โครงการ…ช็อปช่วยใคร?
จะว่าไปแล้ว มันก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ สำหรับโครงการ “ช็อปช่วยชาติ” ของรัฐบาล คสช. ระหว่างวันที่ 11 พ.ย. –3 ธ.ค. เพื่อนำเอามาหักลดหย่อนภาษีสูงสุดได้ไม่เกิน 15,000 บาท แต่ปีนี้ อาจดูคึกคักกว่าครั้งก่อนๆ เพราะไม่เพียงห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ จะทำการ “ลด แลก แจก แถม” กับหลากหลายชนิดสินค้า โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้าและแฟชั่น ฯลฯ หากแต่สถานบริการ “อาบอบนวด” ที่อยู่ในข่ายรับอานิสงส์กับโครงการนี้ ต่างก็เร่งโหมโปรโมชั่นสุดๆ เช่นกัน
จากข้อมูลกรมสรรพากรปีที่แล้วบอกว่า ในจำนวน 70 ล้านคนไทยนั้น มีกลุ่มคนที่ต้องยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาราวกว่า 10 ล้านคน แต่จัดเก็บภาษีเป็นกอบเป็นกำจริงๆ ก็จากกลุ่ม “มนุษย์เงินเดือน” เพียงแค่ 4 ล้านคนเศษคิดเป็นรายได้เพียงกว่า 3 แสนล้านบาทเท่านั้น
น่าสนใจว่า…เมื่อมีโครงการ “ช็อปช่วยชาติ” ขึ้นมาแล้ว ยอดผู้ยื่นเสียภาษีฯ จะขยับพุ่งจากเดิมหรือไม่? สมมติว่ามีเท่าเดิมคือ 4 ล้านคน แต่ละคนใช้สิทธิ์ในโครงการนี้อย่างเต็มที่ หมายความว่า…จะมียอดเงินที่ผู้เสียภาษีนำมาหักลดหย่อนกับกรมสรรพากรสูงถึง 6 หมื่นล้านบาททีเดียว
มองเผินๆ อาจจะดูเยอะ แต่หากเทียบกับเม็ดเงินที่หมุนอยู่ในระบบเศรษฐกิจหลายรอบแล้ว “ทีมข่าวเศรษฐกิจ” เชื่อว่า…สิ่งนี้คงไปกระตุ้นภาวะเศรษฐกิจช่วงปลายปีได้มากยิ่งขึ้น เป็นผลให้กรมสรรพากรสามารถจัดเก็บภาษี ทั้งจากภาษีมูลค่าเพิ่มในทุกครั้งที่มีการซื้อขายสินค้าและบริการ รวมถึงภาษีเงินได้นิติบุคคลจากผลกำไรที่เพิ่มพูนของภาคธุรกิจ ได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ
“ในดีย่อมมีเสีย” แฝงอยู่? เช่นกันกับโครงการนี้ เริ่มมีบางสิ่งที่ถูกปูดออกมาจากโลกโซเชียล กล่าวคือ ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่บางแห่ง แอบทำการปรับขึ้นราคาสินค้าก่อนถึงวันเริ่มโครงการ “ช็อปช่วยชาติ” ปรับขึ้นมาเพื่อจะบอกกับลูกค้าว่า…ราคาที่วางขาย (หลังปรับราคาขึ้นแล้ว) นี้ ทางห้างจะปรับลดลงให้อีก พร้อมของแถมอื่นๆ ชนิด…ทั้งลดทั้งแถม! นัยว่าเป็นการกระตุ้น “ต่อมกระสัน” ของลูกค้าได้เร็วยิ่งขึ้น
แต่ข้อเท็จจริงก็คือ…ราคาที่ปรับลด และของแถมที่มีให้นั้น ลูกค้าแทบไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย เพราะห้างเหล่านั้น แอบปรับขึ้นราคามาก่อนแล้ว ถือเป็นกลยุทธ์ “อัปรีย์การตลาด” ที่น่าขยะแขยงจริงๆ ประเด็นคือ…มีหน่วยงานใดคิดจะ “เผยอหน้า” ออกมาปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนกันบ้างหรือไม่? สคบ. สำนักนายกรัฐมนตรี และรัฐบาล คสช. จะนั่งนิ่งเป็นเป่าสาก? กับสถานการณ์ข่าวโลกโซเชียลกันหรือไม่? เป็นเรื่องที่เราคนไทย…ห้ามกะพริบตา
ล่าสุดที่เห็น คือ กรณีที่นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดี กรมการค้าภายใน ออกมาขู่ว่าจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับผู้ประกอบการ กลุ่มนี้ แต่จะเด็ดขาดแค่ไหน? แต่หากปล่อยให้เรื่องนี้กลายเป็นเพียง “ไฟไหม้ฟาง” ทีมข่าวเศรษฐกิจ เกรงว่า…มันจะกลายเป็นว่า…โครงการดีๆ เช่นนี้ ถูกมนต์สะกดของกลุ่มนายทุน เพื่อทำการ “แปลงสาร” จนกลายเป็น…โครงการ “ช็อปช่วยใคร?” ไปเท่านั้นเอง
“ทีมข่าวเศรษฐกิจ”
สำนักข่าว ThaiBCCnews
Social Links