ใบสั่งยาโรคเลื่อน (เลือกตั้ง) รักษาอาการอยู่ยาวๆ ได้!!
การเมืองไม่ว่าประเทศไหนในโลกนี้มีความเคลื่อนไหวไม่เคยหยุดนิ่ง ประเทศไทยของเราๆ ท่านๆ ก็ได้เดินหน้าไปทุกๆ วันแบบประเทศใครประเทศมัน
ดังเช่น “ประชาธิปไตยไทยนิยม” ของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ที่แจงสารพัดเหตุผลว่าเหมาะสมสำหรับประเทศไทยโอนลี่
แต่บรรดาพรรคการเมืองและอาจารย์นักวิชาการบางกลุ่มมีความเห็นต่างตามสิทธิเสรีภาพในสมองของทุกคน ก็ได้โอกาสประสานเสียงกันถล่มทางการเมืองไปถึง “บิ๊กตู” ว่าไม่เข้าใจประชาธิปไตยตามหลักสากล??
ซึ่งก็มิได้ทำให้ “บิ๊กตู่” อารมณ์เสีย หงุดหงิดแต่อย่างไร ตามที่ได้ให้สัญญาณต่อสาธารณชนว่า ตั้งแต่ต้นปี 2561 จะทำตนให้เป็นคนอารมณ์ดี ไม่หงุดหงิดง่าย!!
ขณะนี้การเมืองที่นี่ประเทศไทยได้เคลื่อนไหวไปในทิศทางที่มีกระแสออกมาว่าโรดแมปเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน 2561 นี้จะเลื่อนออกไปเป็นเดือนกุมภาพันธ์ 2562
ทั้งนี้และทั้งนั้น เพราะคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างกฎหมายลูกของรัฐธรรมนูญว่าด้วยที่มา ส.ส.ลงมติด้วยเสียงข้างมากให้กฎหมายดังกล่าวประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว โดยให้มีผลบังคับใช้ไปอีก 90 วัน
คณะกรรมาธิการฯ เสียงข้างมากให้เหตุผลว่าด้วยความหวังดีต่อบรรดาพรรคการเมืองที่ออกมาโวยวายว่าจะดำเนินการกิจกรรมของพรรคการเมืองไม่ทัน ไม่ว่าจะปัญหาสมาชิกพรรค ปัญหาไพรมารี่โหวต ก็เลยเห็นใจพรรคการเมืองต่างๆ จึงได้ขยายเวลาออกไปเพื่อทำกิจกรรมได้ทันเวลาที่จะไม่เป็นอุปสรรคต่อการเลือกตั้ง
ทว่าความประสงค์ดีนั้น ไม่ทำให้พรรคการเมืองร้องไชโยดีใจแต่ประการใด เพราะไม่ได้เป็นผู้ร้องขอ แต่เชื่อว่าเป็นความประสงค์ร้ายต่อกำหนดการเลือกตั้งที่มีเจตนาแฝงต้องการให้วันเลือกตั้งเลื่อนออกไปอีก 3 เดือนอย่างมีเลศนัยในการสืบทอดอำนาจที่เป็นการข่าวรับรู้อย่างไม่ลึกลับมานานเป็นปีๆ
แม้ว่ากรรมาธิการฯ สนช.จะออกมาปฏิเสธว่า ไม่ได้รับใบสั่งจาก คสช.ให้แก้ไขประเด็นร้อนดังกล่าว ซึ่ง “บิ๊กตู่” เองก็ปฏิเสธว่า ไม่มีใบสั่ง เป็นเรื่องของ สนช. รัฐบาลเข้าไปยุ่งแทรกแซงไม่ได้?
ณ วันนี้คนไทยทั้งประเทศคงรู้กันไปเรียบร้อยโรงเรียน คสช.แล้วว่า ท่านผู้ทรงเกียรติ สนช.ทั้งหลายจะลงมติในวาระที่ 3 เห็นชอบให้แก้ไขตามกรรมาธิการฯ หรือไม่ ซึ่งไม่มีอะไรซับซ้อนให้คิดหนักสมองไปเปล่าๆ
ที่แน่ๆ “บิ๊กตู่” ของบรรดาพ่อยกแม่ยกทั้งหลายก็ถูกกระหน่ำด้วยวาทกรรม “ผู้นำตระบัดสัตย์”และ “โมฆะบุรุษ” นับจากบัดเดี๋ยวนี้เป็นต้นไปเป็นระยะๆ ตามโอกาสและจังหวะที่เปิดให้ถูกโจมตี!?! ถ้ามาย้อนรอยดูการวางแผนอย่างแยบยลทีละขั้นทีละตอนที่ “เขาอยากอยู่ยาว” แล้ว ก็พอจะถึงบางอ้อ เป็นอย่างนี้นี่เอง
นับตั้งแต่หัวหน้า คสช.ใช้ ม.44 ออกคำสั่งปลดล็อกการเมืองแบบครึ่งๆ กลางๆ อ้างเหตุผลสถานการณ์การเมืองยังไม่น่าไว้วางใจ ส่งผลให้บรรดาพรรคการเมืองออกมาเจี๊ยวจ๊าวว่าต้องการรีเซ็ตพรรคการเมืองเก่า
เพื่อมุ่งหวังปูทางให้พรรคการเมืองใหม่ที่เตรียมจดทะเบียนตั้งพรรคใหม่แต่งองค์ทรงเครื่องกวักมือเรียกผู้สมัคร ส.ส.ได้พร้อมสรรพ โดยเฉพาะพรรคการเมืองที่ คสช.สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ส่วนเบื้องหน้าก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
จากนั้นก็มาถึงแผนให้ กรรมาธิการฯ สนช. แก้ไขประเด็นให้กฎหมายว่าด้วยที่มาของ ส.ส.มีผลบังคับใช้ได้เมื่อครบ 90 วัน หลังจากที่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ด้วยความเห็นอกเห็นใจพรรคการเมืองที่จะได้ส่งผู้สมัคร ส.ส.ลงเลือกตั้งได้เต็มร้อย
ปรากฏว่าเรื่องร้อนๆ นี้ บรรดาสื่อกระแสหลัก รวมทั้งสื่อทางโซเซียลมีเดียเรียงหน้าออกมารุมถล่ม “บิ๊กตู่” แต่เพียงผู้เดียว ไม่มีสื่อไหนเห็นด้วยเออออไปกับการแก้ไขประเด็นอยากอยู่ยาวดังกล่าว
มีกระแสหลายช่องทางปูดออกมาตรงกันว่า เพราะ สนช.ก็อยากนั่งอยู่ยาวเหมือนกัน เพื่อให้มีการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์การเมืองไทยว่า ผู้ทรงเกียรติจากการลากตั้งสามารถนั่งเก้าอี้ได้ 5 ปีทำสถิติมากกว่านักลากตั้งที่เป็นผลิตผลมาจาการปฏิวัติรัฐประหารหลัง 14 ตุลาคม 2516 เป็นต้นมา!!
เมื่อท่านผู้มีอำนาจในบ้านเมืองขณะนี้ ถือว่ามีอำนาจที่จะทำได้ (ใครจะทำไม??) ก็ทำไปเถิดให้สบายใจกันยาวๆ !!
ขอปิดท้ายวาทกรรมการเมืองที่มีการกล่าวกันว่า “อำนาจไม่ใช่คือความถูกต้อง แต่ความถูกต้องคืออำนาจ”
ผู้มีอำนาจทั้งหลายจงเจริญ สวัสดี!!
นายจักรยาน
Social Links