เมืองไทยยังไม่ถึงยุครถยนต์ไฟฟ้า?
เห็นหลากหลายโรงงานอุตสาหกรรมทั้งเล็กและใหญ่ ที่นักลงทุนต่างชาติ “ทิ้งไทย” ก็ได้แต่สะท้อนใจ! เรื่องพรรค์นี้…หากเป็นรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง แล้วสร้างเหตุให้ต่างชาติ “ถอนทุน” ออกจากเมืองไทย…คงอยู่กันยากแน่!!!
“ทีมข่าวเศรษฐกิจ” สำนักข่าว ThaiBCC.news เคยคิดว่า…ยานยนต์ไฟฟ้า คงจะเน้นกันที่รถเล็ก ประเภท “ซิตี้คาร์” แต่กับรถบรรทุกขนาดกลางขึ้นไป ซึ่งต้องใช้กำลังส่งสูงๆ จำเป็นต้องใช้เครื่องยนต์ที่บริโภคน้ำมันต่อไป แต่ที่ไหนได้…กลุ่มเทสลา จากสหรัฐอเมริกา กลับโชว์สุดยอดเทคโนโลยี สร้าง “รถหัวลากไฟฟ้า” ขนาดใหญ่ยักษ์ ออกมาอวดให้ชาวโลกให้มั่นใจในเทคโนโลยีแห่งอนาคตของพวกเขา ทำเอากระแส “ต่อต้าน” ยานยนต์ไฟฟ้าในไทย แรงขึ้นเป็นลำดับ
ตรงนี้ พอเข้าใจได้ นั่นเพราะกลุ่มทุนต่างชาติ ทั้งจากญี่ปุ่น ยุโรป สหรัฐอเมริกา และจากจีน ต่างทุ่มเงินจำนวนหลักหลายหมื่นล้านจนถึงระดับแสนล้านเพื่อสร้างโรงงานผลิตและประกอบรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ ครั้นจู่ๆ ถ้ารัฐบาลไทยจะเปิดกว้างให้โรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าเกิดขึ้นง่ายๆ แน่นอนว่า…โรงงานรถยนต์เดิมๆ คงต้องฉิบหายวายป่วงแน่ๆ
อาการ “ดีเลย์” กับนโยบายผ่อนปรนให้ยานยนต์ไฟฟ้าได้เกิดขึ้นในเมืองไทย…ตามกระแสโลก จึงยังต้องมีให้เห็น อย่างน้อยก็รอให้โรงงานรถยนต์ต่างชาติได้ปรับฐานตัวเองเสียใหม่ซะก่อน
คลิปที่คนไทยได้เห็น ทำนอง…เมืองไทยยังไม่ควร “ข้ามขั้น” ไปสู่ยุคของยานยนต์ไฟฟ้า แต่ควรจะพัฒนาเป็นลำดับขั้นไป กล่าวคือ เมื่อต้องเปลี่ยนจากรถยนต์ ยุคเครื่องยนต์บริโภคน้ำมัน ก็ต้องเข้าสู่ยุค “รถยนต์ไฮบริดจ์” กันเสียก่อน เป็นไปสัก 5-6 ปีค่อยอนุญาตให้คนไทยได้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ
หลายคนสงสัย? เมืองไทย…ฝืนกระแสโลกได้หรือ?
ได้…ไม่ได้! ไม่รู้? แต่หากเมืองไทย ไม่มีสถานีชาร์จแบตเตอรี่อย่างเพียงพอ หรือภาครัฐ ไม่ออกป้ายทะเบียนรถยนต์ให้กับยานยนต์ไฟฟ้า หรือคิดอัตราภาษีแพง ตั้งแต่ผู้ผลิต ยันผู้ใช้ล่ะก็ ถามหน่อย…คนไทยยังอยากจะใช้กันอยู่อีกหรือไม่?
ล่าสุด หากใครได้เห็น “วิสัยทัศน์” ของคนระดับ “ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม” ก็คงพอจะมองเห็นทิศทางแห่งอนาคตของยานยนต์ไฟฟ้ากันแล้วว่า…ปีหน้าและปีโน้น เราคนไทย…ควรจะซื้อหายานยนต์ไฟฟ้ากันไว้หรือไม่? อย่างไร?
นั่นเพราะ นายพสุ โลหารชุน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ออกมาบอกเองว่า…แม้โลกจะเข้าสู่ยุคของการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยียานยนต์ โดยทิศทางอุตสาหกรรมยานยนต์โลกจะมุ่งสู่รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ได้แก่ รถไฟฟ้าไฮบริด รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดปลั๊กอิน รถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ และรถยนต์ไฟฟ้าแบบเซลล์เชื้อเพลิง ก็ตาม
แต่ดูเหมือนว่า นโยบายและมาตรการส่งเสริมการลงทุน ตลอดจนการสร้างสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องนั้น รัฐบาลไทยจะ “โฟกัส” ไปยังกลุ่ม…รถไฟฟ้าไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดปลั๊กอิน เสียมากกว่า
นั่นก็หมายความว่า…ยุคของยานยนต์ไฟฟ้าในเมืองไทย อาจต้อง “ล่าช้า” ไปกว่านานาประเทศ อย่างน้อยก็คงราวๆ 5-6 ปีนั่นเอง
“ทีมข่าวเศรษฐกิจ”
สำนักข่าว ThaiBCC.news
Social Links