โครงการสานใจไทย สู่ใจใต้ รุ่น 42 เสริมพลังเยาวชน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สร้างความรู้วิถีชีวิตที่แตกต่าง

โครงการสานใจไทย สู่ใจใต้ รุ่น 42 เสริมพลังเยาวชน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สร้างความรู้วิถีชีวิตที่แตกต่าง

โครงการสานใจไทย สู่ใจใต้ รุ่น 42

เสริมพลังเยาวชน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้

สร้างความรู้วิถีชีวิตที่แตกต่าง

   นายอารีย์ วงศ์อารยะ เปิดประชุมขับเคลื่อนโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่น 42 เสริมพลังเยาวชน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าโครงการฯให้มีความรู้วิถีชีวิตที่แตกต่าง เชื่อมสัมพันธ์ สร้างความสมานฉันท์ และเติบใหญ่เป็นพลเมืองที่ดีในอนาคต

ที่ห้องประชุมชั้น 2 อาคาร ศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายอารีย์ วงศ์อารยะ ประธานกรรมการมูลนิธิ “สานใจไทย สู่ใจใต้” เป็นประธานประชุมขับเคลื่อนโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 42 พร้อมด้วย ร้อยตำรวจโท อาทิตย์ บุญญะโสภัต เลขาธินุการกรรมการมูลนิธิ “สานใจไทย สู่ใจใต้” นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์  อธิบดีกรมการปกครอง นายรอมดอน  หะยีอาแว ผู้ช่วยเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กรมการปกครอง) และคณะกรรมการโครงการ ตลอดจนผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ผู้แทนระดับจังหวัดใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมประชุมเพื่อเตรียมคัดเลือกเยาวชนในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าร่วมโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 42

สำหรับ โครงการ”สานใจไทย สู่ใจใต้” เป็นโครงการที่เกิดขึ้นจากดำริของ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ โดยการสนับสนุนจากคณะกรรมการของมูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ มูลนิธิรักเมืองไทย และมูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กองทัพทุกเหล่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน นำเยาวชนจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ มาใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวอุปถัมภ์ในกรุงเทพมหานคร และจังหวัดใกล้เคียง เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้สภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวอุปถัมภ์ และชุมชนสังคมพหุวัฒนธรรม ทำให้เยาวชนได้รับประสบการณ์ตรง และมีความรู้ ความเข้าใจ บริบทของสังคมประเทศไทยมากยิ่งขึ้น จนนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครอบครัวอุปถัมภ์กับครอบครัวเยาวชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้โครงการ”สานใจไทย สู่ใจใต้” ได้ดำเนินการรุ่นที่ 1 ตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา

ในการนี้ นายอารีย์ วงศ์อารยะ ประธานกรรมการมูลนิธิ “สานใจไทย สู่ใจใต้” กล่าวว่า การดำเนินงานของ สานใจไทย สู่ใจใต้ ในอนาคต จะร่วมกับสถาบันปอเนาะ เพื่อการทำงานให้ดีมากยิ่งขึ้น พร้อมจะพัฒนาเยาวชน ชุมชน ให้มีการสร้างความเข้าใจในทุกมิติ เพราะสถาบันปอเนาะ คือวิถีชีวิตของชุมชนที่อยู่ในชุมชน โดยมีท่านบาบอเป็นประธานสถาบันปอเนาะ เป็นผู้มอบความรู้ สร้างคนดี ให้มีคุณภาพ หลังจากนี้ไปสถาบันปอเนาะจะเป็นหน่วยงานหลักในการสร้างสังคมให้เยาวชนเป็นคนดี คนเก่ง และมีคุณภาพ ภายใต้หน่วยงานราชการในพื้นที่ อยู่เบื้องหลังในการช่วยเหลือ เพราะนี่คือแนวความคิดของ ฯพณฯ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี / นายกมูลนิธิ “สานใจไทย สู่ใจใต้“ เป็นผู้ดำริฯ และ “ขอให้เยาวชนยึดมั่นคำสอนของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ที่สอนไว้ว่า “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน” การรักษาความเป็นไทย และความเป็นธรรม เพื่อช่วยเหลือ สร้างประโยชน์ให้ชาติบ้านเมือง” สืบไป

ปัจจุบัน โครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” ได้ดำเนินการไปแล้ว 41 รุ่น มีเยาวชนเข้าร่วม จำนวน 9,945 คน มีครอบครัวอุปถัมภ์ จำนวนกว่า 4,000 ครอบครัว โดยดำเนินการนำเยาวชนแต่ละรุ่นเข้าร่วมกิจกรรมในระหว่างปิดภาคเรียนช่วงเดือนเมษายน และเดือนตุลาคม ตามวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างโอกาสให้เยาวชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้วิถีชีวิตของครอบครัวอุปถัมภ์ในกรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียง และเพิ่มทักษะประสบการณ์ตรงในการเรียนรู้วิถีชีวิตความเป็นอยู่ในสังคมพหุวัฒนธรรม ความเป็นผู้นำ ผู้ตาม ในการอยู่ร่วมกันบนความหลากหลายของเชื้อชาติ ศาสนา ภาษา และวัฒนธรรมที่อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ตลอดจนเพื่อสร้างความสัมพันธ์ และช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันของครอบครัวอุปถัมภ์กับครอบครัวของเยาวชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้

You may also like

“มนพร”ย้ำห่วงความปลอดภัยช่วง”ลอยกระทง” กำชับ“กรมท่าอากาศยาน” เข้มมาตรการปล่อยโคมลอยใกล้สนามบิน

“มนพร”ย้