“เรือเหล็ก” ยุค “ตู่ 2” จะฝ่าคลื่นมรสุมได้นานแค่ไหน!

"เรือเหล็ก" ยุค "ตู่ 2" จะฝ่าคลื่นมรสุมได้นานแค่ไหน!

นายจักรยาน

          รายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของ "ลุงตู่" ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนครี ภาค 2 ได้มีพระราชโองการประกาศแต่งตั้งออกมาเรียบร้อยแล้ว

          จะเป็นไปตามโผที่ลือออกมาก่อนนั้น  ก็รู้กันทั่วประเทศแล้วว่าใครเป็นใครเช่นกัน!!

ส่วนทีมรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายเศรษฐกิจ  และฝ่ายกฎหมาย ก็หน้าเดิมไม่เปลี่ยนให้เซอร์ไพร้ประการใด

          มีรองนายกรัฐมนตรีคนใหม่จากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  และพรรคภูมิใจไทย มาควบอีกหนึ่งเก้าอี้ตามประเพณีวัฒนธรรมของพรรคการเมืองที่มีคะแนนเสียงค่อนข้างมากเข้ามาร่วมรัฐบาล

          ส่วนพรรคการเมืองที่่มีคะแนนเสียงน้อย  ก็ได้เป็นแค่รัฐมนตรีนั่งบริหารกระทรวงเกรดบี!!

          สำหรับพรรคการเมืองขนาดจิ๋วที่เสียงสองเสียง ก็คงได้นั่งเก้าอี้เป็นข้าราชการการเมืองในตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งเป็นการตอบแทน

          โผ ครม."ลุงตู่ 2" มีพลิกเล็กน้อยจากกระแสโผล่าสุด  โดยโยก ร.อ.ธรรมนัส  พรหมเผ่า  จากพรรคพลังประชารัฐ ผู้ประสานของพรรคระดับพรีเมียม จากโผล่าสุดจะเป็นนั่งเก้าอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน โดนโยกสลับไปเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตและสหกรณ์

          ส่วน "หม่อมเต่า" ม.ร.ว.จัตุมงคล  โสณกุล  หัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่ว่าตามโผสุดท้ายว่าจะได้เป็น "รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี"  ก็แต่งตั้งให้เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

          เป็นที่น่าสังเกตุว่า โผรัฐมนตรีในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงนับต้้งแต่โผแรกเป็นมา  โดยมีนายเฉลิมชัย  ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ นั่งเก้าอี้เจ้ากระทรวง

          โดยมี นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ จากพรรคภูมิใจไทย และนายประภัตร โพธสุธน  เป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

          ทว่าโผท้ายสุดที่มีการประกาศแต่งตั้งออกมา ได้เพิ่มเติมคนของพรรคพลังประชารัฐ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า มาเป็นรัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์

          รวมรัฐมนตรีช่วย ฯ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แล้วมีถึง 3 คนมากกว่ารัฐมนตรีช่วยกระทรวงอื่น ๆ ที่มีเพียง 2 คน

          ดังนั้น  กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงเป็นกระทรวงสำคัญของพรรคร่วมรัฐบาลที่ต้องมีรัฐมนตรีของพรรคตัวเอง โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐ แกนนนำรัฐบาลก็ต้องมี เพื่อเกิดความเท่าเทียมกันไม่ให้มีการได้เปรียบเสียเปรียบในการหาคะแนนเสียงจากเกษตรกรทั่วประเทศ??

          รัฐบาลเรือเหล็ก "ประยุทธ 2" ที่กำลังจะเดินหน้าบริหารชาติบ้านเมืองไม่ใช่ว่าจะเดินไปได้อย่างสบาย ๆ เหมือน "ประยุทธ์ 1" เพราะต้องฝ่าคลื่นลมมรสุมจาก "พรรคฝ่ายค้าน"  นับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป

          โดยเฉพาะวันแถลงนโยบายของรัฐบาลประมาณปลายเดือน กรกฎาคมนี้  ขออนุญาต ฟันธงได้เลยว่า "ฝ่ายค้าน" จะอภิปรายโจมตีดีสเครดิตรัฐนาวาเหล็กด้วยวาทะกรรมเท่ ๆ ที่ฟังดูแล้วไม่น่าจะทำให้ "ประยุทธ์ 2" ปลื้มใจเท่าไหร่

          แม้ว่า "ลุงตู่" จะออกปากขอร้อง "ฝ่ายค้าน" อย่าเพิ่มล้มรัฐบาล  ร่วมมือกันทำงานเพื่อประเทศชาติให้เดินไปข้างหน้าตามระบอบประชาธิปไตย

          อ๊ะ  อ๊ะ  แต่เชื่อว่า  "ฝ่ายค้าน"คงไม่ฟังคำอ้อนจาก "ลุงตู่" แน่นอน ต้องหาโอกาสเขย่าขย่ม "เรือเหล็ก" ให้อัปปาง ซึ่งก็เป็นวิถีทางประชาธิปไตยเช่นกัน  เป็นเกมที่ห้ามกันไม่ได้!!

          "เรือเหล็กตู่ 2" จะใช้เวลานานในการจัดโผรัฐมนตรีนับตั้งแต่วันเลือกตั้้ง 24 มีนาคม 2562 จนถึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้ง ครม. ประกาศในราชกิจจานุเบิกษาเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2562 สิริรวมแล้ว 108 วัน ทำลายสถิติการแต่งตั้ง ครม.จากการเลือกตั้งในอดีต

          แต่มิใช่ว่าการฟอร์มรัฐบาจะใช้เวลานาน   จะทำให้ "รัฐนาวาเหล็กตู่ 2" จะสามารถบริหารราชการแผ่นดินได้นาน ๆ ไปจนถึงคบเทอม

          เพราะรัฐบาลที่มาจากการเลือกต้ัง  มีฝ่ายค้านคอยขย่่่้ำทุกเวลาถ้ามีจังหวะและโอกาส  ไม่ใช่รัฐบาลจากการลากตั้งของ "ลุงตู่" ที่เป็นหนังคนละม้วน!!

          ด้วยเหตุฉะนี้  "ลุงตู่" อย่าได้ประมาท "เรือเหล็ก" ที่เกิดสนิมภายในได้ตลอดเวลา!!