“เอ็กซ์เอจี” ส่งโดรนช่วยเกษตรกรกัมพูชา เพาะปลูกมันสำปะหลังอย่างยั่งยืน

“เอ็กซ์เอจี” ส่งโดรนช่วยเกษตรกรกัมพูชา เพาะปลูกมันสำปะหลังอย่างยั่งยืน

"เอ็กซ์เอจี" ส่งโดรนช่วยเกษตรกรกัมพูชา

เพาะปลูกมันสำปะหลังอย่างยั่งยืน

            กัมพูชาได้มีโอกาสรู้จักเทคโนโลยีโดรนเพื่อใช้ในการเพาะปลูกมันสำปะหลังเมื่อไม่นานมานี้ เพื่อช่วยให้เกษตรกรรายเล็ก ๆ ได้ผลผลิตมากขึ้น พร้อมลดต้นทุนของปัจจัยการผลิตในคราวเดียวกัน มันสำปะหลังเป็นผลผลิตทางอุตสาหกรรมเกษตรที่สำคัญที่สุดของกัมพูชา โดยช่วยสร้างงานและความเป็นอยู่ที่ดีให้กับชาวชนบทหลายพันราย เอ็กซ์เอจี (XAG) จึงขอสนับสนุนนโยบายมันสำปะหลังแห่งชาตินี้ โดยมอบพลังขับเคลื่อนใหม่ให้กับภาคการเกษตร ด้วยโดรนงานเกษตรที่ใช้น้ำและสารเคมีน้อยลง พร้อมลดภาระในการทำงานที่ฟาร์ม

ความคืบหน้าครั้งใหญ่ในการผลิต

                กัมพูชามีการเพาะปลูกมันสำปะหลังครอบคลุมพื้นที่กว่า 6 แสนเฮกตาร์ คิดเป็นพื้นที่เพาะปลูกที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองรองจากนาข้าว และคิดเป็น 4% ในการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) อย่างไรก็ดี การปลูกมันสำปะหลังเป็นเรื่องที่ต้องใช้ทั้งแรงและเวลา ขณะที่เกษตรกรชาวกัมพูชาก็ได้เร่งขยายพื้นที่เพาะปลูก และเริ่มนำโดรนงานเกษตรของเอ็กซ์เอจีมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต เพื่อรองรับกระแสความต้องการผลิตภัณฑ์จากมันสำปะหลังที่เป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งอาหาร แป้ง กระดาษ และแอลกอฮอล์

                จาย ที (Chhay Thi) เป็นคนแรก ๆ ที่นำโดรนพ่นยามาใช้ เขาเป็นเจ้าของที่ดิน 20 เฮกตาร์ที่อำเภอวารินในจังหวัดเสียมเรียบของกัมพูชา โดยเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เขาได้ติดต่อพันธมิตรของเอ็กซ์เอจีในกัมพูชาอย่างเรด สปาร์โรว์ แคมโบเดีย (Red Sparrow Cambodia) และมีโอกาสเห็นการทำงานของโดรนงานเกษตรจากเอ็กซ์เอจี ในการปราบวัชพืชบนแปลงปลูกมันสำปะหลังขนาด 10 เฮกตาร์ที่เขาเป็นเจ้าของ

                โดรนต่างจากเครื่องจักรงานเกษตรขนาดใหญ่ เพราะพกพาได้สะดวก และนำไปใช้ในพื้นที่ได้ง่ายกว่ามาก ซึ่งเมื่อเติมยากำจัดวัชพืชลงถังแล้ว โดรนงานเกษตรของเอ็กซ์เอจีก็จะบินออกอย่างอัตโนมัติ โดยผู้ควบคุมเพียงคลิกบนแอปมือถือไม่กี่ครั้ง

                โดรนได้บินผ่านแนวต้นมันสำปะหลัง และได้พ่นยาตามเส้นทางที่กำหนดไว้ก่อนแล้วอย่างแม่นยำ จนพ่นยากำจัดวัชพืชแบบไม่มีคนควบคุมครบ 8 เฮกตาร์ ซึ่งในอดีตนั้น งานในระดับเดียวกันนี้ใช้แรงคนกว่าหนึ่งสัปดาห์กว่าจะเสร็จเรียบร้อย แต่วันนี้เพียงชั่วโมงเดียวก็เสร็จแล้ว เพียงใช้โดรนงานเกษตรตัวเดียวเท่านั้น

                แม้ภาคการเกษตรยังคงมีแรงงานเพียงพอ แต่เจ้าของฟาร์มก็เผชิญกับปัญหาต้นทุนสูงแตะหลัก 18-25 ดอลลาร์ต่อเฮกตาร์เมื่อต้องจ้างคนงานพ่นยา โดยคนงานหนึ่งกลุ่มพ่นยาได้เพียงวันละ 1 เฮกตาร์เท่านั้น ซึ่งอาจทำให้ปลูกไม่ทันรับกับช่วงมันสำปะหลังโต

ตัวเลือกที่ปลอดภัยกว่าในการรับมือต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้น

                นอกเหนือจากประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นแล้ว โดรนยังช่วยเกษตรกรอย่างคุณจาย ที ในการลดต้นทุนการปลูกโดยรวมด้วย โดยคุณจาย ที ซึ่งรับชมการทำงานของโดรนพ่นยาตั้งแต่ต้นจนจบ กล่าวว่า "หากผมมีโดรนเอ็กซ์เอจีช่วยปกป้องพืชในช่วงที่ต้นเติบโตแล้ว ผมก็น่าจะประหยัดเงินได้ถึง 8-10 ดอลลาร์ต่อเฮกตาร์ ซึ่งเป็นเงินจำนวนเดียวกับที่เคยใช้จ้างคนงานพ่นยาเอง การใช้โดรนยังลดสารเคมีที่ใช้ลงได้ 10-30% ด้วย เพื่อนำทรัพยากรและเงินที่ประหยัดได้ไปใช้กับการเพาะปลูกพืชอื่น ๆ แทน"

                โดรนงานเกษตรนี้ยังมีคุณประโยชน์อื่น ๆ อีกด้วย ทั้งการลดความแตกต่างของผลผลิตและปกป้องเกษตรกรจากสารเคมี การที่โดรนพ่นยาจากบนลงล่างยังช่วยไม่ให้เครื่องจักรขนาดใหญ่ต้องสัมผัสกับมันสำปะหลังโดยตรง ทำให้มั่นใจได้ว่าย่าฆ่าแมลงหรือปุ๋ยจะแทรกลงพืชที่ปลูกได้อย่างแม่นยำและไม่เสียหาย

                ต้นมันสำปะหลังโตจนสูงเกินหนึ่งเมตรได้ และบางครั้งอาจสูงกว่าคนด้วย แต่การพ่นยาแบบทั่วไปทำให้เกษตรกรต้องแบกถังพ่นยาสะพายหลังหรือไม่ก็ขับแทรกเตอร์เข้าพื้นที่ปลูก โดยโดรนกำจัดความเสี่ยงต่อสุขภาพจากการสูดดมสารเคมีจนร่างกายเป็นพิษได้ ไม่ต้องส่งเกษตรกรทำหน้าที่ในพื้นที่เพาะปลูกจริง ๆ

                ในบ้านเกิดของคุณจาย ที นั้น ชาวบ้านหลายคนเพาะปลูกมันสำปะหลังเพื่อสร้างรายได้เลี้ยงดูตนเอง โดยเขากล่าวว่า "ผมเชื่อว่า ประสิทธิภาพและความคุ้มค่าจะเร่งให้เกษตรกรหันมาใช้โดรนมากขึ้น โดรนงานเกษตรของเอ็กซ์เอจีไม่ได้ทำให้ผมได้ผลผลิตมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้เกษตรกรรายอื่น ๆ ได้ตักตวงประโยชน์จากความนิยมมันสำปะหลังด้วย"

                การผลิต แปรรูป และส่งออกมันสำปะหลัง เป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจการเกษตรของกัมพูชา โดยนโยบายมันสำปะหลังแห่งชาติประจำปี 2563-2568 ของรัฐบาลกัมพูชาระบุว่า กัมพูชาพร้อมเป็นแหล่งรวมอุตสาหกรรมผลิตและแปรรูปมันสำปะหลัง และก้าวเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังที่เชื่อถือได้สำหรับตลาดระดับภูมิภาคและระดับโลก

            ทั้งนี้ เทคโนโลยีโดรนได้แสดงให้เห็นข้อได้เปรียบมากมายในการทำการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มผลผลิต ลดการใช้ย่าฆ่าแมลง ไปจนถึงปกป้องความเป็นอยู่ของผู้ที่ทำงานในชนบท โดยเอ็กซ์เอจีหวังว่าผู้เพาะปลูกมันสำปะหลังในกัมพูชา ซึ่งเป็นประเทศที่ปลูกมันสำปะหลังมากเป็นอันดับ 10 ของโลกและยังมีแผนยกระดับขึ้นเรื่อย ๆ จะหันมาใช้โดรนงานเกษตรมากขึ้น และกอบโกยผลกำไรได้มากกว่าและยั่งยืน

You may also like

แนวโน้มอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ไทย

ยอดขายขอ