจ๊เบียบ นางระเบียบรัตน์ พงษ์พาณิช แกนนำครอบครัวเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง เพิ่มเติมคือประกาศตั้งตนเป็นหัวหน้าแก๊งกางเกงแดง พร้อม สามี คือ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พาณิช รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และเคยเป็นอดีต ผวจ.นครพนม ที่เคยมีฐานบารมีเก่า ทำงานพัฒนาร่วมกับพี่น้องประชาชน รวมถึง พ่อค้าคหบดี รวมถึงเคยสร้างฐานการเมืองมาตั้งแต่พรรคความหวังใหม่ จนถึงพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย จึงถือเป็นแกนนำคนสำคัญที่จะมีบทบาทในการเรียกคะแนนนิยมในพื้นที่ จ.นครพนม ทั้ง 4 เขต มากพอสมควร พร้อมปักหลังพื้นที่อีสาน และ จ.นครพนม หนุนผู้สมัคร สร้างแลนด์สไลด์

โดยเฉพาะเขตเลือกตั้งที่ 1 มี อ.บ้านแพง อ.นาหว้า อ.นาทม และ อ.ศรีสงคราม ฐานที่มั่นของ สหายแสง นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 เบอร์ 3 พรรคภูมิใจไทย แชมป์เก่า หลังสหายแสง ย้ายข้ามเขต ลงสมัครเลือกตั้งเขต 2 ส่งเมีย คือ  นางพูนสุข โพธิ์สุ หรือครูตุ่น อดีตข้าราชการครู อดีตรอง นายก อบจ.นครพนม ลงสมัครชิง ส.ส. เขต 1 เบอร์ 5 พรรคภูมิใจไทย ลงแทน ทำให้พรรคเพื่อไทย ต้องหาเสียงเชิงรุกไม่แพ้เขตเลือกตั้ง อีก 3 เขต

ทั้งนี้ ทาง เจ๊เบียบ นางระเบียบรัตน์ พงษ์พาณิช แกนนำครอบครัวเพื่อไทย ได้ควงสามี คือ นายเสริทศักดิ์ พงษ์พาณิช รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และแกนนำครอบครัวเพื่อไทย รวมถึง ดร.ภูมิพัฒน์  พชรทรัพย์ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 เบอร์ 6 พรรคเพื่อไทย นายสมนาม เหล่าเกียรติ ผ็สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่พบปะชาวบ้านเชิงรุก ในพื้นที่ อ.ศรีสงคราม อ.นาหว้า อ.นาทม และ อ.บ้านแพง วันต่อวัน เพื่อชูนโยบาย แนะนำผู้สมัคร พร้อมประกาศจุดยืน ปลุกระดมพี่น้องประชาชน คนรักประชาธิปไตย หันมาเลือกพรรคเพื่อไทย พร้อมระบุว่า 8 ปี ที่ผ่านมาเป็นบทพิสูจน์แล้วว่า รัฐบาลที่มาจากเผด็จการไม่สามารถที่จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ความเป็นอยู่ของประชาชนได้ ในการเลือกตั้ง ครั้งนี้จะต้องร่วมกันเทคะแนนให้พรรคเพื่อไทย สร้างแลนด์สไลด์ ทั้งอีสานรวมถึง จ.นครพนม เพื่อตัดอำนาจ สว. 250 เสียง ที่มาจากขั้วเผด็จการ และพรรคเพื่อไทย จะต้องเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และเน้นย้ำให้พี่น้องประชาชน ออกมาใช้สิทธิ์ให้มากที่สุด เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นครั้งประวัติศาสตร์ ที่สำคัญ จะต้องร่วมกันตัดอำนาจฝ่ายเผด็จการ และไม่เอาพรรคที่สนับสนุนฝ่ายเผด็จการ เพื่อได้นายกรัฐมนตรี มาจากการเลือกโหวตตามระบอบประชาธิปไตย และมาจากเสียงที่ได้จากการสนับสนุนของพี่น้องประชาชน เพราะหากไม่ชนะการเลือกตั้ง ประเทศไทยจะต้องกลับไปสู่ระบอบเผด็จการเหมือน 8 ปีที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน ต้องยอมรับว่า การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งนี้ ทั้ง 4 เขต ของ จ.นครพนม จะเป็นการวัดบารมีระหว่างพรรคฝ่ายประชาธิปไตย ที่มีฐานเสียงเดิม คือ พรรคเพื่อไทย กับ พรรคภูมิใจไทย ที่ให้การสนับสนุนฝ่ายเผด็จการ โดยเฉพาะการเลือกตั้ง ครั้งนี้ พี่น้องประชาชน ให้ฉายาว่า เป็นศึกวัดบารมีระหว่างครอบครัว เพื่อไทย กับ ครอบครัว โพธิ์สุ เนื่อง จาก สหายแสง มีการข้ามเขตไปลงสมัคร ส.ส. จากพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 1 ไปเขตเลือกตั้งที่ 2 เพื่อล้มแชมป์ พร้อมส่งภรรยา ลงชิงพื้นที่ ส.ส. เขต 1 แทน  อีกทั้งยัง มีการเสริมทัพ นำ นายแพทย์ อลงกต มณีกาศ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 3 เบอร์ 4 พรรคภูมิใจไทย ชนกับ ดร.ไพจิต ศรีวรขาน ผู้สมัคร ส.ส. เขต 3 นครพนม เบอร์ 2 พรรคเพื่อไทย

ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 4 สหายแสง ส่ง นายชูกัน กุลวงษา ผู้สมัคร ส.ส. เขต 4 นครพนม เบอร์ 8 พรรคภูมิใจไทย ชนกับ ทนายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์  ผู้สมัคร ส.ส. เขต 4 นครพนม เบอร์ 4 พรรคเพื่อไทย นอกจากนี้ สหายแสง ยัง มีฐานคะแนนจากลูกสาว คือ นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ หรือนายกขวัญ นายก อบจ.นครพนม ที่ดูแลฐานคะแนน สจ. ทั้ง 12 อำเภอ ที่จะมีส่วนช่วยสนับสนุนในการเลือกตั้ง  โดยการเลือกตั้งครั้งนี้ ถือว่าเป็นการชี้อนาคตการเมืองทั้ง 2 พรรคใหญ่ หากใครชนะการเลือกตั้ง เชื่อว่าจะครองแชมป์ไปอีกหลายสมัย และยากที่จะมีพรรคกามรเมืองอื่นมาล้มฐานที่มั่นได้

You may also like

4NOLOGUE ผนึก Poriin เล่นใหญ่ ปล่อยคอนเสิร์ตแห่งปี “FROSTY VILLAGE” ชวนแฟนๆจอยปาร์ตี้สนุกสุดขั้ว  

4NOLOGUE