“แพลทินัม”ฉลอง18 ปี รุกแคมเปญแบรนดิ้งครั้งแรก พร้อมเปิดตัวธุรกิจใหม่ต่อยอดความสำเร็จ

“แพลทินัม”ฉลอง18 ปี รุกแคมเปญแบรนดิ้งครั้งแรก พร้อมเปิดตัวธุรกิจใหม่ต่อยอดความสำเร็จ

“แพลทินัม”ฉลอง18 ปี

รุกแคมเปญแบรนดิ้งครั้งแรก

พร้อมเปิดตัวธุรกิจใหม่ต่อยอดความสำเร็จ

   นางสาวสุฐิตา โชติจุฬางกูร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการตลาด บริษัท เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  ในโอกาสที่ศูนย์การค้าแพลทินัมครบรอบ 18 ปี ถือเป็นก้าวแห่งความภาคภูมิใจสำคัญ สำหรับก้าวที่เติบโตขึ้นของศูนย์การค้า ซึ่งตลอดเวลาของการดำเนินธุรกิจที่ผ่านมานั้น แพลทินัมภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมพัฒนาอุตสาหกรรมธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก รวมทั้งการท่องเที่ยวของประเทศไทย อีกทั้งยังมีส่วนร่วมในการสร้างโอกาสสร้างอาชีพกระจายรายได้ให้กับผู้ประกอบการชาวไทยได้ดำเนินธุรกิจเติบโตมาตลอด 18 ปี และจะยังคงมุ่งมั่นตั้งใจเพื่อสร้างความภาคภูมิใจต่อไป…ไม่สิ้นสุด ตอกย้ำความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ “The Best Wholesale Fashion Hub of ASEAN” 

และในโอกาสพิเศษนี้ บริษัทฯ จึงได้สร้างสรรค์แบรนด์แคมเปญ “Platinum PROUD” ผ่าน VDO Viral   ซึ่งถือได้ว่าเป็นครั้งแรกของการทำแคมเปญสื่อสารทางการตลาดของบริษัทฯ ที่จะสื่อสารความผูกพันอันดีระหว่างคู่ค้าและลูกค้าที่มีต่อกันมาอย่างยาวนาน ภายใต้ Brand Positioning คือ “Bringing fresh fashion to you”ที่อยากให้ทุกคนมาสนุกและเผยความเป็นตัวตนกับแฟชั่นทุกสไตล์ที่สดใหม่เสมอที่แพลทินัม พร้อมสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้ทุกคนได้ก้าวเดินไปสู่ความสำเร็จควบคู่ไปกับภาคภูมิใจในการได้เป็นตัวของตัวเอง โดยจะเริ่มเผยแพร่ VDO ดังกล่าวในสื่อโซเชียลวันที่ 18 ธันวาคม 2566 นอกจากนี้ยังจะมีกิจกรรมการตลาดเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีร่วมกับแบรนด์ต่อเนื่องอีกมากมายตลอดปี 2567

สำหรับความคืบหน้าด้านธุรกิจของศูนย์การค้าแพลทินัมในปัจจุบัน เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นตามลำดับ มีลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้ามาใช้บริการภายในศูนย์การค้าฯ เฉลี่ย 55,000 คน/วัน เพิ่มมากขึ้นกว่า 65 % เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2565 โดยสัดส่วนเป็นคนไทย 30 % ต่างชาติ 70 % ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย อินเดีย และกลุ่มประเทศอาหรับ ด้านอัตราการเช่าพื้นที่ร้านค้าภายในศูนย์การค้า ปัจจุบันเฉลี่ย 90%

ทั้งนี้ในช่วงระยะเวลาที่ผ่าน บริษัทฯได้เดินหน้าปรับปรุงโซนต่างๆภายในศูนย์การค้าอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนที่ได้เปิดให้บริการไปเมื่อไม่นานนี้ ได้แก่ ศูนย์อาหารขนาดพื้นที่รวม 5,700 ตร.ม.  ณ บริเวณชั้น 6 โซน 1 และ 2 ภายใต้ชื่อ Platinum food floor MORE a MEAL รวมร้านค้าอาหารที่มีความหลากหลายพร้อมเสิร์ฟ   ความอร่อย มากกว่า 100 ร้าน และสำหรับโซนฟู้ดคอร์ทได้มีการพัฒนาระบบบัตรชำระค่าอาหารเป็นระบบสมาร์ทการ์ด รวมทั้งเพิ่มความสะดวกอีกระดับด้วยระบบแสกน QR Code PromptPay อีกด้วย

นอกจากนี้ยังได้เปิดให้บริการพื้นที่โซน 3 Beauty & Souvenir ที่มีสินค้าจำหน่ายทั้งในรูปแบบปลีกและส่ง   ขนาดพื้นที่รวม 6,000 ตร.ม. โดยปรับร้านค้า ชั้น 1 และชั้น 2 เป็นหมวดสินค้าและบริการเกี่ยวกับเครื่องสำอางและอุปกรณ์เกี่ยวกับความงาม สุขภาพ สปา เช่น ร้าน Eveandboy, Mistine, Oriental Princes,JOJI, รื่นรมย์,    ภูตะวัน ฯลฯ ส่วนชั้น 3 จะเป็นสินค้าแพคเกจฟู้ด เช่น ร้านชัยณรงค์, Fruit Paradise,YUMMY สำหรับชั้น 4      เป็นสินค้าของฝากของที่ระลึกเอกลักษณ์ไทย เช่น ร้าน Metal Art,Thai Boxing, Handmade Story

พร้อมเผยคอนเซ็ปท์ชั้น 5 ใหม่ล่าสุด ที่กำลังเตรียมปรับโฉมเร็วๆนี้ ให้เป็นกลุ่มร้านอาหารและคาเฟ่สไตล์ไทยๆ ที่มีความหลากหลาย เพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์พฤติกรรมของลูกค้าในยุคปัจจุบันและรองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่ชื่นชอบการช้อป ชิล ชิม แชร์ประสบการณ์แห่งความสุขไปพร้อมๆกัน โดยวางแผนจะเปิดบริการประมาณไตรมาส 2/2567 และเมื่อพื้นที่ให้บริการทั้งหมดของศูนย์การค้าพร้อมเปิดบริการอย่างครบครันแล้ว    คาดว่าทราฟฟิกจะเพิ่มมากขึ้นอีกกว่า 20 %

ด้านกิจกรรมสนับสนุนผู้ประกอบการร้านค้า บริษัทฯยังคงดำเนินงานสานต่อโครงการ ‘Platinum Empowering’ ซึ่งเป็นโครงการที่มุ่งเน้นพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการร้านค้าให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน โดยแผนงานในปี พ.ศ.2567 จะมุ่งเน้นส่งเสริมไปในด้านการขยายช่องทางการค้าให้กับร้านค้าทั้งแบบ B2B และ B2C คู่กันไปกับการผนึกกำลังภาครัฐและเอกชนผลักดันส่งต่อ Soft Power การออกแบบแฟชั่นไทยสู่สากลต่อไป

สำหรับความคืบหน้าธุรกิจอื่นๆในเครือของบริษัทฯที่น่าสนใจ ได้แก่อาคารสำนักงาน “Pier 111” ที่ตั้งอยู่บนโครงการมิกซ์ยูส เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก ราชประสงค์  มีพื้นที่รวม 38,000 ตารางเมตร สูง 32 ชั้น สร้างภายใต้คอนเซ็ปต์ “Countless Opportunities – Limitless Connectivity” เป็นโครงการที่คำนึงถึงสุขภาวะที่ดีของผู้ใช้งานอาคารและสังคมโดยรอบเป็นหลัก ตอบโจทย์คนยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพด้วยระบบฟอกอากาศภายใน และยังเป็นอาคารสำนักงานอัจฉริยะ Smart Office ที่ใช้เทคโนโลยีจัดการระบบอำนวยความสะดวก เช่น ระบบการควบคุมการเข้าออกด้วยเครื่องลงทะเบียนอัตโนมัติไร้การสัมผัส ทั้งนี้เพื่อความสะดวกและปลอดภัย โดยเลือกใช้เทคโนโลยีรุ่นใหม่ที่มีขั้นตอนใช้งานง่าย ทั้งยังโดดเด่นด้านการออกแบบ อีกทั้งแต่ละชั้นมีความสูงจากพื้นถึงเพดาน 3.25 เมตร ซึ่งเป็นความสูงที่สุดในอาคารสำนักงานย่านราชดำริ พร้อมด้วยที่จอดรถมากกว่า 1,400 คัน เดินทางสะดวกด้วย BTS สถานีชิดลม หรือ BTS สยาม ท่าเรือประตูน้ำ สำหรับทางเข้า-ออกอาคาร เชื่อมถนน 3 สายหลัก คือ ราชดำริ เพชรบุรี และชิดลม ซึ่งพร้อมให้เข้าเยี่ยมชมและเปิดให้จับจองพื้นที่ได้แล้วตั้งแต่วันนี้

นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจโรงแรมแห่งใหม่ ได้แก่ ม็อกซี่ แบงคอก ราชประสงค์ จำนวน 504 ห้อง ภายใต้การบริหารโรงแรม ในเครือแมริออท ที่ถือได้ว่าจะเป็นแบรนด์โรงแรม Moxy แห่งแรกในประเทศไทย และใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก เน้นจับกลุ่มนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัยที่มองหาความคุ้มค่า ประสบการณ์ที่สนุกสนาน และมีสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมชวนทุกท่านร่วมมาทำความรู้จักกับแบรนด์ Moxy ไปด้วยกัน ในช่วงเทศกาลแห่งความสุขเดือนธันวาคม 2566 ณ บริเวณลานกิจกรรมชั้น M ด้านหน้าศูนย์การค้าเดอะ มาร์เก็ต แบงคอก   ก่อนเปิดรับให้ผู้เข้าพักจริงอย่างเต็มรูปแบบ ภายในไตรมาส 1 ปี พ.ศ. 2567 โดยทั้งอาคารสำนักงาน Pier 111 และ Moxy Hotel จะมาเติมเต็มและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับเดอะ มาร์เก็ต แบงคอก อีกหนึ่งศูนย์การค้าในกลุ่มบริษัทฯใจกลางเมืองอีกด้วย

You may also like

แนวโน้มอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ไทย

ยอดขายขอ