โลกการเมืองไม่มีวันสงบสุขแม้ปลดล็อก!!

โลกการเมืองไม่มีวันสงบสุขแม้ปลดล็อก!!

 

โลกการเมืองไม่มีวันสงบสุขแม้ปลดล็อก!!

          ภายหลังจากที่ “โดนัลด์ ทรัมป์”ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กับ “คิม จอง อึล” ท่านผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือ ได้สร้างประวัติศาสตร์โลกด้วยการเซ็นสัญญาสงบศึกเรื่องอาวุธนิวเคลียร์ที่ได้มีการถ่ายให้คนทั้งโลกได้ดู

           ณ วันนี้ ประชาชนชาวโลกต่างก็เฝ้ามองว่าโลกจะปลอดจากอาวุธนิวเคลียร์หรือไม่  หรือว่าจะมีฝ่ายไหนฉีกสัญญาทิ้งก่อนมาจากเงื่อนไขที่แต่ละฝ่ายจะหาเหตุมาหาเรื่องให้เกิดวิกฤติอีก

           เรื่องการ “ปลดอาวุนิวเคลียร์” ต้องติดตามดูกันยาว ๆ และใจเย็น ๆ เพราะอะไร ๆ มันเกิดขึ้นได้เสมอในเรื่องการเมืองของโลก

            แต่ทว่า “โรงไฟฟ้านิวเคลียร์” ของแต่ละประเทศที่มีอยู่  ยังไง ๆ ก็ไม่มีทาง “ปลด” ทิ้ง เพราะมีประโยชน์อย่างมหาศาลต่อเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ประเทศนั้น ๆ แม้ว่า “นิวเคลียร์” มีมหันตภัยร้ายแรงก็ตาม  แต่มีประโยชน์อย่างมหาศาลต่อมวลมนุษยชาติ

            เนื่องจาก “นิวเคลียร์” หรือ “ปรมาณู” ทำให้เป็นเรื่องของสันติสุขได้  ซึ่งประเทศไทยก็มีตั้งสำนักงานประมาณูเพื่อสันติมานานแล้ว

            เพียงแต่ว่า  ที่นี่ประเทศไทยไม่มี “โรงไฟฟ้านิวเคลียร์” เท่านั้นเอง!!

          สำหรับที่นี่ประเทศไทยก็กำลังมีการถกเรื่อง “ปลด” เช่นกัน  แต่เป็นการ “ปลดล็อก” การเมือง

            โดยจะมีการพูดคุยกันระหว่าง คสช. กับ พรรคการเมือง ร่วมกับ กกต. เพื่อหาทางปลดล็อกการเมืองนำไปสู่การเลือกตั้งตามโรดแม็พที่ คสช.อยากให้มีบรรยากาศสันติและสงบทั่วประเทศ

           ไม่มีใครรู้ได้ว่า เมื่อ “ปลดล็อก” แล้ว  บรรดาพรรคการเมืองจะเฮกันถ้วนหน้า  หรือหน้าเบ้ไปตาม ๆ กัน

           เชื่อว่า พรรคการเมืองที่จัดตั้งขึ้นใหม่ส่วนใหญ่จะเออออแบบไม่มีปัญหา

           ยกเว้นพรรคการเมืองใหม่กับพรรคการเมืองเก่าบางพรรคที่จะมีเงื่อนไขให้มีปัญหาเกิดขึ้นมา  เพราะได้ประกาศว่าจะ “บอยคอต” ไม่เข้าร่วมวงถกการ “ปลดล็อก” กับ คสช.

            เนื่องจากกลัวว่าจะเป็นเครื่องมือเข้าล็อกให้ คสช.ในการสืบทอดอำนาจต่อไป!?!

           พรรคที่ลั่นวาจาว่าจะ “บอยคอต” เข้าร่วมวงถกโรดแม็พเลือกตั้ง  แต่ก็มิได้พูดว่าจะ “บอยคอต” การเลือกตั้ง!!

          ด้วยเหตุฉะนี้ ช่วงสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ทั้งพรรคเก่าและพรรคใหม่ “อยากเลือกตั้ง” กันทั้งนั้น  ซึ่งส่งผลให้บรรยากาศการเมืองไปในทางไม่สงบทางปากค่อย ๆ เพิ่มมากขึ้น

             โดยเฉพาะเรื่อง “ดูด” ที่ปรากฏเป็นกระแสข่าวในเวลานี้  ก็เป็นการเคลื่อนไหวตามธรรมดาทางการเมืองเมื่อจะมีการเลือกตั้งครั้งใหญ่หลังว่างเว้นมา 4-5 ปี

             โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยนั้น ตามข่าวว่าเลือดไหลไม่หยุด  เพราะคนดัง ๆ ของพรรคได้กระเด้งตัวออกมารวมกันเป็นกลุ่มก้อนในชื่อใหม่ให้เป็นที่โดดเด่นจดจำกันง่าย ๆ  เพื่อเข้าไปสมทบกับพรรคการเมืองใหม่ที่ว่ามาว่ามี  คสช. หนุนอยู่เบื้องหลัง

            ที่น่าจับตาดูเป็นพิเศษก็คือ “พรรคพลังประชารัฐ”  ที่มี “เสี่ยสมคิด  จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกรัฐมนตรี กำกับการแสดงอยู่  ที่ดูดอดีต ส.ส.เพื่อไทยเข้ามาซบกับพรรค

และ “พรรครวมพลังประชาชาติไทย”  ที่มี “เทพเทือก” เสี่ยสุเทพ เทือกสุบรรณ  แกนนำนกหวีด  เป็นผู้อำนวยการแสดงและการผลิต ที่ดูดจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์

             แกนนำทั้งสองพรรคก็กล่าวอวยพรให้สมาชิกของตนที่ถูกดูดโชคดี แต่แขวะว่าคนที่ออกจากพรรคไปมักจะสอบตก

          ว่ามาว่านักการเมืองที่บ๋ายบายจากพรรคเดิมไม่หวั่นถูกด่าหรือสอบตก เพราะไปอยู่พรรคใหม่มีโอกาสเป็นรัฐบาลมากกว่า??

            เชื่อได้เลยว่า  เมื่อไหร่ที่ คสช.ไขล็อกให้พรรคการเมืองทำศึกสงครามเลือกตั้งได้  รับรองว่าสถานการเมืองในบรรยากาศเลือกตั้งจะไม่มีวันสงบสุขและสันติทางปากอย่างแน่นอน

            การหาเสียงแบบ “เอาดีใช่ตัว  เอาชั่วใส่คนอื่น” ก็จะได้ยินกันบ่อย ๆ  แต่มีเทคนิคการพูดจาที่จะไม่ถูกฟ้องร้องว่าบิดเบือนความจริง

             บรรยากาศการเลือกตั้งที่ คสช.ตั้งความหวังให้มีความสงบและสันติ ไม่ขัดแย้งทะเลาะกันวุ่นวายก็คงจะฝันสลาย

             เพราะการเลือกตั้งไม่ว่าประเทศใดในโลกใบนี้    บรรยากาศชุลมุนทางการเมืองจะไม่มีทางสงบเรียบร้อยด้วยรสชาติจืดชืด   เพราะนักการเมืองทุกประเทศใช้ปากพูดให้สับสนวุ่นวายเพื่อตัวเองได้คะแนน  แต่ดิสเครดิตคนอื่น

             โลกเรามีสันติสุขและสงบด้วยการปลดล็อกนิวเคลียร์   แต่โลกการเมืองไม่มีทางที่ปลดล็อกความสงบสุขได้

            เพราะมนุษย์การเมืองมีปากเอาไว้พูดนั่นแล!!

                                               นายจักรยาน

                           

 

You may also like

ซีพีฯเดินหน้าพลิกโฉม “แมคโคร สาธร” ตอบโจทย์ธุรกิจศักยภาพสูง-กระตุ้นเศรษฐกิจกลางกรุง

ซีพีฯเดิ