เชื่อสหรัฐฯ ชัตดาวน์ไม่กระทบไทย
สภาวะการปิดหน่วยงานรัฐบาลของสหรัฐฯ หรือ “โกฟเวอร์เมนต์ ชัตดาวน์” ที่เกิดขึ้นเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน หลังวุฒิสภาสหรัฐฯ ไม่สามารถรวบรวมคะแนนเสียงเพียงพอจะผลักดันร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวให้ผ่านความเห็นชอบ เพื่อให้รัฐบาลกลางสหรัฐฯ มีงบประมาณดำเนินงานได้ จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจไทยหรือไม่? อย่างไร? โดยเฉพาะการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ที่แต่ละปีมีสูงราว 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเฉียดๆ 1 ล้านล้านบาท
ล่าสุด นายสนธิรัตน์ สนธิวิรวงศ์ รมว.กระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเกาะติดสถานการณ์นี้ อย่างไรก็ดี เขาประเมินว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยมากนักเนื่องจากหน่วยงานต่างๆ ของสหรัฐฯ ยังคงทำงานอย่างต่อเนื่อง อาทิ หน่วยงานด้านความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ตรวจคนเข้าเมือง ศุลกากร งานบริการด้านกงศุลและสถานทูตสหรัฐฯ ในต่างแดน ฯลฯ
"เชื่อว่าสถานการณ์ชัตดาวน์นี้จะเกิดขึ้นไม่นาน และคงไม่ส่งผลกระทบมากนักต่อการค้าระหว่างประเทศ กระนั้น ก็อาจมีบ้างที่จะทำให้เกิดความล่าช้าในการประสานงานกับหน่วยงานบางแห่งของสหรัฐฯ และอาจมีการชะลอการนำเข้าสินค้าจากไทย รวมถึงการที่นักลงทุน นักธุรกิจและผู้บริโภคสหรัฐฯ อาจลดปริมาณการใช้จ่ายลงบ้าง" นายสนธิรัตน์ ย้ำ
สำหรับปัญหาภายในของสหรัฐฯ รอบนี้ ทีมข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าว ThaiBCC.news เห็นตรงกับที่นักวิเคราะห์ต่างประเทศหลายคนมองคล้ายๆ กันว่า แม้สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จะโหวตชนะด้วยคะแนนเสียง 230 ต่อ 197 อนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเมื่อคืนวันที่ 18 ม.ค.ตามเวลาสหรัฐฯ ก่อนที่จะส่งให้วุฒิสภาพิจารณาในวันรุ่งขึ้น แต่สุดท้ายสมาชิกวุฒิสภาจาก 2 พรรคใหญ่ “พรรคเดโมแครต” และ “พรรครีพับลิกัน” กลับเลือกที่จะคัดค้านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวฉบับนี้ อันเป็นการฉลองครบรอบ 1 ปีของการบริหารประเทศของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
อนึ่ง การชัตดาวน์ครั้งหลังสุดเกิดขึ้นเมื่อปี 2556 ซึ่งส่งผลให้มีการปิดหน่วยงานของรัฐบาลเป็นเวลา 17 วัน ส่วนครั้งนี้ ยังไม่มีการระบุตัวเลขที่แน่นอน แต่ทุกฝ่ายก็เชื่อว่าคงใช้เวลาไม่นานนัก และทุกอย่างจะผ่านพ้นไปด้วยดี
ทีมข่าวเศรษฐกิจ
สำนักข่าว ThaiBCC.news
Social Links