ไทยแลนด์ 4.0
ไม่สามารถใช้กับรถไฟไทยได้ ณ วันนี้
เชื่อว่าวันนี้ทุกคนได้ฟัง ได้อ่าน ได้รับรู้ถึงนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ กรณี หรือประเด็น 4.0 หรือไทยแลนด์ 4.0 เป็นวิสัยทัศน์เชิงนโยบายการพัฒนาเศรษฐิจ เพื่อก้าวสู่ยุคเทคโนโลยีที่ทันสมัย
แต่เชื่อไหมว่าเมื่อวันก่อนได้มีโอกาสเดินทางลงไปภาคใต้ ได้ใช้บริการรถไฟของการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. ซึ่งเป็นรถไฟที่มีมาในยุคสมัยรัชกาลที่ 5 พร้อมกับรัฐวิสาหกิจอื่น ที่พระองค์ท่านได้ริเริ่มขึ้นมาไม่ว่าจะเป็น การประปานครหลวง หรือแม้แต่กรมไปรษณีย์ไทยก็เช่นกัน คุณประโยชน์ที่พระองค์ท่านได้สร้างให้กับคนไทยนั้นมหาศาลยิ่งนัก
แต่เชื่อไหมว่าการรถไฟไทย ณ วันนี้ผ่านเวลามาแล้วกว่า 127 ปี เชื่อไหมว่าการรถไฟฯ เปลี่ยนแปลงไปอย่างช้าเอามากๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2433 จนถึงวันนี้ ก็นับว่าเปลี่ยนผู้ว่าการการรถไฟฯ มาแล้วนับไม่ถ้วน คนที่เข้ามาทำงานในยุคแรกๆ นั้นน่าจะเกษียณกันไปหมดแล้ว
ทั้งหมดที่กล่าวมาก็เพื่อจะบอกว่าการทำงานของการรถไฟฯ ไม่ทันแนวคิดของนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันเลยที่ประกาศให้ประเทศไทยเป็นไทยแลนด์ 4.0 เพราะเชื่อไหมว่ารถไฟวันนี้กับเมื่อที่ดิฉันเด็ก ก็ยังเหมือนเดิมทั้งการบริการ และความสะอาด ที่สำคัญการให้บริการของเจ้าหน้าที่ไม่มีการพัฒนาเดินหน้า คิดว่าผู้โดยสารมาขอความช่วยเหลือ ทั้งที่ วันนี้ ปีนี้ พ,ศ.นี้ ผู้โดยสารหรือประชาชนคือผู้ที่มารับบริการคุณต้องให้บริการที่ดี
ความสะอาดไม่ต้องพูดถึงมีแมลงสาบตัวเล็กๆ นับแล้วมากกว่า 10 ตัว คลาน ไต่ บนตู้รถไฟ ทั้งที่เป็นตู้นอนแอร์ ถามว่าทำไมเป็นแบบนี้บอกได้เลย เพราะมีการเสริมอาหารบนตู้ อาหารที่เสริมนั้นก็เป็นแหล่งเพาะอย่างดี
บนรถไฟแอร์เสริมอาหารเป็นข้าวกับแกงกะหรี่กับเนื้อพร้อมด้วยปลากรอบอีก 1 ซอง ถามว่าขึ้นรถไฟตามเวลา 17.30 น. จำเป็นต้องมีเสริมไหม แต่จริงๆ วันที่ขึ้นรถไฟนั้นเสียเวลาไป 1.20 ชั่วโมง โดยส่วนตัวคิดว่าไม่จำเป็นต้องเสริมอาหารเพราะมีตู้เสบียงซึ่งผู้โดยสารสามารถไปใช้บริการได้ และสามารถรักษาความสะอาดและควบคุมได้ ลดค่าจ้างพนักงานลงได้อีกด้วย และที่สำคัญสามารถควบคุมความสะอาดได้เลย เพราะรถไฟเวลาวิ่งบนที่สร้างมาตั้งแต่ ปี 2433 ลองนึกสภาพดูว่ากระเทือนขนาดไหน แล้วที่บนรถก็แคบมากนั่งแถวละ 2 คน ยิ่งถ้าไม่รู้จักกันก็จะนั่งแบบตัวแข็งเลย ไม่สามารถจะโดนเนี้อตัวกันเลย
จริงๆ แล้วการรถไฟฯ ควรจะดูแลพัฒนาให้มากกว่านี้ โดยเฉพาะเรื่องความสะอาด บนรถไฟไม่ควรจะมีแมลงสาบเลย พนักงานรถไฟก็ควรจะมีการอบรมยกฐานะให้ดูดีอย่างน้อยให้เทียบเท่าพนักงานบนรถ บขส. หรือจะเท่าสายการบินด้วยยิ่งดี ผู้บริหารระดับสูงควรจะลองไปนั่งรถไฟดูบ้าง เอาแบบอย่างพระองค์ท่านผู้ก่อตั้งการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่พระองค์ลงไปเยี่ยมราษฎร โดยไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า เชื่อว่าถ้าผู้บริหารการรถไฟเอาจริงเอาจังกับการบริหารงานของการรถไฟฯ ดีไม่ดีเราจะได้เห็นการรถไฟฯ ไม่ต้องรับภาระการขาดทุนซ้ำซากอีกต่อไปก็ได้ สิ่งที่ท่านต้องทำคือ
- เรื่องความสะอาดบนรถไฟ
- ปรับปรุงเรื่องการบริการที่ดี
- อาหารบนรถไฟไม่ต้องแจก แจกเฉพาะน้ำดื่มก็พอ
- ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลงให้มากที่สุด
- เรื่องความตรงต่อเวลาของรถไฟก็สำคัญมาก
- ดูแลเรื่องที่ดินรถไฟที่มีอยู่มากที่สุด เมื่อเทียบกับรัฐวิสาหกิจอื่นให้ได้รับค่าเช่าที่เหมาะกับยุคกับสมัย
ทั้งหมดนี้ผู้เขียนคิดจากสิ่งที่เห็นในขณะขึ้นรถไฟ ไม่ใช่คิดจากฝ่ายปฏิบัติ ผู้บริหารระดับสูงลองระดมสมองจากผู้ปฏิบัติงานดู และที่สำคัญลองลงไปตรวจการทำงานของลูกน้องบ้างก็ดีนะ ลองดูว่าพนักงานการรถไฟจะรู้จักผู้ว่าการการรถไฟฯ ไหม ถ้าผู้ว่าฯ เป็นผู้โดยสารรถไฟแบบคนธรรมดาจะได้ข้อมูลในการทำงานอีกมากๆ หรือจะให้ช่วยเป็นที่ปรึกษาก็ได้ยินดี ช่วยทำงานให้ฟรี ๆ
Social Links