เรื่องร้ายๆของ "ไวรัสโควิด-19" ทำให้รู้เรื่อง "โง่" และ "ฉลาด"!!
นายจักรยาน
สถานการณ์ไวรัสมหาประลัย "โควิด-19" ยังอาละวาดไม่หยุดหย่อนไปทั้่วทั้งโลก!!
ที่นี่ประเทศไทย "เจ้าไวรัสตัวร้าย" ในยุคที่โลกก้าวสู่ 5 จี ก็ได้พ่นพิษให้มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแบบก้าวกระโดด วันละ 30-50 คน และอาจพุ่งทะลุถึงวันละ 100 คนก็ได้ จากที่เคยพบผู้ติดเชื้อเพียงวันละไม่ถึง 10 คน
คำสั่งของ "ลุงตู่" ที่ให้ปิดสถานที่ต่าง ๆ ที่มีคนมาชุมนุมกันมาก และให้งดจัดกิจกรรมที่มีคนมารวมตัวกันมาก เป็นเวลา 14 วันตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม จนถึง 31 มีนาคม 2563
พร้อมทั้งขอร้องให้ประชาชนอย่าเดินทางไปจังหวัดต่าง ๆ อยู่ที่บ้านเป็นดีที่สุด ไปซื้ออาหารที่ตลาดก็ให้นำมากินที่บ้าน ที่สำคัญล้างมือบ่อย ๆ พกเจลล้่างมือตลอด
สถานการณ์ในช่วงเวลานี้ประชาชนทุกคนต้องอดทน เสียสละ ให้ความร่วมมือกับกฎกติกาต่าง ๆ ที่ออกมาจากรัฐ เพื่อช่วยกันสกัดกั้นไม่ให้ "ไวรัสมัจจุราช" ระบาดหนักเพิ่มมากยิ่ง ๆ ขึ้น
ประชาชนคนไทยทุกคนจะปลอดจากโรคมรณะนี้ ก็ควรประพฤติปฏิบัติตามภาพที่มีการแพร่ทางโซเซียลมีเดียของบุคคลากรทางแพทย์ที่ถือกระดาษมีข้อความว่า"พวกเราอยู่โรงพยาบาลเพื่อช่วยคุณ คุณโปรดอยู่บ้าน เพื่อช่วยพวกเรา"
แม้ว่า "ไวรัสหฤโหด" ที่ทุกประเทศพยายามหยุดไม่ให้ "ล้างโลก" ต่อมนุษยชาติ แต่ทว่า "การเมืองไทย" ดูเหมือนว่าจะทำให้มนุษย์คนไทยติดเขื้อร้ายกันทุกหย่อมหญ้า
โดยเฉพาะ "ฝ่ายค้าน" เล่นบทไม่สนโลกว่ากำลังผจญภัยร้ายแรงอย่างไรบ้าง พยายามยั่วยุให้รัฐบาลเป็นผู้เปิดประชุมสภาฯ วิสามัญ ให้เหตุผลดีน่าเคารพว่า ส.ส. ต้องการมาชุมนุมกัน เพื่อถกหารือในการช่วยแก้ปัญหาช่วยเหลือชาติบ้านเมืองและประชาชน
เนื่องด้่วยฝ่ายค้านรู้ตัวว่าเสียงของพวกตนเอง ไม่สามารถที่ลงชื่อขอเปิดประชุมสภา ฯ วิสามัญได้ เนื่องด้วย ส.ส.พรรครัฐบาล และ ส.ว.ไม่มีการแสดงท่าทีกระตือรือล้นว่าต้องการเปิด
อ้อ.. เกือบลืมไปว่ามี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จำนวนหนึ่งที่ออกมาพูดว่าจะร่วมลงชื่อเปิดสภา ฯ วิสามัญด้วย ที่ต้องมีความเห็นตามสูตรว่าเป็นความเห็นต่างของประชาธิไตย บังคับห้ามกันไม่ได้
และก็มีเสียงฝ่ายค้านบางฝ่ายขอให้รีบ "ปิดเมือง" ย้อนแย้งกับที่ขอให้ "เปิดสภา ฯ วิสามัญ" ก็ว่ากันไปตามประสาการเมืองเรื่องที่ต้องทำให้ยุ่งกันเข้าไว้
เรื่อง "ปิดประเทศ" ตามข้อเสนอของบางคนบางกลุ่มว่า "เจ็บแต่จบ" นั้น ยังไม่มีอะไรแน่นอนในขณะนี้ ดีไม่ดีเดือนเมษายน 2563 อาจจะมีการใช้มาตราการ "ปิดประเทศ" ถ้าเอาไม่อยู่
แต่ถ้าเอาอยู่ได้บ้าง ก็อาจจะ"ปิด" แบบเดิมต่อไปอีกตลอดเดือนเมษายน
ระหว่างที่รอว่า "ลุงตู่" จะปิดประเทศหรือไม่ มีการแชร์ข้อความทางโซเซียลมีเดียให้ได้ตระหนักในเรื่องการปฏิบัติตนเพื่ความปลอดภัยถอยห่างจากเชื้อไวรัสหฤโหดดังนี้
"เราจะรอรัฐบาลประกาศปิดทำไม เราปิดบ้าน ปิดตัวเอง ป้องกันตัวเองให้ปลอดภัย ประโยชน์ก็ได้กับเรา คนที่ป่วยส่วนมากก็เป็นคนออกเที่ยวทั้งนั้น ป้องกันตนเองดีที่สุด ไม่ต้องรอให้คนสั่ง เราปัญญาชนแล้ว"
ใครที่ได้รับการแชร์ข้อความดังกล่าวแล้วเห็นด้วยทำตามก็จะดีอย่างยิ่ง ถ้าใครไม่เห็นด้วยก็ตามใจ!!
มีคำแนะนำจากคณะแพทย์ที่ต่อสู้กับ "ไวรัสล้างโลก" ว่าคนในสังคมควรที่ปฏิบัติ Social Distancing คือต้องมีระยะห่างจากบุคคลอื่น 2 เมตร
มีสโลแกนใหม่ของ "เสี่ยหนู" นายอนุทิน ชาญวีรกุล รมว.สาธารณสุข ในการป้องกันตนเองให้ห่างการติดเชื้อมัจจุราชว่า "กินร้อน ช้อนกู ต่างคนต่างอยู่ ห่างกู 2 เมตร"
แต่ก็แปลกดีนะ ที่ "ฝ่ายค้าน" ไม่เข้าใจหรือแกล้งโง่อย่างไรก็ไม่ทราบได้ที่พยายามให้มีการเปิดสภา ฯ สมัยวิสามัญ เพื่อให้ ส.ส.ผู้ทรงเกียรติมานั่งแออัดกันในห้องประชุมสภา
หรือถ้าปฏิบัติตามวิธี Social Distancing ท่านผู้ทรงเกียรติของไทยเราก็ต้องนั่งทิ้งระยะห่างกัน 2 เมตร ส.ส.ที่่เข้ามาร่วมประชุมก็ไม่สามารถนั่งในห้องประชุมกันครบทุกคน
ส.ส.ที่ไม่ได้อภิปรายอาจใส่แมสก์ทุกคึน แต่ต้องยืนอยู่ห่าง ๆ ภายในห้องประชุม หรือไม่ก็อยู่นอกห้องประชุมแบบกระจัดกระจายไม่ให้ใกล้่ชิด ก็คงเป็นภาพที่ชุลมุนบรรยายไม่ถูกแน่
ทว่าก็ต้องระวังน้ำลายที่อาจจะกระเด็นออกจากแมสก์ที่สวมปากอยู่ของ "ฝ่ายค้าน" ไปถูกคนกันเองในห้องประชุมให้ผวาการติดเชื้อได้ ส.ส.ประเทศไทยก็จะได้รับเกียรติบันทึกว่ามีการติดเชื้อ "ไวรัสโควิด-09" มากกว่าหลายประเทศในโลก
อ๊ะ อ๊ะ..!! จากกระแสจากหลาย ๆ ฝ่ายได้ยินมาทั้งสองรูหูในเรื่องการเปิดประชุมสภา ฯ สมัยสามัญเห็นพ้องต้องกันไม่ยินดีต้อนรับ ก็ทำให้เรา ๆ ท่าน ๆ โล่งอกด้วยความสบายใจ
จากปัญหาไวรัสมห้นตภัยที่ทำให้คนไทยสะดุ้งสะเทือนไปทั่วบ้านทั่วเมืองนั้น ก็ส่งผลให้ประชาชนรู้เรื่อง "ไง่" และ "ฉลาด" ทางการเมืองในสถานการณ์วิกฤติยามนี้
ก็ต้องขอบคุณเจ้าตัวร้ายไวรัส ที่มีเรื่องดี ๆ ให้ฉุกคิดได้??
Social Links