กรมป่าไม้ผนึกชมรมคอลัมนิสต์ฯจัดแรลลีพิทักษ์ป่า

กรมป่าไม้ผนึกชมรมคอลัมนิสต์ฯจัดแรลลีพิทักษ์ป่า

          นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมด้วย นายณรงค์ ปานนอก ประธานชมรมคอลัมนิสต์ นักจัดรายการวิทยุและโทรทัศน์ไทย เป็นประธานร่วมในการแถลงข่าวการจัดกิจกรรม “แรลลี่ อ้อมกอดขุนเขา เรารักป่าในเมือง” จัดขึ้นโดย ชมรมคอลัมนิสต์ นักจัดรายการวิทยุและโทรทัศน์ไทย ภายใต้แนวคิด อนุรักษ์ป่า กอดขุนเขา เรารักป่าในเมือง ในเดือนแห่งความรัก ระหว่างวันที่ 22-23 กุมภาพันธ์ 2563 เส้นทาง กรุงเทพฯ – เขาอีโต้ จ.ปราจีนบุรี – ศูนย์วิจัยและพัฒนาการป่าไม้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ- สถานีวนวัฒนวิจัยสะแกราช (สถานีวนวัฒนวิจัยสะแกราช) อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ระยะทาง 237 กิโลเมตร ร่วมทำกิจกรรมปลูกป่ากับกรมป่าไม้ กิจกรรมสันทนาการยามค่ำคืนในสไตล์อินเดียนไนท์ เพื่อนำรายได้มอบให้มูลนิธิผู้พิทักษ์ป่าและรักษาทะเล

            นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวถึงการจัดกิจกรรมแรลลี่ในครั้งนี้ว่า ต้องขอขอบคุณหน่วยงานภาคเอกชนอย่างชมรมคอลัมนิสต์ นักจัดรายการวิทยุและโทรทัศน์ไทย ที่เล็งเห็นความสำคัญของทรัพยากรป่าไม้ของประเทศ ตลอดจนเห็นการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ดูแลป่า ที่ทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจ และเสียสละในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง พร้อมทั้งเป็นสื่อกลางที่ช่วยประสานกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการร่วมกัน ปลูกป่าที่ห้วยดงดำ พร้อมทั้งสร้างฝายชะลอน้ำในพื้นที่ป่าชุมชนห้วยตาด อ.ปง จ.พะเยา ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นน้ำยม เมื่อวันที่ 14-15 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา และสำหรับกิจกรรมแรลลี่ในครั้งนี้ที่จัดขึ้นโดย ชมรมคอลัมนิสต์  นักจัดรายการวิทยุและโทรทัศน์ไทยภายใต้ชื่องาน “แรลลี่ อ้อมกอดขุนเขา เรารักป่าในเมือง” ในวันที่ 22-23 กุมภาพันธ์ 2563 เส้นทางจากกรุงเทพฯ ถึง ศูนย์วิจัยและพัฒนาการป่าไม้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ-สถานีวนวัฒนวิจัยสะแกราช (สถานีวนวัฒนวิจัยสะแกราช) อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ที่จัดกิจกรรมขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเชิญชวนให้ประชาชนได้ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ได้รู้จักสถานที่ท่องเที่ยวป่าไม้ที่อยู่ในความดูแลของกรมป่าไม้

            ซึ่งเป็นการช่วยกระตุ้นให้เกิดกระแสการหวงแหนและดูแลทรัพยากรป่าไม้ พร้อมทั้งจะได้นำรายได้มอบให้กับมูลนิธิผู้พิทักษ์ป่าและรักษาทะเล เพื่อใช้ช่วยเหลือหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ รวมทั้งครอบครัวของผู้ปฏิบัติงานพิทักษ์ป่า ที่มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้มีสวัสดิภาพและคุณภาพในการปฏิบัติงาน ตลอดจนเป็นการเสริมสร้างและปลูกจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

            โดยทาง กรมป่าไม้ ได้เลือกศูนย์วิจัยและพัฒนาการป่าไม้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ-สถานีวนวัฒนวิจัยสะแกราช (สถานีวนวัฒนวิจัยสะแกราช) อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เป็นสถานที่จัดกิจกรรมหลักให้ผู้ที่เข้าร่วมงานได้ร่วมกันปลูกต้นไม้โดยการยิงหนังสติ๊กยักษ์ที่ผานางดำ ท้าพิสูจน์การปีนต้นไม้ด้วยเชือก นอกจากนี้เส้นทางสำหรับการจัดแรลลี่ ยังมีกิจกรรมที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ปั่นจักรยานเที่ยวป่าชมหน้าผาหินซ้อน เดินศึกษาธรรมชาติดูจุดกำเนิดต้นน้ำปราจีนบุรี ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นพร้อมทั้งปลูกจิตสำนึกให้เกิดความรักต่อทรัพยากรป่าไม้  โดยจะมีพิธีปล่อยขบวนรถแรลลี่ ณ กรมป่าไม้ ถ.พหลโยธิน ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2563  มุ่งหน้าสู่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการป่าไม้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ-สถานีวนวัฒนวิจัยสะแกราช( สถานีวนวัฒนวิจัยสะแกราช) จ.นครราชสีมา นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้พักค้างคืนแบบแนบชิดกับธรรมชาติด้วยการนอนเต็นท์ชื่นชมบรรยากาศยามค่ำคืน

            นายอรรถพล กล่าวต่อว่า ผู้ที่สนใจที่จะเข้าร่วมการแข่งขันสามารถติดต่อได้ทางผู้จัดกิจกรรม ชมรมคอลัมนิสต์ นักจัดรายการวิทยุและโทรทัศน์ไทย หรือดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่www.Livingexcellencenews.com เพียงคันละ 2,500 บาท และสามารถอ่านรายละเอียดการเข้าร่วมงานและกิจกรรมต่าง ๆ ได้ในใบสมัคร หรือสอบถามข้อมูล เพิ่มได้ที่ คุณชุติกาญจน์ ทัศคร เบอร์โทรศัพท์ : 099-419-5914 และคุณศักดา ทองพูล เบอร์โทรศัพท์ : 084-113-4144 

            “มาร่วมเดินทางไปด้วยกัน ชื่นชมธรรมชาติ นอนเต็นท์ชมดาว แรลลี่ อ้อมกอดขุนเขา เรารักป่าในเมือง”

            ทางด้านนายณรงค์ ปานนอก ประธานชมรมคอลัมนิสต์ นักจัดรายการวิทยุและโทรทัศน์ไทย ได้กล่าวถึงการจัดแรลลี่ครั้งที่ 1 นี้ว่า เป็นการจัดกิจกรรมต่อเนื่องของชมรมฯที่ได้ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช สลับกับกรมป่าไม้ในพื้นที่ต้นน้ำยม จังหวัดพะเยามา 4 ปีแล้ว ซึ่งเป็นที่พอใจระดับหนึ่ง ทำให้เกิดกระแสการรวมกลุ่มมวลชนจิตอาสาที่อำเภอปง พะเยา อันเป็นแหล่งกำเนิดแม่น้ำยม มีความตื่นตัวในด้านการปลูกป่ามากขึ้น

            “ความจริงก่อนหน้าที่จะไปปักหลักที่ต้นน้ำยม ชมรมฯก็ได้มีกิจกรรมปลูกป่ากับ 2 กรมหลักนี้ร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ในจังหวัดจันทบุรี กาญจนบุรี และชุมพรมาเป็นระยะๆเรื่อยมา จากนั้นก็มีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนอีกหลายแห่งได้เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวด้วย และเพื่อให้กระแสปลูกป่ารักธรรมชาติ เป็นเทรนด์ฮิตติดความนิยมอย่างยาวนานต่อไป ชมรมฯจึงเสนอกิจกรรมเสริมกับกรมป่าไม้ต่อด้วยการจัดแข่งแรลลี่ อ้อมกอดขุนเขา – เรารักป่าในเมือง ขึ้นโดยมีเส้นทางจากกรุงเทพ ไปเขาอีโต้ ถึงศูนย์วนวัฒนวิจัยสะแกราช อ.วังน้ำเขียว นครราชสีมา ในวันที่ 22-23 กุมภาพันธ์นี้ ”นายณรงค์ กล่าว และเสริมอีกว่า การจัดแข่งแรลลี่นี้จะไปแบบครอบครัวเพื่อต้องการให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ศึกษาสัมผัสกับป่าไม้ที่ทางกรมป่าไม้ได้ฟื้นฟูขึ้นมาจากป่าที่เคยถูกบุกรุกจนเสื่อมโทรมไปแล้ว

            ประธานชมรมคอลัมนิสต์ฯเผยอีกว่า กรมป่าไม้ได้ให้เกียรติกับชมรมฯในกิจกรรมดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่า การที่ประชาชนคนในเมืองได้เข้าไปสัมผัสกับป่าอย่างใกล้ชิดเท่านั้น ที่จะ “สร้างแรงบันดาลใจให้คนรักป่า และป่าก็จะสนองตอบต่อผู้คน- สัตว์และทุกสรรพสิ่งมีชีวิตได้อย่างมีความสุขกับธรรมชาติอย่างกลมกลืนที่สุด”

            “ที่ไหนมีป่า มีน้ำ ที่นั่นจะเป็นพื้นที่ที่สิ่งมีชีวิต รวมทั้งมนุษย์อยู่อาศัยเอื้อเฟื้อต่อกันอย่างสมบูรณ์พูนสุข ซึ่งจะแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับพื้นที่ที่แห้งแล้งเตียนโล่งปราศจากสิ่งจรรโลงชีวิตจิตใจ เปรียบราวฟ้ากับหุบเหวแน่นอน”นายณรงค์กล่าวทิ้งท้าย