“ไวรัสมัจจุราช” ป่วนไปทั้่งโลก   การเมืองไทยก็ป่วน “โควิด-19”??

“ไวรัสมัจจุราช” ป่วนไปทั้่งโลก   การเมืองไทยก็ป่วน “โควิด-19”??

 

"ไวรัสมัจจุราช" ป่วนไปทั้่งโลก   การเมืองไทยก็ป่วน "โควิด-19"??

นายจักรยาน

          ไวรัสมหาวายร้าย โควิด-19 ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO)ว่าเป็นไวรัสมหาวายร้ายที่ระบาดระดับโลกเรียบร้่อยแล้ว ที่ชาวโลกพึงตระหนักและระมัดระวัง

          หลาย ๆ ประเทศได้มีการปิดเมือง ปิดประเทศ ดังเช่นประเทศอิตาลีที่ได้ปิดประเทศเป็นประเทศแรก เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อและสังเวยชีวิตพุ่งทะลุพิกัดแทบทุกวัน

            ณ ปัจจุบันนี้ "ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ดุอุบัติใหม่" อาละวาดจนทำให้ทวีปยุโรปกลายเป็นศูนย์กลางของการระบาด เพราะมีผู้ติดเชื้อทุกวันเพิ่มขึ้นมากกว่าช่วงระยะเวลาที่ "เมืองอู่ฮั่น" ของจีนเริ่มระบาดมาก ทำให้แทบทุกประเทศในยุโรปต้องปิดพรมแดน ห้ามคนเข้าคนออกเพื่อสกัดกั้น "โควิด-19"

            และล่าสุดประเทศมหาอำนาจยักษ์ใหญ่อย่าง "อเมริกา" ก็ประกาศห้ามชาวยุโรปเดินทางมา ยกเว้นประเทศอังกฤษประเทศเดียว พร้อมทั้งประกาศเป็นภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ เพื่อป้องกันควบคุมเชื้อไวรัสมหันตภัยของโลกให้มีประสิทธิภาพ

            ประเทศอินเดียก็สั่งงดวีซ่านักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ  เพราะไม่ไว้ใจ "เขื้อมฤตยู" จะติดจากนักท่องเที่ยวเข้ามากระจายเชื้อในอินตระเดีย

            ประเทศฟิลิปปินส์ ก็สั่งปิด "เมืองมะนิลา" เมืองหลวงของประเทศ ไม่ให้เข้าออกจากเมือง  ประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์วัย 74 ปีที่เป็นวัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อมหาภัย  ก็เต็มใจให้แพทย์เช็กอย่างละเอียดว่ามี "โควิด-19" เข้ามาเพ่นพล่านในร่างกายหรือไม่

            ผู้นำประเทศแคนาดา ก็กักตัวเอง 14 วัน เพราะภริยาตัวเองติดเชื้อมหาประลัย และก็ให้แพทย์เจาะเลือดว่ามีเชื้อไวรัสล้างโลกอยู่ในตัวเองหรือไม่

            รัฐมนตรีสาธารณสุขประเทศอังกฤษก็ติดเชื่้้อ "โควิด-19" เป็นข่าวดังไปทั่วโลก และกำลังพักรักษาตัวเองให้อยู่รอดปลอดภัย

            นัการเมือง ส.ส.ของอิหร่านก็ถูกเจ้าไวรัสมรณะตัวนี้เล่นงานกันหลายคน!!

            ส่วนคนดาราดังระดับโลกหลาย ๆ คน ไม่ว่าดาราภาพยนตร์ หรือ ดารานักฟุตบอล ก็โชคดีที่ "เชื้อมัจจุราช" เข้าไปเยี่ยมเยียนในร่างกายตนเอง

            คาดว่าอีกไม่นานคงจะมีข่าวว่า มีผู้นำในประเทศยุโรปหลายคนมีติดเชื้่อมหันตภัยของโลกตัวนี้ที่แพร่กระจายไปอย่างเท่าเทียมกันในทุกชนชั้น

            สำหรับทื่นี่ประเทศไทย "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งงดฟรีวีซ่า 3 ประเทศคือ ฮ่องกง เกาหลีใต้ และอิหร่าน  และงดวีซ่าเมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย 18 ประเทศ 

            โดยผู้ที่ต้องการเดินทางมาไทยต้องยื่นขอวีซ่าที่สถานทูตไทย ณ ประเทศนั้น ๆ เหมือนในอดีต แต่ต้องมีใบรับรองแพทย์ เพื่อคัดกรองผู้ที่เข้าไทยปลอดเชื้อไวรัสมัจจุราช

            มีผู้ประสงค์แสดงความคิดเห็นแต่ไม่ประสงค์ออกนาม แนะมาว่า "ลุงตู่" ของบรรดาคนเชียร์ลุง น่าจะไปเจาะเลือดตัวเองว่าปลอดภัยจาก "ไวรัสโควิด-19" หรือไม่

            ถ้าผลออกมาเป็นลบ "ลุงตู่" ก็จะได้จัดการสยบเจ้าเชื้อร้ายในวงจำกัดได้อย่างมั่นใจ เพื่อสกัดกั้นไม่ให้มีการระบาดเข้าสู่ระยะที่ 3 ซึ่งจะเป็นระยะที่เชื้ออำมหิตจะได้ใช้เสรีภาพเต็มที่ในการทำร้ายใครต่อใครโดยไม่มีรู้แหล่งที่มาว่ามาจากไหน??

            ด้วยเหตุนี้ "ลุงตู่" ได้มีคำสั่้งจัดตั้ง "ศูนย์บริหารสถานการณ์กรแพร่กระจายของโรคติดเชื้อโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยให้เรียกย่อ ๆ ว่า "ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19" ขึ้นตรงต่อ "ลุงตู่" แต่เพียงผู้เดียว

            จำนวนผู้ติดเชื้อในไทยเพิ่มขึ้นทุกวัน  ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าประเทศไทยเรากำลังเข้าใกล้ระยะที่ 3 ในอีกไม่นานเกินรอ?? ด้วยเหตุฉะนี้และฉะนั้น ทุกองค์กรทุกภาคสวนของประเทศ รวมทั้งประชาชนทุกฝ่ายไม่ว่าฝ่ายต้านรัฐบาลหรือเชลียร์รัฐบาลต้องให้ความร่วมมือกันในการยับยั้งการระบาดของไวรัสตัวร้ายตัวนี้

            หลายประเทศในยุโรปไม่ว่าจะประเทศฝรั่งเศส และอิตาลี ได้มีคำสั่งห้ามชุมนุมทางการเมือง เพราะไม่รู้ว่าใครเป็นใครมีเชื้อมฤตยูอยู่ในตัวหรือไม่ เพราะอาจทำให้เจ้าไวรัสวายร้ายแพร่กระจายแบบหยุดไม่อยู่กู่ไม่กลับ

            และก็ไม่มีรายงานข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศว่า กลุ่มที่ไม่ชอบรัฐบาลและฝ่ายค้่านของประเทศน้้น ๆ ออกมาโวยวายแต่อย่างไร ทุกฝ่ายเข้าใจถึงสถานการณ์ดีว่าประมาทเจ้าเชื้อไวรัสสายพันธุใหม่ไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว

            ก็แสดงว่า "ม็อบ" ของประเทศประชาธิปไตยในยุโรปที่นักการเมืองไทยบางคนศรัทธาอย่างสูงส่งยัง "หลบ" ไม่กระหืออื้อฮือเย้ว ๆ ท้าทายกับความตาย!!

            ส่วนประเทศไทยมีคำส้่งห้ามการชุมนุมทางการเมืองไม่ได้  เพราะจะมีกลุ่มบุคคลสุดโต่งเสรีภาพออกมาโวยวายเสียงดัง โดยไม่สนใจสถานการณ์ว่าเชื้อไวรัสล้างมนุษย์โลกตัวว่ามีพิษภัยสุดโหดอย่างไร

            ด้วยเหตุฉะนี้เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2563 ได้เกิด "ม็อบ" 100 กว่าคนรวมตัวชุมนุมเพื่อเดินขบวนไปที่ยื่นหนังสือที่อาคารรัฐสภาเพื่อเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

            พร้อมทั้งมีเขียนป้ายว่า "ไม่แก้รัฐธรรมนูญ ให้ออกไป"  อ่านป้ายที่เขียนแล้วอาจตีความได้สองความหมายว่า ถ้า ส.ส.และ ส.ว.ไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้ออกไปทั้งสภาผู้แทน ฯ และวุฒิสภา

            ความหมายที่สองก็คือ ให้รัฐบาล"ลุงตู่" ออกไป ถ้าไม่แก้รัฐธรรมนูญ??

            แม้ว่าการรวมตัวกันชุมนุมจะมีหน้ากากอนามันปิดปากก็ตาม แต่ก็ไม่ใช่หมายความว่าจะป้องกันการติดเชื้อมหาภัยได้ 100 % เนื่องจากพิษร้ายเจ้าไวรัสตัวนี้ทะลุทะลวงจากการสัมผัสสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างไม่รู้เนื้อรู้ต้ว

            สำหรับที่นี่ประเทศไทย ไม่ว่าใครผู้ใด หรือ "ม็อบ" ไหนก็ตามที่ล้อเล่นท้ามัจจุราชกับ "ไวรัสล้างโลก" ด้วยความประมาท  ก็ขอให้โชคดีก็แล้วกัน!!

            ปัญหาเจ้าไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้ประชาชนคนไทยผวาไปตาม ๆ กันจนประสาทแทบรับประทาน  เมื่อมาเจอ "การเมือง" จากท่านผู้ทรงเกียรติที่เล่นสนุกกับ "ไวรัสมัจจุราช" เพื่อเขย่ารัฐบาล "ลุงตู่" จากวาทะกรรมว่า "พายเรือให้โจรนั่ง"

            ทว่าวาะกรรมดังกล่าวมีการเพิ่มเติมให้มีรสชาติทางการเมืองได้สะใจดีนักว่า "โจรพายเรือให้โจรนั่ง" !!

อ๊ะ อ๊ะ ขอความกรุณาอย่าตีความไปว่า "เรือเหล็ก" ทั้่งลำมีแต่โจร??

            ท่านสาธุชนทั้งหลายฟังข่าวสารการเมืองเรื่องยุ่ง ๆ ก็ถือซะว่าเป็นการผ่อนคลายความเครียดจาก "ไวรัสมรณะ" ก็แล้วกัน!!

          ไม่รู้เหมือนกันว่า ในวันใดวันหนึ่งข้างหน้า ถ้าถึงคราวจำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ "ประเทศไทย" ต้องปิดประเทศ หรือปิดบางเมือง หรือปิดกรุงเทพมหานคร

          แต่ก็คง "ปิดปาก" บรรดา ส.ส. ผู้ทรงเกียรติไม่ได้แน่??

 

You may also like

คปภ. เสริมมาตรการเชิงป้องกัน..! ตีกรอบบริษัทประกันภัยห้ามขยายธุรกิจ ในระหว่างดำเนินการโครงการเพื่อแก้ไขฐานะเงินกองทุน

 นายโสรั