“โดนัลด์ ทรัมป์ vs. กมลา แฮร์ริส” ผู้ชนะจะมีผลกระทบโลกอย่างไร?

“โดนัลด์ ทรัมป์ vs. กมลา แฮร์ริส” ผู้ชนะจะมีผลกระทบโลกอย่างไร?

โดนัลด์ ทรัมป์ vs. กมลา แฮร์ริส”

ผู้ชนะจะมีผลกระทบโลกอย่างไร?

สุทธิชัย ทักษนันต์

วันที่ 5 พฤศจิกายน 2024 จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47

กรณีที่ โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้นำ US สิ่งที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้น คือ:

  • America First
  • อาจมีการถอนข้อตกลงทางการค้าระหว่างประเทศบางเรื่องที่เดโมแครตทำไว้
  • เพิ่มความตึงเครียดกับพันธมิตรแบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
  • เผชิญหน้าทางการค้ากับจีนมากขึ้น
  • มีกำแพงภาษีสินค้าจีนสูงขึ้น รวมถึงประเทศต่างๆที่ได้เปรียบทางการค้าสหรัฐด้วย
  • มีการแทรกแซงทางทหารกับต่างประเทศน้อยลง
  • ไม่สนใจปัญหาสิ่งแวดล้อม
  • กีดกันบริษัทเทคจีน โดยอ้างเรื่องภัยความมั่นคง

กรณีที่ กมลา แฮร์ริส เป็นผู้นำ US สิ่งที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้น คือ:

  • มีความร่วมมือทางทหารกับพันธมิตรต่างประเทศเหมือนเดิม และเพิ่มขึ้น
  • สนับสนุนทางทหารกับไต้หวัน
  • จะให้ความตระหนักกับประเทศต่างๆเรื่อง สิทธิมนุษยชน ประชาธิปไตย
  • ประนีประนอมกับจีนมากขึ้น มีทั้งกีดกันและร่วมมือกัน พยายามให้เกิดความสมดุล
  • โฟกัสกับปัญหาสิ่งแวดล้อม
  • คงความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีโลก
  • เน้นเรื่องความปลอดภัยทางไซเบอร์

ผลกระทบต่อประเทศไทย อาจไม่มีผลการะทบโดยตรงที่รุนแรงเหมือนที่จะเกิดขึ้นกับจีน

หากจีนโดนกีดกันการค้ารุนแรง จีนอาจใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออกมากขึ้น แต่ โดนัลด์ ทรัมป์ ก็มีแนวโน้มจะเล่นงานประเทศไทยที่ได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐฯด้วย แต่คงไม่รุนแรงเหมือนกับที่ทำกับจีน

เรื่อง ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน สิ่งแวดล้อม เป็นนโยบายสำคัญของ กมลา แฮร์ริส ของเดโมแครต และอาจกลายเป็นข้ออ้างต่างๆของสหรัฐอเมริกาที่จะทำให้ไทยเสียผลประโยชน์ด้านการค้า

ประเทศไทยต้องสร้างความสมดุลในความร่วมมือกับจีนและสหรัฐฯ ให้เหมาะสม อย่าให้ยักษ์ใหญ่รู้สึกว่าเราเอนเอียงไปทางไหนมากเกินไป

 

 

You may also like

คปภ.เดินหน้า! เปิดเวทีสัมมนาวิชาการด้านประกันภัย ประจำปี 2567 “Thailand Insurance Symposium 2024”

 นายชูฉั